“เด็จพี่” มีเขตลงแล้ว!! “เพื่อไทย” เปิดสาขาพรรคคลองสาน ส่งลงร่วม “สุวัฒน์ -เอนก” สู้เลือกตั้งใหม่ ด้าน “พงศ์เทพ” จี้ กกต.เร่งวินิจฉัย คดีเงิน 258 ล้าน ปชป. อย่าใช้เวลานาน แนะรื้อทิ้งรัฐธรรมนูญ 50 แล้วขุดเอาปี 40 มาใช้ เสนอหน้า ช่วยเขียนร่างให้ โววันเดียวก็เสร็จ
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขตคลองสาน ซอยเจริญนคร 28 โดยมีแกนนำพรรค ส.ส.ของพรรค สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนร่วมงานด้วย เช่น นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด ประธานวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ นอกจากนี้ยังมีประชาชนและกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมงานอย่างคับคั่งอีกด้วย ซึ่งในวันนี้ยังมีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ฝั่งธนฯ ในพื้นที่เขตคลองสาน เขตธนบุรี และเขตจอมทองด้วย มีนายเอนก หุตังคบดี อดีต ส.ส.กทม. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายสุวัฒน์ ม่วงศิริ อดีต ส.ส.กทม. เป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งใหม่
ด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากคดียุบพรรค กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบการยุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีเงิน 258 ล้านบาท เพื่อศึกษาข้อแตกต่างของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 2540 กับ พ.ร.บ.พรรคการเมืองปี 2550 ว่า เมื่อมีคนร้องเรียน กกต.ต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริง แต่กรณีเงิน 258 ล้านบาทนั้น ดีเอสไอได้สอบสวนมาระดับหนึ่งแล้ว กกต.ไม่ควรใช้เวลานานในการสอบสวน กรณีดังกล่าวถ้าผู้ใช้กฎหมายใช้อย่างเป็นธรรมประชาชนก็คงไม่มีความคลางแคลงใจในการตัดสินและมั่นใจในความเป็นธรรม เมื่อ กกต.ดำเนินการอะไรก็อยากให้คำนึงถึงความถูกต้อง มีความเป็นธรรม เพราะไม่ใช่ผู้พิพากษา แต่ทำหน้าที่ในการสอบสวน ทำความจริงให้ปรากฏในการตัดสิน จึงขอเรียกร้องจิตสำนึกของความเป็นผู้พิพากษาในการตัดสินโดยยึดหลักของกฎหมาย ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่ามีการร้องขอไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวอ้างหรือไม่ แต่การทำงานต้องมีมาตรฐานเดียวกัน ถ้าการทำงานของกกต.มีข้อแตกต่างระหว่างคดี ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ก็อาจทำให้คนสามารถมองและคิดได้เช่นนั้น ส่วนกรณีที่มีการมองว่ามีความพยายามที่จะยื้อคดีนี้ไปจนกว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ เพื่อให้รอดจากการถูกยุบพรรคนั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่า กกต.จะคิดอย่างนั้นหรือไม่ แต่ก็สามารถตั้งข้อสงสัยกันได้
นายพงศ์เทพกล่าวด้วยว่า สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น หากรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจริงจะใช้เวลาเพียงไม่นาน สามารถแก้ไขและนำรัฐธรรมนูญไปใช้ได้ โดยส่วนตัวยืนยันที่จะให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นตัวตั้ง เพราะปรับแก้ไม่กี่มาตรา ใช้เวลาเพียง 6 เดือนก็สามารถนำมาใช้ได้แล้ว เพียงเขียนบทเฉพาะการรองรับ แต่หากให้คณะกรรมการกฤษฎีกายกร่างคงใช้เวลา 2 วัน แต่หากไม่มีจะใช้ตนช่วยเขียนก็ใช้เวลาเพียงแค่ 1วัน อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 แก้ไข ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ยกร่างบนพื้นฐานที่ไม่ไว้วางใจของประชาชน ดังนั้น มีทางเดียวคือจะต้องรื้อทิ้งไปเลย จะนำมาใช้อีกไม่ได้