ศาลปกครองกลางนัดพิพากษาพรุ่งนี้ คดีทนายพันธมิตรฯ ฟ้อง “นพดล” และพวก ลงนามหนุนเขมรขึ้นทะเบียนพระวิหาร ขณะตุลาการผู้แถลงคดีเห็นควรจำหน่ายคดี ชี้ ครม.ชายจืดถอนมติดังกล่าวแล้ว ปัดชี้นำฟันธงล่วงหน้า ด้าน “นิติธร” จ่อฟ้องอาญา “ติงเหล่” หากศาลชี้ผิดจริง
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ศาลปกครองกลาง ศาลปกครองกลางนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีปราสาทพระวิหาร โดยนายชาชิวัฒน์ ศรีแก้ว ตุลาการศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะให้นายประศักดิ์ ศิริพานิช ตุลาการผู้แถลงคดี ทำการแถลงความเห็นด้วยวาจาต่อองค์คณะว่า เห็นสมควรให้จำหน่ายคดีดังกล่าวออกจากสารบบความ เนื่องจากเห็นว่าแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ลงนามตามความเห็นชอบมติคณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องที่ 2 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 สนับสนุนกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกต่อองค์การยูเนสโกนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการนำแถลงการณ์ร่วมไปใช้ และเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 คณะรัฐมนตรีได้มีมติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างแถลงการณ์ดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ ทางการไทยยังได้แจ้งคำสั่งของศาลปกครองที่ให้ระงับการใช้แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวไปยังยูเนสโกแล้ว ดังนั้น เหตุแห่งการบังคับคดีตามที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ผู้ร้องที่ 1 กับพวกรวม 13 คน ร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจึงถือว่าสิ้นสุดไปแล้ว
ทั้งนี้ การแถลงคดีของตุลาการผู้แถลงคดีดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันต่อคำพิพากษา ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการแถลงของตุลาการผู้แถลงคดี องค์คณะตุลาการศาลปกครองได้ฟังการอ่านคำพิพากษาศาลปกครองกลางต่อในวันที่ 30 ธันวาคม เวลา 10.00 น.
ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณาคดี นายนิติธร ล้ำเหลือ หนึ่งในผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า จะขอดูคำพิพากษาในวันที่ 30 ธันวาคมก่อน ซึ่งแนวทางที่วางไว้ จะทำการฟ้องคดีอาญาต่อผู้ที่ดำเนินการและผู้ที่เกี่ยวข้อง หากศาลพิพากษาว่าผู้ถูกฟ้องคดีรัฐมนตรีต่างประเทศ และคณะรัฐมนตรี มีความผิดจริงตามคำฟ้อง อย่างไรก็ตาม พวกตนก็จะดำเนินการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 190 เพราะจะทำให้ผลประโยชน์ของประเทศชาติได้รับความเสียหาย