ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งยกคำร้องของบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด 1 ใน65 บริษัท ที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระงับไม่ให้ได้รับการยกเว้น ชี้เป็นโครงการที่ได้ใบอนุญาตก่อนรัฐธรรมนูญ 50 บังคับใช้
วันนี้ (23 ธ.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องของบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด 1 ใน 65 บริษัทที่ศาลปกครอง มีคำสั่งระงับการดำเนินโครงการอุตสากรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่ขอให้ศาลฯ มีคำสั่งให้โครงการของบริษัทฯ เป็นโครงการที่ได้รับยกเว้น ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของคำสั่งศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 29 ก.ย.52 และคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.52 ด้วยเหตุว่าเป็นโครงการที่ได้ใบอนุญาตก่อนรัฐธรรมนูญ 50 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ส.ค. 50
ทั้งนี้ เหตุที่ศาลฯมีคำสั่งดังกล่าวระบุว่า เดิมศาลปกครองกลางมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ในคดีหมายเลข 908/52 ลงวันที่ 29 ก.ย. 52 ระงับโครงการหรือกิจกรรมรวม 65 โครงการไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยยกเว้น โครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับใบอนุญาตก่อนวันประกาศใช้บังคับรัฐธรรมนูญ 50 ซึ่งกรณีนี้ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโครงการอุตสาหกรรมบริษัทของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้ความเห็นชอบ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโรงงานผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณและเข็มพืดเหล็กกล้ารีดของ บ.เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด ที่ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 15 ส.ค.50 โดยให้บริษัทยึดถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และข้อเท็จจริงปรากฏตามเอกสารใบอนุญาตให้ใช้ที่ดินและประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมตามพ.ร.บ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 22 ส.ค. 50 ว่า บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบกิจการในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) เพื่อประกอบกิจการผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณและเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อน โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อนการก่อสร้างหรือดำเนินการ และใบอนุญาตดังกล่าวให้ใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.54 ดังนั้น โครงการฯของบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด จึงไม่ใช่โครงการหรือ กิจกรรมที่ต้องระงับเป็นการชั่วคราวตามที่ศาลปกครองกลางและศาลปกครองสุดมีคำสั่งไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ( 24 ธ.ค.) เวลา 13.30 น.ศาลปกครองกลางได้นัดไต่สวนในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 43คน ฟ้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กับพวกรวม 8 คน บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด กับพวกรวม 36 คน โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตเพิกถอนรายการวิเคราะห์ที่ไม่ชอบ อีกทั้งให้มีการจัดทำรายงานใหม่ให้ถูกต้อง
วันนี้ (23 ธ.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องของบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด 1 ใน 65 บริษัทที่ศาลปกครอง มีคำสั่งระงับการดำเนินโครงการอุตสากรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่ขอให้ศาลฯ มีคำสั่งให้โครงการของบริษัทฯ เป็นโครงการที่ได้รับยกเว้น ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของคำสั่งศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 29 ก.ย.52 และคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.52 ด้วยเหตุว่าเป็นโครงการที่ได้ใบอนุญาตก่อนรัฐธรรมนูญ 50 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ส.ค. 50
ทั้งนี้ เหตุที่ศาลฯมีคำสั่งดังกล่าวระบุว่า เดิมศาลปกครองกลางมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ในคดีหมายเลข 908/52 ลงวันที่ 29 ก.ย. 52 ระงับโครงการหรือกิจกรรมรวม 65 โครงการไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยยกเว้น โครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับใบอนุญาตก่อนวันประกาศใช้บังคับรัฐธรรมนูญ 50 ซึ่งกรณีนี้ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโครงการอุตสาหกรรมบริษัทของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้ความเห็นชอบ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโรงงานผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณและเข็มพืดเหล็กกล้ารีดของ บ.เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด ที่ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 15 ส.ค.50 โดยให้บริษัทยึดถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และข้อเท็จจริงปรากฏตามเอกสารใบอนุญาตให้ใช้ที่ดินและประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมตามพ.ร.บ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 22 ส.ค. 50 ว่า บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบกิจการในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) เพื่อประกอบกิจการผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณและเข็มพืดเหล็กกล้ารีดร้อน โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อนการก่อสร้างหรือดำเนินการ และใบอนุญาตดังกล่าวให้ใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.54 ดังนั้น โครงการฯของบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด จึงไม่ใช่โครงการหรือ กิจกรรมที่ต้องระงับเป็นการชั่วคราวตามที่ศาลปกครองกลางและศาลปกครองสุดมีคำสั่งไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ( 24 ธ.ค.) เวลา 13.30 น.ศาลปกครองกลางได้นัดไต่สวนในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 43คน ฟ้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กับพวกรวม 8 คน บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด กับพวกรวม 36 คน โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตเพิกถอนรายการวิเคราะห์ที่ไม่ชอบ อีกทั้งให้มีการจัดทำรายงานใหม่ให้ถูกต้อง
