“เด็จพี่” บุก ป.ป.ช.จี้เร่งทำคดีเกี่ยวกับคนพันคนรัฐบาลให้เสร็จ แยกเขี้ยวขู่ไม่คืบ 7-8 ม.ค.53 ยื่นถอนแน่ ยังจะแถ เรี่ยไรเงิน ส.ส.เพื่อแม้ว พาสื่ออาบน้ำแค่ไปเที่ยวน้ำตก จริงจริ๊ง ซัดคนเขียนข่าวฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ไล่ไปถาม “อนุดิษฐ์” สื่อคนไหนเอาเงินไป ยันยังอยู่ที่ “จอมถีบ” ครบ
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย นำโดย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคฯ เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ให้เร่งสะสางคดีค้างเก่าที่ใกล้หมดอายุความ โดยนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอให้ ป.ป.ช.เร่งรัดดำเนินคดีสำคัญๆ ให้เสร็จโดยเร็ว ได้แก่ 1.คดีการกล่าวหาคณะกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) เกี่ยวกับการขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินในราคาถูก มีมูลค่าความเสียหายกว่า 2 แสนล้านบาท 2.คดีกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 และน.ส.3 ก.ทับที่สาธารณะที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมืองสำคัญ 3.คดีกล่าวหาคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน 4.คดีกล่าวหานายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ในสมัยเป็น รมช.พาณิชย์ เกี่ยวกับการทุจริตโครงการยางพารา 5.คดีการถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมตรี กรณีขอให้บริษัทให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่งเอสเอ็มเอสจากนายกรัฐมนตรีไป ถึงประชาชนฟรี ซึ่งคดีเหล่านี้ล้วนเกี่ยวพันกับคนในรัฐบาล บางคดีใกล้หมดอายุความ แต่ ป.ป.ช.ไม่มีการเร่งรัดดำเนินคดี จึงน่าสงสัยถึงมาตรฐานการทำงาน หากไม่มีการชี้แจงต่อสังคมถึงความคืบหน้าเรื่องนี้โดยเร็ว พรรคเพื่อไทยจะยื่นตรวจสอบเพื่อถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่เกินวันที่ 7-8 ม.ค.ต่อหน่วยงานตามรัฐธรรมนูญ ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้คดีหมดอายุความ
นอกจากนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีการเรี่ยไรเงิน ส.ส.เพื่อไทยให้ผู้สื่อข่าว ระหว่างการจัดงานเลี้ยงปีใหม่พรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เพื่อให้ผู้สื่อข่าวไปอาบน้ำ ว่า เรื่องนี้เริ่มจากนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย มีความคิดจัดงานสังสรรค์ปีใหม่กับสมาชิกพรรคและผู้สื่อข่าว ในวันที่ 31 ธ.ค.หรือไม่ก็วันที่ 1 หรือ 2 ม.ค.53 จึงมีการพูดกันอย่างไม่เป็นทางการว่าจะพาไปเที่ยวทะเล เล่นน้ำตก ที่พัทยา หรือกาญจนบุรี โดยมีการลงขันกัน แต่มีการนำไปขยายความว่าจะพาไปลงอ่างอาบน้ำ เหมือนฤาษีแปลงสาร ทราบว่าคนที่เขียนข่าว ก็ไม่นั่งอยู่ในเหตุการณ์กับตน แต่ฟังมาเป็นทอดๆ ฟังมาเป็นบางท่อน แล้วไปเล่ากันต่อ ตนไม่ได้โทษเป็นความผิดผู้สื่อข่าว แต่เป็นการสื่อสารเป็นทอดๆ ตนพูดประโยคเต็ม แต่ก็ไปตัดตอนเอาแค่ 10% ข้อความจึงไม่สมบูรณ์ ซึ่งผู้สื่อข่าวพรรคเพื่อไทยเป็นผู้หญิงเกือบ 60% ถ้าบอกว่าจะพาไปอาบน้ำ เป็นเรื่องตลกไหม เรื่องนี้มันจบไปแล้ว เป็นเรื่องขำขัน
ส่วนกรณีที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีการมอบเงินให้ไปแล้วนั้น นายพร้อมพงศ์ตอบว่า ไม่มี ตนโทรศัพท์ไปถามนายการุณก็ยืนยันว่า ยังไม่มีการแจกเงินให้ใครแม้แต่บาทเดียว เงินยังอยู่ที่นายการุณ เมื่อถามย้ำว่า น.อ.อนุดิษฐ์บอกว่า มีการจ่ายเงินไปแล้วครึ่งหนึ่ง นายพร้อมพงศ์ตอบว่า ไม่ทราบ ต้องไปถาม น.อ.อนุดิษฐ์ เรื่อง นี้ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องของคนที่ไปแล้วช่วยกันลงขัน ไม่มีการแจกเงินแจกทอง เป็นเรื่องที่พูดกันไป อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับผู้บริหารพรรคเห็นว่า คงต้องยกเลิกการจัดงานสังสรรค์ปีใหม่ เพราะอาจสุ่มเสี่ยงต่อการมีปัญหาข้อกฎหมาย เนื่องจากพรรคมีกิจกรรมเลือกตั้งซ่อม ส.ส.มหาสารคาม และ จ.ปราจีนบุรี ในช่วงนั้นพอดี