"เก่ง"แหลได้อีก แจกเงินสื่อเล่นน้ำตก ส.นักข่าวจี้ต้นสังกัดสอบ

ASTVผู้จัดการรายวัน-"เก่ง จอมถีบ" เอาสีข้างเข้าถู อ้างลงขันพาสื่อเที่ยวน้ำตก ไม่ได้ไปลงอ่าง สมาคมนักข่าวฯจี้ต้นสังกัดสอบ ผิดจรรยาบรรณา

จากกรณี นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ได้เรี่ยไรเงินจากส.ส.ที่มาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. เพื่อให้ผู้สื่อข่าวไปอาบน้ำ (อาบ อบ นวด ) เป็นจำนวนเงินประมาณ 8 หมื่นบาท โดยมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่งไปนั้น ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงการกระทำดังกล่าว ทั้งผู้ให้ และผู้รับ

นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการประชุมกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ได้มีการรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประชุม ส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังการประชุมได้มีงานเลี้ยงสังสรรค์ ส.ส. ที่ไปร่วมประชุม และมีการเรี่ยไรเงินจากส.ส. พรรคเพื่อไทยในงาน โดยอ้างว่าเป็นการทอดผ้าป่า ไปให้สื่อมวลชน และยังมีนักการเมืองผู้หนึ่งกล่าวติดตลกอีกว่า เรี่ยไรเงิน พานักข่าวไปอาบน้ำ (อาบ อบ นวด)

ทั้งนี้ ที่ประชุมกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ พิจารณาแล้ว เห็นว่า

1 . นักข่าวที่เรียกร้องและรับเงิน ถือเป็นการกระทำที่ผิดข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ข้อ 22 ที่ว่า ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ต้องละเว้นการรับอามิสสินจ้างอันมีค่า หรือผลประโยชน์ใดๆ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการใด อันจะขัดต่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องรอบด้าน

นอกจากนี้ยังถือว่า เป็นการนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ และดูแคลนวิชาชีพตัวเอง ตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ข้อ ๒๐ อีกด้วย ส่วนนักการเมืองที่ให้อามิสสินจ้างอันมีค่าหรือผลประโยชน์ใด ๆ ยังถือว่าเป็นการให้สินบน และเป็นการดูแคลนวิชาชีพสื่อมวลชนอีกด้วย

2 . ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ ยังมีมติให้แจ้งต่อคณะกรรมการควบคุมจริยธรรม เพื่อขอให้ทำหนังสือถึงบรรณาธิการสื่อมวลชนทุกประเภท ให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า มีผู้สื่อข่าว หรือช่างภาพ ในสังกัดคนใดได้รับเงินด้วยหรือไม่ เนื่องจากการสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากผู้สื่อข่าวในงานเลี้ยง มี ส.ส. อ้างว่า ได้นำเงินประมาณ 80,000 บาท ให้ช่างภาพสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เพื่อแจกจ่ายแก่ช่างภาพช่องอื่นๆ

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจน และไม่ให้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวิชาชีพสื่อมวลชนโดยรวม จึงขอให้ผู้บริหารองค์กรสื่อฯ สอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎระเบียบของแต่ละองค์กร โดยเร็วที่สุด และสมาคมฯ ขอทราบผล เพื่อจะได้แถลงต่อสาธารณชนได้ทราบต่อไป

3.ประสานงานกับองค์กรวิชาชีพด้านวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ ถึงการดำเนินการในเรื่องนี้

อนึ่ง ที่ประชุมกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้มีการปรึกษาหารือถึงเหตุการณ์ช่วงก่อนปีใหม่ ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของนักข่าวว่า ต้องมีการตรวจสอบ และไตร่ตรองข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการรายงานข่าว ที่อาจเกิดผลกระทบต่อแหล่งข่าว และสร้างความสับสนต่อสังคมในข้อเท็จจริงต่างๆ และให้นักข่าวพึงตระหนักว่า การทำข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้ง มีความอ่อนไหว และมีผลกระทบต่อส่วนรวมสูง หากการทำข่าวขาดการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน

ทั้งนี้ ขอให้นักข่าวทุกคนยึดมั่นในการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และยึดหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์

** "เก่ง การุณ"อ้างพาไปเล่นน้ำตก

ด้านนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวปฎิเสธกรณีที่มีข่าวว่าเรี่ยไรเงินระหว่างงานเลี้ยงปีใหม่จำนวน 8 หมื่นบาท เพื่อนำนักข่าวไปอาบน้ำว่า ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษสื่อฯเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งขอเรียนสิ่งที่เกิดขึ้นตนเองกับพี่น้องส.ส.ที่อยู่ในโต๊ะมีความคิดว่าอยากสังสรรค์กับสื่อ หลังจากที่ร่วมทำงานมา 1 ปี ตนเองก็ได้ใช้หน้าตัวเอง กราบของเงินจากบรรดาพี่ๆ ส.ส.ว่า ขอเงินหนึ่งพันบาท โดยความตั้งใจคือ ต้องการเก็บเงินและรวบรวมไว้เพื่อใช้ในโอกาสที่เหมาะสม เพื่อร่วมสังสรรค์กับสื่อ ซึ่งขอยืนยันว่า ตนเองคุยกันในกลุ่มเพื่อทำสิ่งที่ดีๆ ซึ่งมันไม่มีอะไร ยืนยันได้ว่า ไม่ได้มีการมอบเงินให้กับสื่อทีวีบางช่อง แต่อย่างใด เงินที่รวบรวมได้ก็ยังอยู่ครบ ไม่ได้มอบให้ใคร

เมื่อถามว่า แต่ข่าวที่ออกมาบอกว่าให้สื่อฯ ช่องหนึ่ง นายการุณ กล่าวว่าในกระแสข่าวออกมาอย่างนั้น แต่ไม่ได้ออกมาจากปากตน เมื่อถามต่อว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุเอาเงินให้นักข่าวไปอาบน้ำ นายการุณ กล่าวว่า น่าจะเป็นอีกมุมหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นเพราะว่า โฆษกฯ เคยบอกว่าจะพานักข่าวไปเที่ยวน้ำตก หรือทะเล ยืนยันได้ว่า ตนคิดดี ไม่ทำให้ใครเสียหาย และเงินที่ได้ตอนนี้มีจำนวน7-8 หมื่นบาท ก็ยังไม่ได้ใช้อะไร ซึ่งหากไม่ได้ใช้ ก็จะนำไปทำกิจกรรมของพรรค

เมื่อถามว่าเป็นไปได้ว่า นายพร้อมพงศ์ พูดไปเพราะสนุกปาก นายการุณ กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น ซึ่งข้อมูลอาจคลาดเคลื่อน

นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้ไม่มีอะไร ทำเป็นเรื่องใหญ่โต ขณะที่นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ ว่า ไม่มีอะไร ใครที่ออกมาพูดแบบนี้ เสียหายหมด

**โวยสื่อไม่รับก็ไม่บอก

น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไร ก็แค่นายการุณ อยากให้ของขวัญปีใหม่นักข่าว จึงเสนอขอรับบริจาคจากคนที่มาร่วมงาน ตนก็ได้ถามนายการุณว่า เอาไปทำอะไร นายการุณ ตอบว่าให้นักข่าวเป็นค่าขนม ตนจึงควักไป 1 พันบาท

นอกจากนี้นายการุณ ยังบอกด้วยว่า รอบแรกให้ไปแล้ว 4 หมื่นบาท ส่วนนี้เป็นรอบที่ 2 แต่ตนไม่ทราบว่ามอบให้ใคร จากนั้นตนได้ไปคุยกับน้องๆนักข่าว ว่า รู้หรือไม่ว่า นายการุณ ทอดผ้าป่าเพื่อให้เป็นค่าขนม พูดกันแค่นี้ แต่สื่อเอาไปขยายความต่อ

"ถ้าไม่รับก็บอกว่าไม่รับ ใครไม่รับก็คืน แต่สื่อก็เอาไปเล่นเป็นข่าว เขียนขยายความว่าให้เงิน ให้ทอง ส.ส. ก็ถูกมองในทางเสียหาย" น.พ.ชลน่านกล่าว

**เลิกพาสื่อล่องเจ้าพระยา

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า น่าจะเป็นการเข้าใจผิด ที่ตนพูดว่าอาบน้ำนั้น เพราะนายการุณ ไปพูดคุยกับผู้สื่อข่าวบางคนว่า ช่วงปีใหม่พรรคอาจจะจัดกิจกรรมสังสรรค์ปีใหม่ให้กับสื่อ โดยอาจจะไปลงทะเล อาบน้ำทะเล หรือเล่นน้ำตกกันที่พัทยา หรือไม่ก็ กาญจนบุรี ไม่ได้หมายความว่าจะพาไปอาบน้ำในอาบ อบ นวด แต่ตอนหลังเห็นว่า พรรคได้เปลี่ยนแปลงการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ให้สื่อมวลชน เป็นการรับประทานอาหาร ระหว่างล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาแทนแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังการให้สัมภาษณ์ไม่นาน นายพร้อมพงษ์ ได้ติดต่อมายังผู้สื่อข่าวอีกครั้ง โดยระบุว่าได้หารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค ถึงการล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว แต่เนื่องจากพรรคมีภารกิจในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. มหาสารคาม และ จ.ปราจีนบุรี จึงขอยกเลิก เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาทางข้อกฎหมาย

**"ชายจืด"แจกนาฬิกาเรือนละล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานเลี้ยงปีใหม่ของพรรคเพื่อไทย เมื่อคืนวันที่ 23 ธ.ค. นั้น เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วีดีโอลิ้งก์เข้ามาที่ห้องจัดงานเลี้ยง และทักทาย ส.ส.ที่มาร่วมงานนั้น ช่วงหนึ่ง นายการุณ ได้พูดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า "หัวหน้าครับ งานวันปีใหม่ปีก่อนๆ ท่านเคยนำนาฬิกามาแจกพวกเรา แต่วันนี้ท่านไม่อยู่ ผมจะขออนุญาตขอนาฬิกาของท่านสมชาย (วงศ์สวัสดิ์) มาแจกได้ไหมครับ" ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงกับอึ้งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบเลี่ยงว่า " เมื่อกี้ภาพในจอผมเห็น คุณแดง ( นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย) เดินอยู่ในงาน จะไปเบิร์ดหัวใครก็ไม่ทราบ" เรียกเสียงหัวเราะครืน ในห้องจัดเลี้ยง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในงานยังได้มีการมอบรางวัล อาทิ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คให้กับส.ส.ของพรรคที่ขาดประชุมน้อยที่สุด ซึ่งมีส.ส.ได้รับทั้งสิ้น 14 คน นอกจากนี้ยังมีการจับรางวัลใหญ่ภายในงานด้วย คือ รถกระบะโตโยต้า วีโก้ ซึ่งในการจับรางวัลใหญ่นี้ พ.ต.ท.ทักษิณร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลคือนายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ

อย่างไรก็ตาม เมื่องานเริ่มเข้าสู่ช่วงดึก ส.ส. และผู้ร่วมงานบางส่วนเริ่มทยอยกลับ แต่ก็ยังมีส.ส.และผู้ใหญ่ของพรรคอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี ซึ่งทำหน้าที่โฆษกในงาน ได้ประกาศว่า ขอให้ส.สอย่าพึ่งกลับ เพราะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะมอบนาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลิป เรือนละล้านกว่าบาท ให้เฉพาะส.ส.ที่อยู่ในงาน ทำให้ส.ส.ที่กำลังจะกลับ รีบเดินไปที่หน้าเวทีทันที

หลังจากนั้นนายสมชาย ได้ขึ้นไปบนเวทีและทำการจับฉลากรายชื่อ ส.ส. โดยผู้ที่ได้รับรางวัลคือ นางนฤมล ธารดำรงค์ ส.ส.สมุทรปราการ ซึ่งนายสมชายได้กล่าวว่า ตัวนาฬิกาจะมอบให้ในวันที่ 30 ธ.ค.ที่ ตนจะจัดงานเลี้ยงอีกครั้งหนึ่ง ที่ จ.เชียงใหม่

จากนั้นนายสุชาติ ได้ประกาศว่า เมื่อมอบนาฬิกาให้กับส.ส.หญิงแล้ว ตอนนี้จะขอมอบนาฬิกาให้กับ ส.ส.ฝ่ายชายบ้าง โดย ส.ส.ชายที่ได้รับนาฬิกาคือ นายเรืองเดช สุวรรณฝ่าย ส.ส. ขอนแก่น ซึ่งนายสมชาย บอกว่า จะมอบนาฬิกาให้ เมื่อตนเดินทางไป จ.ขอนแก่น ครั้งต่อไป