xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.เสรี” ให้ รบ.B+ ชี้ถูกการเมืองรุมแก้ปัญหาได้ไม่เต็มที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเสรี วงศ์มณฑา
“ดร.เสรี” ให้ B+ ผลงานรัฐบาลคนรูปหล่อ ชี้วัดในแง่บริบทไม่มีโอกาสได้แก้เต็มที่เพราะปัญหาการเมืองรุมเร้า เชื่อไม่มีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ชม “มาร์ค” เปิดโอกาสให้คนร้องมากขึ้น ชี้สร้างสมานฉันท์ไร้ผลเพราะคนหนีคดีละเมิดนิติรัฐ ติงขาดความเด็ดขาด มี ส.ส.ใต้แต่ดับไฟใต้ไม่ได้ ทำคะแนนลด เผย “อภิสิทธิ์” แก้โกงไม่ได้มากเพราะเป็นหนี้ จึงโยนตั้ง กก.สอบแทน ซัดแต่ละกระทรวงพีอาร์ห่วย แนะ “เทพไท” แจงให้ตรงประเด็นอย่าเล่นคำ วอนนายกฯ อย่าฟังวอลเปเปอร์มาก

วันนี้ (24 ธ.ค.) ดร.เสรี วงศ์มณฑา ผู้อำนวยการหลักสูตรนิเทศศาสตรมหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวถึงผลงานรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ตนให้คะแนนรัฐบาลชุดนี้ในแต่ละด้านในระดับ B+ ซึ่งไม่ได้เอาใจและไม่ได้พิจารณาแง่ของผลงาน แต่พิจารณาในแง่ของบริบท เพราะต้องจะดูพัฒนาการด้านการทำงานไปเรื่อย เพราะงานชิ้นแรกอาจจะได้เกรด C แต่งานชิ้นต่อๆ ไป ชิ้นสุดท้ายกลับได้เกรด A ก็ได้

นายเสรีกล่าวอีกว่า เรื่องของเศรษฐกิจระหว่างการได้แก้กับการไม่มีโอกาสได้แก้ ตนเห็นใจในที่รัฐบาลชุดนี้ไม่มีโอกาสได้แก้ อย่างการท่องเที่ยวจะแก้ให้ดีกว่านี้ได้อย่างไรถ้าบรรยาการยังเป็นอย่างนี้ แนะนำให้ลองไปถามคนเชียงใหม่ก็ได้ว่าการท่องเที่ยวในช่วงนี้เป็นอย่างไร ยอดการท่องเที่ยวก็ลดลงมาก แล้วคะแนนจีดีพีจะขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้ รัฐบาลเข้ามาในช่วงแรกเงินก็ไม่มี ต้องรอจนกว่าเงินกู้ 8 แสน ล้านว่าจะผ่านหรือไม่จึงพอจะทำงานได้บ้าง พอได้เงินมาแล้วก็ต้องใช้หนี้นอกระบบ ประกันสินค้าราคาการเกษตร โปรเจกต์ก็จะเกิด ตนก็เห็นจากตรงนี้ว่าเศรษฐกิจเพิ่งจะได้เริ่มเข้าที่เข้าทาง

ส่วนกรณีมาบตาพุดรัฐบาลจะแก้ไข อย่างไรก็ตาม คนอย่างนายอภิสิทธิ์ไม่มีทางแทรกแซงกระบวนการศาล แต่ตนยกย่องที่นายกฯ ระบุว่าโครงการใดที่คิดว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตัวเองไม่ได้สร้างความเดือดร้อนสามารถยื่นหนังสือหรืออุธทรณ์ได้ ก็แสดงว่ารัฐบาลก็ยังดำเนินการตามกระบวนการศาล เพราะจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าไม่ได้

ส่วนผลงานด้านการสร้างความสมานฉันท์นั้น ดร.เสรี กล่าวว่า ถ้าเรารู้ว่าเรากำลังสู้อยู่กับใครเราจะเข้าใจ เพราะเจตนาอีกฝ่ายพูดชัดเจนว่าไม่คืนความเป็นธรรมให้กับเขา ถ้าไม่พ้นผิดก็จะไม่สงบ ส่วนนายอภิสิทธิ์พูดอยู่ตลอดว่าจะเจรจาอะไรก็ได้ จะปรองดองอย่างไรก็ได้ แต่ต้องไม่ละเมิดนิติธรรม ความเป็นนิติรัฐของไทยต้องดำรงอยู่

“ทางโน้นบอกว่าต้องกลับไปก่อน 19 ก.ย.49 นำรัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้ ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ สิ่งที่ทางโน้นตั้งข้อแม้คือไม่ต้องเจรจาแล้วถ้าไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง หากได้ตามข้อแม้ถ้าเป็นผมได้เงื่อนไขนี้ก็จะไม่เจรจาเลย บอกได้เลยถ้าเป้าหมายนี้ ต่อให้อดีตประธานาธิบดีทั้งหมดของสหรัฐฯ มาดำเนินการก็ไม่ได้ ในขณะเดียวกันการสมานฉันท์นั้นถ้าจะให้เกิดผลอะไรแล้วจึงให้คะแนนรัฐบาล ผมมองว่าชาตินี้ไม่มีทางให้คะแนนกับรัฐบาลได้ ถือว่าในภาวะอย่างนี้รัฐบาลประคับประคองไม่ให้เกิดเหตุการณสงครามประชานได้ ก็ให้คะแนนรัฐบาลได้” ดร.เสรี กล่าว

ดร.เสรี กล่าววิจารณ์ตัวของนายอภิสิทธิ์ว่า ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมารัฐบาลก็ทำอะไรได้พอสมควรท่ามกลางติดกับดักของภาพลักษณ์นายกฯ เพราะอะไรที่ทำแล้วโดนวิพากษ์วิจารณ์จะไม่ทำ แต่พอถึงเวลาที่ต้องเด็ดขาดในช่วงเมษาฯก็ทำหน้าที่ใช้ได้ หรือการตัดสินใจไม่เดินทางไปเชียงใหม่ไปจุดไฟ เป็นการตัดสินใจที่ใช้ได้ แต่ถ้าดื้อดึงจะไปเพราะเป็นนายกฯประเทศไทยก็ต้องไปให้ได้จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ แต่ด้วยเงื่อนไขต่างๆ นายกฯ ก็ยังยืนกรานในเรื่องนิติธรรม

“ถ้าจะปรับคะแนนที่ไม่ให้ถึง A เพราะว่ารัฐบาลขาดความเด็ดขาดและติดกับดักภาพลักษณ์ การตัดสินใจอะไรบางอย่างอาจจะถูกต้อง แต่จะโดนวิพากษ์ก็จะไม่ทำ กรณีเรื่องสตช.ที่ยังไม่คืบหน้า เอาจะป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้รับคำชมแต่เป็นการตัดสินใจที่จำเป็น จะตัดคะแนนก็ตรงนี้” ดร.เสรีกล่าว

ส่วนผลงานด้านการปราบคอร์รัปชัน ดร.เสรี กล่าวว่า ปัญหาเรื่องคอร์รัปชันถึงแม้จะใช้วิธีการเตะถ่วงตั้งคณะกรรมการต่างๆ แต่ตนเห็นว่าเขาเป็นคนที่จะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นกรณี NGV 4,000คัน ก็ไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น แต่ทว่านายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ที่มีเจ้าหนี้ แต่การติดหนี้ก็ไม่ได้เห็นประโยชน์แก่ตำแหน่งของตน โดยเรียกว่าเกี้ยเซี้ย เช่น ปัญหาทุจริตกระทรวงสาธารณสุขก็สั่งสอบ ชุมชนพอเพียงก็สั่งสอบ คนก็วิจารณ์กันว่ารูปหน้าปะจมูกอยู่หรือไม่ ตนว่าไม่ใช่ เขาจะไม่หักพร้าด้วยด้าเข่าเพราะว่าเขาเป็นหนี้

“แต่ในความเป็นหนี้ นายอภิสิทธิ์ก็ใช้ลีลาของเขาในการใช้หนี้เขาไม่ทำลายประเทศ อย่างที่นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า 1 ปีที่ผ่านมาท่านเชื่อว่าไม่มีการทุจริต แต่ผมเติมให้ว่า แต่มีความพยายามที่จะทุจริตของบางคนและบางส่วน แต่ด้วยลีลาของคุณอภิสิทธิ์ การทุจริตจริงๆ ก็ไม่เกิดขึ้น แต่ความพยายามมีอยู่ ทั้งภายในพรรคของนายกฯและภายในนอกพรรคเอง” ดร.เสรีกล่าว

ดร.เสรี กล่าวถึงการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า นี้เป็นเรื่องที่แย่ เป็นอีกส่วนที่ถูกตัดคะแนน เรื่องภาคใต้นั้นขยับช้าและผิดหวังที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็มี ส.ส.ภาคใต้ อยู่มาก แต่ยังทำอะไรไม่ได้ดีเท่าที่ควร ตัดคะแนนเพราะไม่มีการตัดสินใจในเรื่องบางเรื่อง ในขณะเดียวกันก็เรื่องของภาคใต้ ส่วนกรณีเรื่องของสถาบันรัฐบาลทำได้ดีมาก ถือว่าเป็นเรื่องที่ใช้ได้ที่รัฐบาลเดินมาไกลมาก

ส่วน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดร.เสรี กล่าวว่า รัฐบาลก็เดินถูกทางมาระยะหนึ่ง จนกระทั่งฝ่ายหนึ่งคิดขึ้นได้ว่าทางรัฐบาลอาจจะต้องอยู่อีกนาน จึงมายืนยันว่าจะเอารัฐธรรมนูญ 2540 แต่นายกฯพูดว่าบางเรื่องที่ไม่เป็นธรรมก็จะแก้ไขแล้วคืนความเป็นธรรม หมายถึงมาตรา 190 กับ ม.237 และอะไรที่ไม่เป็นธรรมต้องคืนความเป็นธรรม เพราะฉะนั้นเห็นว่าเรื่องรัฐธรรมนูญทางนายอภิสิทธิ์ก็ได้ดำเนินการมา ส่วนกรณีการยุบสภานายอภิสิทธิ์ก็พูดชัดเจน 3 ข้อ 1.เศรษฐกิจต้องดีขึ้น 2.คนต้องสมานฉันท์จนคนลงหาเสียงได้ทุกพื้นที่โดยไม่มีการขับไล่ 3.กติกาแก้ให้เกิดการยอมรับ 3 คน หรือ 1 คน ต่อเขต ตลอดจน ส.ว. จะมาอย่างไร ส.ส.สัดส่วนจะมาอย่างไร กติกาตอนนี้ดูเหมือนว่าจากมีการเลือกตั้งหลายคนไม่พอใจ เพราะฉะนั้นตนให้คะแนนรัฐบาลนี้ภายใต้เงื่อนไขอันจำกัด

ส่วนการประชาสัมพันธ์การทำงานของรัฐบาล ดร.เสรี กล่าวว่า คนที่อยู่ในกระทรวง ทบวง กรม ต้องไม่ขี้เกียจ บางคนเป็นงานแต่ก็ขี้เกียจ บางคนขี้เกียจแต่ก็ไม่เป็นงาน ดังนั้นอันนี้จะไปวิพากษวิจารณ์นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ คนเดียวไม่ได้ เพราะนายสาทิตย์นั้นเป็นคนที่ควบคุมสื่อ รับผิดชอบประชาสัมพันธ์เท่านั้น แต่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คือ กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งมีทั้งโฆษกฯ ฝ่ายราชการและโฆษกการเมือง คนเหล่านั้นต่างหากที่ไม่เอาเราเป็นแนวร่วม และตนทำรายการอยู่ก็ไม่ได้มีใครมาความร่วมมือในการเอาข้อมูลมาให้ช่วยเผยแพร่ให้

ส่วนข้อเสียของนายอภิสิทธิ์ ดร.เสรี กล่าวว่า คงเป็นการตอบโต้ต่อกรกันผ่านวอล์เปเปอร์ ตนอยากให้นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่าสรรหาคำมาเยอะมากนัก จะชี้แจงอะไรที่มันเป็นความจริงก็ได้ไม่จำเป็นที่จะเล่นคำ สร้างคำ ส่วนการจะใช้คำอธิบายแบบโฆษกพรรคประชาธิปัตย์เขาชี้แจง อธิบาย ไม่ได้ไปต่อความกับใคร อย่างไรก็ตามปัญหาของนายอภิสิทธิ์อีกประการคือการฟังวอลเปเปอร์มากไป จนทำให้คนภายนอกส่งเสียงไปไม่ถึงนายกฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น