“อภิวันท์” ฉายหนังเก่า! แนะยึดมาตรฐานเดียว นิรโทษการเมืองแก้สังคมขัดแย้ง

รองประธานสภาเสื้อแดง “อภิวันท์” ใช้เวที ส.พระปกเกล้า พล่ามชี้รัฐสภาไม่ได้เป็นอิสระจากฝ่าย บริหารและตุลาการ สุดมั่นใจ ส.ส.ไทยเกินครึ่งมีคุณธรรม จริยธรรม โบ้ยทีวีถ่ายสดแต่อภิปราย คนจึงเห็นความขัดแย้ง ซัดรัฐธรรมนูญ 50 เผด็จการซ่อนรูป วอนทุกฝ่ายช่วยกันแก้ เซ็ง เสนอวิธีแก้ความขัดแย้ง สังคมไม่ตอบรับ แนะยึดมาตรฐานเดียว ให้อภัยโทษ นิรโทษกรรมคดีการเมือง

วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่รัฐสภา สถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับรัฐสภา และกระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการสัมมนา เรื่อง “การเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจในทางการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ แก่ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน” ครั้งที่ 3

โดย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 กล่าวปาฐกถา หัวข้อ “บทบาทรัฐสภาในการสนับสนุนการพัฒนาประชาธิปไตยตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ” ว่า ต้องยอมรับความจริงว่ารัฐสภา ไม่ได้มีอิสระจากอำนาจอีก 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายบริหารและตุลาการ อย่างไรก็ตามคนมองว่า ส.ส.อาจมีหน้าที่อย่างเดียวคือการออกกฎหมายแต่จริงๆ แล้วส.ส.มีหน้าที่นอกจากออกกฎหมายแล้ว คือการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกระทู้ถามสด หรือการเป็นกรรมาธิการ นอกจากนี้มีหน้าที่ในการสะท้อนปัญหาของประชาชนไปยังพรรคและรัฐบาลเพื่อนำไป แก้ไข แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับความจริงว่าระบบข้าราชการไทยไม่สามารถพัฒนาให้ มีความเสมอภาคได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ส.ส.ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมทั้งด้านคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งตนเชื่อว่า คุณภาพ ส.ส.ในปัจจุบันนี้เกินครึ่งมีคุณธรรมและ จริยธรรม แต่ที่เห็นความขัดแย้งในสภาฯนั้นก็เพราะว่าสภาฯเป็นพื้นที่ที่ใช้ปาก

ที่ผ่านมาสภาฯ ได้มีการพิจารณาออกกฎหมายไปหลายฉบับ แต่วิทยุและโทรทัศน์ไม่ได้ถ่ายทอด แต่จะถ่ายทอดเฉพาะเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงทำให้แต่เห็นถึงความโต้เถียงขัดแย้ง ส่วนที่มีหลายฝ่ายมองว่ารัฐธรรมนูญถือว่าเป็นกฎหมายสูงสุดที่จะนำบ้านเมืองไปสู่ ประชาธิปไตย ตนเห็นว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นแค่เครื่องมือหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองไปสู่ ประชาธิปไตยได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือประชาชน แต่ชนชั้นใดออกกฎหมาย กฎหมายนั้นก็จะเอื้อให้กับชนชั้นนั้น ซึ่งรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร ก็จะเป็นเผด็จการทุกครั้งไปไม่เว้นแต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีการพัฒนากลายเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการแต่ซ่อนรูป ดังนั้น หน้าที่ของทุกคนคือต้องช่วยกันในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองด้วยสันติ วิธี

พ.อ.อภิวันท์ ยังกล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้ความขัดแย้งในสังคมมีมากทุกระดับ ตนเคยเสนอวิธีแก้ไข 4 ประการแต่กลับไม่ได้รับความสนใจ ทั้งที่ความจริงหากทำได้จะช่วยสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกับสังคม คือ 1.ต้องยึดหลักข้อเท็จจริง ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาเราต้องยอมรับความจริงว่ามีการแย่งชิงอำนาจของคน 2 กลุ่ม 2.หลักยุติธรรม คือต้องยึดหลักมาตรการเดียวกัน ใครทำผิดต้องได้รับการลงโทษ เพื่อรักษาวินัยของบ้านเมือง 3.หลักเมตตาธรรม คืออะไรเมตตาได้ควรเมตตา อะไรอภัยได้ควรอภัย ไม่ว่าจะเป็นการอภัยโทษ หรือนิรโทษกรรมในคดีการเมืองไม่ใช่คดีอาญา และ 4.ยึดหลักการเดินสายกลาง โดยต้องยึดหลักแก้ไขปัญหาแบบสร้างสรรค์