ปธ.สภาที่ปรึกษา ปชป.ยึดหลักอารยประเทศ ไม่สนเขมรจี้เปลี่ยน รบ.ไทย แนะ อย่าเต้นตาม แม้จะไม่สะใจก็ตาม เสนอควานหาความจริงเรื่องดักฟังโทรศัพท์ ไม่หวั่น “แม้ว” ใช้เขมรเป็นฐานเคลื่อนไหวการเมือง เชื่อ “มาร์ค” รักษากติกา พร้อมรับมือได้ สอนฝ่ายค้านอย่าตกเป็นเครื่องมือให้ชาติอื่น ยอมรับคาใจผลคำตัดสินศิวรักษ์ แต่ต้องเคารพศาลเขมร
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาว่า รัฐบาลไทยต้องถือหลักอย่างที่อารยประเทศเขาทำกัน เพราะว่ารัฐบาลไทยก็ไม่ได้ทำอะไรตามอำเภอใจได้ เพราะเรายังมีกฎหมาย มีระเบียบ มีกฎเกณท์ หากเรายึดในสิ่งนี้เราก็จะรักษามาตรฐานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไปได้ อย่าไปทำอะไรด้วยความสะใจ แต่ต้องยึดความถูกต้องซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด รัฐบาลกัมพูชาจะทำอย่างไรก็ตามก็เป็นเรื่องของเขาไป แต่เราต้องยึดกติกาที่อารยประเทศเขาพึงปฏิบัติกัน เพราะในกรณีของประเทศเราในเรื่องการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน นายกรัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินก่อน จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจกับฝ่ายบริหาร ที่จะไปชี้ขาดว่าจะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ แต่ของกัมพูชานายกฯ สามารถบอกได้ก่อนว่าไม่ส่ง อย่างนี้ก็แสดงว่ากฎหมายเรากับเขาไม่เหมือนกัน เราจึงต้องยึดแนวของเราไว้ ส่วนเรื่องการดักฟังโทรศัพท์นั้น ประเทศไทยต้องยึดหลักสากล หลักของกฎบัตรสหประชาชาติว่าสถานทูตที่มาตั้งในประเทศไทยเราก็ต้องไม่ไปดักฟังโทรศัพท์เขา แต่กัมพูชาจะดักฟังหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ยิ่งเราเห็นพฤติกรรมอะไรที่ไม่ปกติ เราก็ต้องยิ่งยึดหลักของเราให้แน่นไว้ เพราะคิดว่าวันข้างหน้าเราสามารถอธิบายได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลไทยควรดำเนินการอย่างไร ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราต้องหาข้อเท็จจริงให้ได้ว่า ความจริงเป็นอย่างไรซึ่งเรื่องนี้คงไม่ยาก เพราะการเบิกความในศาลก็สามารถบอกได้ส่วนหนึ่งแล้วเราก็ต้องเคารพ แม้เราจะไม่เห็นด้วยกับดุลพินิจของศาลกัมพูชาเราก็ต้องให้เกียรติ ซึ่งโดยส่วนตัวตนก็ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวรกรไทย ที่ถูกตัดสินในคดีจารกรรมข้อมูลว่ามีความผิด แต่เราก็ต้องเคารพและไม่ควรไปวิจารณ์ดุลพินิจของศาลกัมพูชา เนื่องจากอะไรที่ไม่ถูกต้องเราก็ไม่ควรทำ อย่างไรก็ตาม บางเรื่องแสดงให้เห็นว่ากัมพูชายังมีความเข้าใจผิด เช่น การระบุว่ารัฐบาลไทยจะเอาชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งตนคิดว่าทางกัมพูชาคงจะได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรที่ฝ่ายค้านจะโยงเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายชวนกล่าวว่า ฝ่ายค้านก็ต้องดูข้อเท็จริงว่าคืออะไร ไม่จำเป็นต้องเข้าข้างรัฐบาลไทย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ควรตกเป็นเครื่องของรัฐบาลประเทศอื่นในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนสนับสนุนให้ยืนอยู่บนความจริงเป็นหลัก เมื่อถามว่าในฐานะที่อยู่ในเส้นทางการเมืองมาหลายสิบปีมองเรื่องดังกล่าวอย่างไร นายชวนกล่าวว่า ช่วงหลังๆ เรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องกับนักการเมืองมาก ทั้งนักการเมืองในและต่างประเทศบางทีบางเรื่องผลประโยชน์เข้าไปบดบังทำให้นักการเมืองของเรามีปัญหา มองปัญหาต่างๆ เบี่ยงเบนไป แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดต้องยึดความจริง ความถูกต้องเป็นหลัก เราไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายกับประเทศอื่น เราต้องดูแลรักษาสิทธิ์ประเทศของเรา โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องกับต่างประเทศต้องยึดกติกาสากลเอาไว้ และตนคิดว่าพี่น้องประชาชนอย่าได้สับสนมาก และควรสนับสนุนให้รัฐบาลปฏิบัติไปตามแนวที่ควรปฏิบัติ บางทีอาจจะไม่สะใจแต่เราอย่าไปสร้างปัญหาเพราะเวลาที่เราทำอะไรไปวันนี้ วันข้างหน้าเราก็ต้องตอบคำถามให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลต้องทำหนังสือขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พ.ต.ท.ทักษิณ และนายจักรภพ เพ็ญแข หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้หากมีผู้กระทำความผิด เข้าองค์ประกอบกฎมหายเราก็มีสิทธิขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศกัมพูชา ถ้าเรามีข้อตกลงเราก็ต้องทำ ถ้ารัฐบาลไม่ทำ รัฐบาลก็ผิดถือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ที่ควรกระทำ ถึงแม้จะถูกรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธก็ตาม และเป็นเรื่องของสมเด็จฮุนเซนที่จะคิดไม่ส่งตัวให้ก็ตาม เราอย่าไปคิดตามเขาก็แล้วกัน อย่าไปคิดว่าถ้าเปลี่ยนตัวนายกฯ และรัฐบาลความสัมพันธ์จะดีขึ้น ปล่อยให้เขาคิดอยู่ฝ่ายเดียว ให้คิดว่าเราก็ต้องทำตามกรอบกฎหมายของเราไป ซึ่งสิ่งนี้ทุกฝ่ายต้องเข้าใจ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลอาฆาตแค้น หรือเจตนาร้ายกับผู้หนึ่งผู้ใดเป็นการเฉพาะ แต่ใครกระทำความผิดคนนั้นก็เป็นผู้ที่รัฐบาลไทยต้องเอาตัวมาลงโทษ นั่นคือสิ่งที่ตนคิดว่าคนยังไม่เข้าใจและไปมองว่าเป็นการไล่ล่า ซึ่งความจริงไม่ใช่
เมื่อถามว่าชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้กัมพูชาเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมือง จะเป็นภาระหนักสำหรับรัฐบาลหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เป็นหน้าที่รัฐบาลบริหารบ้านเมือง รักษากฎหมายเอาไว้ให้แน่น อย่าไปวอกแวกกับพวกนี้ ไม่อย่างนั้นรัฐบาลจะมีปัญหาซะเองในวันข้างหน้า ซึ่งตนคิดว่านายกฯ เองก็พยายามรักษากติกาเอาไว้ เราอย่าไปตกใจและคิดว่ารัฐบาลเจอปัญหาหนักหรือเบา แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องแก้ปัญหา จะหนักหรือเบาก็ต้องทำงาน
