“เทพไท” คาด “ฮุนเซน” ได้ข้อมูลมั่ว ซัดคนคาบข่าวบอกหวังทำลายชาติตนเอง เชื่อ นายกฯ ไม่โต้ตอบ แนะสังคมดูเอาวุฒิภาวะของผู้นำ 2 ประเทศ จี้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือส่งเขมรขอผู้ร้ายข้ามแดน หวังให้ประชาคมโลกตัดสินเอาหากรัฐบาลแขมร์ไม่ส่งตัว แนะโร่เช็กละเมิดดักฟังโทรศัพท์หรือไม่ ย้อน “นช.ทักษิณ” คุกยังเวลคัมเสมอ!
วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงท่าทีของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่มีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทย ว่าเป็นที่ชัดเจนว่าสมเด็จฯ ฮุนเซนได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด โดยเฉพาะล่าสุดที่พูดถึงความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการสั่งการให้นำเครื่องบินรบ F-16 ไปขับไล่และจับกุมตัว ซึ่งค่อนข้างชัดเจนในคำสัมภาษณ์ของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่บอกว่าหากไม่สกัดทันเวลา พ.ต.ท.ทักษิณ คงเสียชีวิตหรือเข้าเรือนจำไปแล้ว เพราะเขาทำแผนที่เส้นทางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณถือว่าจะต้องเป็นโศกนาฏกรรมที่กัมพูชาที่จะรับเคราะห์ไปด้วยนั้น ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเคยนำมาอภิปรายในสภา และตั้งกระทู้ถามรัฐบาลมาแล้ว ทั้งเรื่องเส้นทางบิน หรือการปกป้องน่านฟ้าไทยของกองทัพอากาศ ดังนั้น เชื่อได้ว่าข้อมูลที่สมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าวหาประเทศไทยเป็นเพราะข้อมูลจากคนไทยกันเองที่คาบข่าวไปบอกคนต่างชาติเพื่อให้มาทำลายชาติไทย
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงจะไม่ตอบโต้ท่าทีของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่ออกมาในลักษณะเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้ขยายความออกไปจนกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่นับวันจะห่างออกไป แต่ตนก็ไม่คาดคิดว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งเป็นผู้ที่มีอาวุโสทางการเมืองเป็นผู้นำที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดในเอเชีย จะมีท่าทีต่อประเทศเพื่อนบ้านเช่นนี้ ถ้าเทียบกับความอาวุโสทางการเมืองกับนายอภิสิทธิ์ต่างกันมาก แต่สังคมคงจะพิจารณาได้ว่าวุฒิภาวะของผู้นำทั้งสองประเทศเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ตนอยากเสนอและสนับสนุนท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศใน 2 เรื่อง คือ 1.อยากจะให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นที่ทราบชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงปักหลักอยู่ที่กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็ไปสวามิภักดิ์กันอย่างล้นหลาม และนายจักรภพ เพ็ญแข ก็โผล่ออกมาหน้าสื่อมวลชนแล้วว่าอยู่ที่กัมพูชาจริงๆ มาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมของไทย หากรัฐบาลกัมพูชาจะตอบปฏิเสธคำขอของรัฐบาลไทย คิดว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลกัมพูชาจะต้องอธิบายต่อประชาคมโลกว่ามีเหตุผลใด ที่ไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน และ 2.กรณีการดักฟังโทรศัพท์ คิดว่าเป็นการคุกคามประเทศไทยที่ดักฟังโทรศัพท์สถานทูตไทยในกัมพูชา เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายชัดเจน ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยหรือไม่ แม้ว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน จะออกมาปฏิเสธว่าอาจจะไม่มีรายละเอียด อาจจะมีเฉพาะโทรศัพท์ที่ติดต่อกัน 30-40 ครั้ง คิดว่าถ้าเป็นการพิจารณาจากศาลนั่นเป็นหลักฐานที่อ่อนมาก อย่างไรก็ตาม คนทั่วไปออกมายืนยันว่ามีเทปบันทึกเสียง รวมถึงข่มขู่มายังกระทรวงการต่างประเทศของไทยว่า ไม่ควรที่จะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ถ้ามีหลักฐานจริงก็ขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยนำหลักฐานนี้ไปให้สมเด็จฯ ฮุนเซน เหมือนกับการนำหลักฐานเท็จบางเรื่องไปให้สมเด็จฮุนเซนมาแล้ว
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความทวิตเตอร์ระบุว่า ยังอยู่ที่กัมพูชา และคิดถึงประเทศไทยอยากกลับประเทศไทย แต่ว่ารัฐบาลไม่เวลคัม (Welcome) นั้น วันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่กัมพูชาจริงๆ และมีความเข้าใจผิดว่ารัฐบาลไทยไม่ต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเข้าใจใหม่ว่า ตัวเองคือบุคคลที่รัฐบาลไทยต้องการตัวมากที่สุดเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้าใจว่าใครไม่เวลคัมตัวเองก็ตาม แต่ตนยืนยันกับ พ.ต.ท.ทักษิณว่า คนที่เวลคัม พ.ต.ท.ทักษิณตลอดเวลาคือ คุกเวลคัม