ช่างบังเอิญเกินเหตุ!! จับบินขนอาวุธช่วง “นช.แม้ว” เตรียมก่อหวอด พบมีสายสัมพันธ์แนบแน่น “รัสเซีย” เคยไปทำกระเป๋าเงินหล่นหลายใบ แฉ ก่อนหน้านี้มีบินขนอาวุธ 2 ลำลงจอดในไทยแล้วหายจ้อย เชื่อ “นช.แม้ว” เลือก 10 ม.ค. 2010 ปิดเกม ก่อนศาลตัดสินคดียึดทรัพย์
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม มี น.ส.กมลพร วรกุล รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ ความเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งสอดคล้องอย่างเหลือเชื่อกับกรณีจับเครื่องบินขนอาวุธสงครามที่สนามบินดอนเมือง
เริ่มต้นรายการ น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า ขณะนี้ นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาหมิ่นเบื้องสูง ได้หลบหนีอยู่ที่กัมพูชา โดยมี สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชาให้ความช่วยเหลือ โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ แสร้งว่าไม่ได้อยู่ที่กัมพูชา และจะเดินทางไปกราบ พ.ต.ท.ทักษิณ
น.ส.กมลพร กล่าวว่า ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ได้ออกมายืนยันข่าวที่รัฐบาลสั่งให้กองทัพอากาศส่งเครื่องบินเอฟ 16 ประกบเครื่องบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเครื่องบินเอฟ 16 จำนวน 2 ลำ ติดอาวุธพร้อมรบ
นายปานเทพกล่าวว่า หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีหลายฝ่ายคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับผลกระทบ ก็ยังมีเงินอีกจำนวนหนึ่งซุกซ่อนไว้ในที่ต่างๆ โดยขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางมาที่กัมพูชา เพื่อเตรียมวางแผนทำอะไรบางอย่าง ซึ่งทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แสดงความมั่นอกมั่นใจว่า เกมนี้ผู้ที่เป็นฝ่ายชนะ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากเวลาของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ค่อนข้างเหลือน้อยเต็มที ทั้งนี้ ถึงอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องลงมือก่อนศาลตัดสินคดียึดทรัพย์แน่นอน
นายปานเทพกล่าวต่อว่า แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นเป็นเรื่องข่าวเรื่องอาวุธ จากกัมพูชาไหลเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องหรือบังเอิญกับเหตุการณ์จับเครื่องบินขนอาวุธสงครามได้ที่สนามบินดอนเมือง โดยพิจารณาจากสายการบินและนักบิน มีความเป็นไปได้ว่า จะประจบเหมาะกับความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะก่อนหน้านี้ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปหลายประเทศ ที่สามารถเชื่อมโยงกับนักบินหรือเครื่องบินที่ถูกยึด ไม่ว่าจะไปรัสเซีย หรือเลบานอน
“ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มีเครื่องบินลักษณะนี้เดินทางมาที่ประเทศไทยแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ได้มีการจับกุมแต่อย่างใด ซึ่งก็น่าคิดและน่าเป็นห่วงว่าอาวุธดังกล่าวในเครื่องบินปริศนาตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน และมีปริมาณเท่าไหร่ รวมถึงเป็นอาวุธร้ายแรงหรือไม่ โดยเราจะประมาทเรื่องนี้ไม่ได้” นายปานเทพกล่าว
นายโสภณกล่าวว่า เรื่องความบังเอิญนี้ อาจจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงภายหลัง หรืออาจจะไม่เกิดก็ได้ แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญที่สอดคล้องจนน่าคิดว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปหลายประเทศก่อนหน้านี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร เพราะการเดินทางไปรัสเซีย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีทีมงานและรู้จักกับคนที่โน้น เนื่องจากมีสัมพันธ์อันดีสมัยทำธุรกิจ ดังนั้น มันจึงประจวบเหมาะทุกอย่าง ตนเชื่อว่าเวลานี้ ความมั่นใจในเรื่องต่างๆของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีมากขึ้น รวมถึงโรงเรียนเสื้อแดง ตอนนี้ก็มีการฝึกและส่องสุมกำลังอย่างหนัก ให้มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธ
นายอมรเทพกล่าวว่า ตอนที่ตนได้ยินข่าวจับกุมเครื่องบินขนอาวุธสงคราม ตนพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่าง ไล่ตั้งแต่สัญชาตินักบิน หรือสายการบินของเครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับรัสเซีย โดยต่อมา ตนพิจารณาเรื่องอาวุธที่ขนมาครั้งนี้ มันก็ทำให้ตนมั่นใจว่า ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปทำกระเป๋าเงินหลายใบตกหล่นอยู่ที่รัสเซีย มันแปลว่าอะไร ตอนนี้มันมีความเป็นไปได้ว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าอาวุธ เพราะมีสายสัมพันธ์กับคนในรัสเซีย
นายโสภณกล่าวว่า ประเด็นนี้ตนมองว่าอาจมีการขนส่งอาวุธสงครามมาในคราวเดียวกัน คือ ทั้งขายและสอดไส้ใช้ในการก่อการด้วย
นายอมรเทพกล่าวเสริมว่า สอดคล้องกับ เสธ.แดง ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังปีใหม่นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เอาจริงแน่ในการยึดประเทศไทย โดยแผนการทั้งหมดแก๊งสามเกลอหัวขวดจะเป็นฝ่ายชี้แจงเอง
นายปานเทพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มักเอาตัวเองไปผูกติดอยู่กับเลข 10 ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมที่ผ่านมา ต้องเป็นวันที่ 10 หรือนำเลข 2 ตัวบวกกันให้ได้ 10 ดังนั้น แผนเผด็จศึกครั้งนี้เกิดขึ้นได้ในช่วงวันที่ 10 ม.ค. 19 ม.ค. หรือ 28 ม.ค.ก็ได้ แต่ 19 และ 28 ม.ค. ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากจะไม่ทันศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ฉะนั้น เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะลงมือวันที่ 10 ม.ค.2010
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง"
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม มี น.ส.กมลพร วรกุล รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายอมรเทพ อมรรัตนานนท์ กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ ความเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งสอดคล้องอย่างเหลือเชื่อกับกรณีจับเครื่องบินขนอาวุธสงครามที่สนามบินดอนเมือง
เริ่มต้นรายการ น.ส.อัญชะลี กล่าวว่า ขณะนี้ นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาหมิ่นเบื้องสูง ได้หลบหนีอยู่ที่กัมพูชา โดยมี สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชาให้ความช่วยเหลือ โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ แสร้งว่าไม่ได้อยู่ที่กัมพูชา และจะเดินทางไปกราบ พ.ต.ท.ทักษิณ
น.ส.กมลพร กล่าวว่า ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ได้ออกมายืนยันข่าวที่รัฐบาลสั่งให้กองทัพอากาศส่งเครื่องบินเอฟ 16 ประกบเครื่องบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเครื่องบินเอฟ 16 จำนวน 2 ลำ ติดอาวุธพร้อมรบ
นายปานเทพกล่าวว่า หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีหลายฝ่ายคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้รับผลกระทบ ก็ยังมีเงินอีกจำนวนหนึ่งซุกซ่อนไว้ในที่ต่างๆ โดยขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางมาที่กัมพูชา เพื่อเตรียมวางแผนทำอะไรบางอย่าง ซึ่งทาง สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แสดงความมั่นอกมั่นใจว่า เกมนี้ผู้ที่เป็นฝ่ายชนะ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากเวลาของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ค่อนข้างเหลือน้อยเต็มที ทั้งนี้ ถึงอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องลงมือก่อนศาลตัดสินคดียึดทรัพย์แน่นอน
นายปานเทพกล่าวต่อว่า แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นเป็นเรื่องข่าวเรื่องอาวุธ จากกัมพูชาไหลเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องหรือบังเอิญกับเหตุการณ์จับเครื่องบินขนอาวุธสงครามได้ที่สนามบินดอนเมือง โดยพิจารณาจากสายการบินและนักบิน มีความเป็นไปได้ว่า จะประจบเหมาะกับความเคลื่อนไหว พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะก่อนหน้านี้ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปหลายประเทศ ที่สามารถเชื่อมโยงกับนักบินหรือเครื่องบินที่ถูกยึด ไม่ว่าจะไปรัสเซีย หรือเลบานอน
“ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มีเครื่องบินลักษณะนี้เดินทางมาที่ประเทศไทยแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ได้มีการจับกุมแต่อย่างใด ซึ่งก็น่าคิดและน่าเป็นห่วงว่าอาวุธดังกล่าวในเครื่องบินปริศนาตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน และมีปริมาณเท่าไหร่ รวมถึงเป็นอาวุธร้ายแรงหรือไม่ โดยเราจะประมาทเรื่องนี้ไม่ได้” นายปานเทพกล่าว
นายโสภณกล่าวว่า เรื่องความบังเอิญนี้ อาจจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงภายหลัง หรืออาจจะไม่เกิดก็ได้ แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญที่สอดคล้องจนน่าคิดว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปหลายประเทศก่อนหน้านี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร เพราะการเดินทางไปรัสเซีย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีทีมงานและรู้จักกับคนที่โน้น เนื่องจากมีสัมพันธ์อันดีสมัยทำธุรกิจ ดังนั้น มันจึงประจวบเหมาะทุกอย่าง ตนเชื่อว่าเวลานี้ ความมั่นใจในเรื่องต่างๆของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีมากขึ้น รวมถึงโรงเรียนเสื้อแดง ตอนนี้ก็มีการฝึกและส่องสุมกำลังอย่างหนัก ให้มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธ
นายอมรเทพกล่าวว่า ตอนที่ตนได้ยินข่าวจับกุมเครื่องบินขนอาวุธสงคราม ตนพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่าง ไล่ตั้งแต่สัญชาตินักบิน หรือสายการบินของเครื่องบินลำดังกล่าว ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับรัสเซีย โดยต่อมา ตนพิจารณาเรื่องอาวุธที่ขนมาครั้งนี้ มันก็ทำให้ตนมั่นใจว่า ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปทำกระเป๋าเงินหลายใบตกหล่นอยู่ที่รัสเซีย มันแปลว่าอะไร ตอนนี้มันมีความเป็นไปได้ว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าอาวุธ เพราะมีสายสัมพันธ์กับคนในรัสเซีย
นายโสภณกล่าวว่า ประเด็นนี้ตนมองว่าอาจมีการขนส่งอาวุธสงครามมาในคราวเดียวกัน คือ ทั้งขายและสอดไส้ใช้ในการก่อการด้วย
นายอมรเทพกล่าวเสริมว่า สอดคล้องกับ เสธ.แดง ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังปีใหม่นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เอาจริงแน่ในการยึดประเทศไทย โดยแผนการทั้งหมดแก๊งสามเกลอหัวขวดจะเป็นฝ่ายชี้แจงเอง
นายปานเทพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มักเอาตัวเองไปผูกติดอยู่กับเลข 10 ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมที่ผ่านมา ต้องเป็นวันที่ 10 หรือนำเลข 2 ตัวบวกกันให้ได้ 10 ดังนั้น แผนเผด็จศึกครั้งนี้เกิดขึ้นได้ในช่วงวันที่ 10 ม.ค. 19 ม.ค. หรือ 28 ม.ค.ก็ได้ แต่ 19 และ 28 ม.ค. ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากจะไม่ทันศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ฉะนั้น เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะลงมือวันที่ 10 ม.ค.2010
