"ปานเทพ" ชี้ "นช.แม้ว" ใกล้ปิดฉาก หลังพ่ายหมดสภาพ จนคลั่งวิดีโอลิงก์เสียงแข็ง ส่งสัญญาณกองกำลังเถื่อนเร่งปิดเกมหลังปีใหม่ "ประพันธ์" เชื่อ คนไทยรู้ทันเล่ห์เหลี่ยม "ทักษิณ" ไม่ยอมตกเป็นทาส หลังเห็นความชั่วร้ายคิด "ล้มเจ้า" ผ่านไทมส์ ออนไลน์
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-22.00 น.วันที่ 11 ธ.ค. มี "แอน" จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้มีการเชิญ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็น บทลงโทษ เสธ.แดง ที่กองทัพสมควรจัดการ ในเมื่อปฏิบัติตนไม่สมกับเป็นทหาร เพราะได้ไปร่วมเข้าขบวนการทำลายชาติ โดยมีผู้นำ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันสถานะกลายเป็นนักโทษหนีคุก
นายปานเทพ กล่าวเปิดประเด็นว่า ผู้สื่อข่าวสายทหาร แจ้งรายงานข่าวมาว่า เร็วๆนี้ อาจมีคำสั่งพักราชการนายทหารคนหนึ่ง ทำให้ทุกฝ่ายพุ่งเป้าไปว่า อาจจะเป็น เสธ.แดง
นายประพันธ์ กล่าวว่า ความผิดของ เสธ.แดง ไม่ได้อยู่ที่ผลสอบสวนทางวินัยอย่างเดียว แต่ต้องโดนโทษอาญาด้วย ในความผิดด่าทอผู้บังคับบัญชาในที่สาธารณะ รวมถึงกรณีเดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตามจริงแล้ว หากกระทำความผิด ทั้งที่อยู่ในราชการอยู่ ต้องขึ้นศาลทหาร เพื่อพิจารณาคดี
นายปานเทพ กล่าวเสริมว่า คนอย่าง เสธ.แดง มีพฤติกรรมชอบเป็นข่าว โดยเรียกร้องความสนใจ ทั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ราคาทั้งการกระทำและคำพูด เพราะ เสธ.แดง ชอบทำตัวเด่นไปในทางที่ผิด อีกทั้งเป็นรับราชการเป็นทหาร แต่ปฏิบัติตนไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเดินทางไปกัมพูชา หรือไปนครดูไบ พร้อมทั้งรูปถ่ายเป็นหลักฐาน ปรากฏว่า เสธ.แดง ไม่ยอมรับ บอกว่าเป็นแค่คนหน้าเหมือน ทั้งที่ทุกอย่างชัดเจนหมด ใครดูรูปถ่ายก็รู้ว่าเป็น เสธ.แดง ตัวจริง
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนรับไม่ที่สุดในบรรดาการกระทำของ เสธ.แดง คือ การที่เว็บไซต์ส่วนตัวนายทหารผู้นี้ มีการตัดต่อรูปภาพลามกของผู้ประกาศสาวเอเอสทีวี รวมทั้งแกนนำพันธมิตรฯ หลายคน ซึ่งตนคิดว่าผู้ที่เป็นทหาร ไม่สมควรทำตัวเช่นนี้ เนื่องจากเป็นการกระทำที่อัปยศ และถือว่าเป็นขยะของกองทัพ ดังนั้น จึงเรียกร้องให้กองทัพบก เร่งจัดการ เสธ.แดง เพราะถ้าปล่อยไปจะสร้างเป็นปัญหาใหญ่ให้แก่กองทัพ
นายประพันธ์ กล่าวว่า กองทัพบกต้องจัดการ เสธ.แดง ทันที เพราะน่าละอายที่ทหารมีความประพฤติเช่นนี้ เพราะนอกจากทำตัวไม่สมเป็นทหาร ยังไม่เคารพกฏหมายบ้านเมือง ไปร่วมขบวนการผู้ร้ายหรือนักโทษ จนจึงไม่เข้าใจว่ากองทัพทนดูพฤติกรรมดังกล่าวได้อย่างไร เวลานี้ทุกฝ่ายผิดหวังกับการนิ่งเฉยของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
ประเด็นต่อมาเชื่อมโยงกัน คือการกล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่ง นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนแรก พ.ต.ท.ทักษิณ วางแผนจะชุมนุมในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่เปลี่ยนแผนเนื่องจากประชาชนออกมาต่อต้าน ที่จะมาก่อความวุ่นวายในช่วงวันสำคัญ โดยผลสำรวจความคิดเห็นต่อการชุมนุมคนเสื้อแดงในช่วงเวลาดังกล่าว ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย ซึ่งต่อมาวันที่ 10 ธ.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศชุมนุมอีกครั้ง จึงมีการไปสำรวจความคิดเห็นประชาชนถึงการชุมนุมดังกล่าว ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เหมือนเดิม คือ ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม แต่เหตุผลเปลี่ยนไป เมื่อผู้คนได้ฟังพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข โดยประชาชนลงความเห็นว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ควรชุมนุม เนื่องจากจะทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงไม่สบายพระทัย
นายประพันธ์ กล่าวว่า เมื่อวาน พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์มาพูดกับคนเสื้อแดงด้วยประเด็นเดิมๆ แต่พยายามสร้างภาพจงรักภักดีด้วยการนำจุดเทียนชัยถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนจึงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามโยนกระแส แต่ผู้คนไม่เชื่อ เพราะการกระทำกับคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยแสดงออกว่าจงรักภักดีจริง โดยประชาชนส่วนใหญ่เห็นธาตุแท้จากกรณีให้สัมภาษณ์ ไทมส์ ออนไลน์ หรือการที่อดีตนายกรัฐมนตรี ไปร่วมกับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อทำร้ายประเทศไทย
นายปานเทพ กล่าวว่า คำพูดในวิดีโอลิงก์เมื่อวาน มันชัดเจนมากว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการจะบอกอะไรกับคนเสื้อแดง ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของ นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศเป็นนัยว่า หากเดือนมกราคม ปีหน้า บ้านเมืองยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง จะลงจากเวที และให้ประชาชนตัดสินว่าอยากจะทำอะไร ซึ่งคำพูดดังกล่าว มันแปลความได้ว่า การชุมนุมทุกครั้งที่ผ่านมาของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่สามารถขับเคลื่อนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะได้
นายประพันธ์ กล่าวว่า เช่นเดียวกับคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แข็งกร้าวและชัดเจน ว่าต้องการล้มล้างทำให้บ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าจะให้ตนวิเคราะห์ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะปลุกระดมผู้คนให้ฮือลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ตนว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมวลชนพวกนี้ไม่ได้ขับเคลื่อนตามหลักประชาธิปไตย ดังนั้นจึงไม่มีพลังเพียงพอ
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ทางด้าน สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา ก็เช่นเดียวกัน เวลานี้คงเห็นว่าร่วมมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ลำบาก เนื่องจากการกระทำของทั้งคู่ คนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้ที่รุมทำร้ายประเทศไทย โดยการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามจะใช้ สมเด็จฯ ฮุนเซน บีบเกมให้รัฐบาลไทยยอมเจรจาด้วย ตนว่าเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะคดี พ.ต.ท.ทักษิณ มันตัดสินความผิดไปแล้ว ดังนั้น ไม่สามารถลบล้างได้ ความผิดท่วมฟ้าท่วมแผ่นดินเช่นนั้น มีทางเดียว คือ ต้องสำนึกผิดและมารับโทษ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงทำใจยอมรับให้ทำไม่ได้
นายปานเทพ กล่าวเสริมว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในช่วงตีบตัน เพราะความชอบธรรมไม่มี มวลชนก็ลดน้อยลง อีกทั้งคนที่เคยเข้าแนวร่วมก็เริ่มล่าถอย เงินที่เหลือก็น้อย และที่สำคัญ คือ ที่ยืนในสังคมก็แทบจะไม่เหลือ ดังนั้น จึงต้องหาทางจบเกมในช่วงเดือนมกราคม ปีหน้า ซึ่งการใช้กำลังนอกกฏหมายเป็นวิธีเดียวที่จะชนะเกมนี้ได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-22.00 น.วันที่ 11 ธ.ค. มี "แอน" จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้มีการเชิญ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็น บทลงโทษ เสธ.แดง ที่กองทัพสมควรจัดการ ในเมื่อปฏิบัติตนไม่สมกับเป็นทหาร เพราะได้ไปร่วมเข้าขบวนการทำลายชาติ โดยมีผู้นำ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันสถานะกลายเป็นนักโทษหนีคุก
นายปานเทพ กล่าวเปิดประเด็นว่า ผู้สื่อข่าวสายทหาร แจ้งรายงานข่าวมาว่า เร็วๆนี้ อาจมีคำสั่งพักราชการนายทหารคนหนึ่ง ทำให้ทุกฝ่ายพุ่งเป้าไปว่า อาจจะเป็น เสธ.แดง
นายประพันธ์ กล่าวว่า ความผิดของ เสธ.แดง ไม่ได้อยู่ที่ผลสอบสวนทางวินัยอย่างเดียว แต่ต้องโดนโทษอาญาด้วย ในความผิดด่าทอผู้บังคับบัญชาในที่สาธารณะ รวมถึงกรณีเดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตามจริงแล้ว หากกระทำความผิด ทั้งที่อยู่ในราชการอยู่ ต้องขึ้นศาลทหาร เพื่อพิจารณาคดี
นายปานเทพ กล่าวเสริมว่า คนอย่าง เสธ.แดง มีพฤติกรรมชอบเป็นข่าว โดยเรียกร้องความสนใจ ทั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ราคาทั้งการกระทำและคำพูด เพราะ เสธ.แดง ชอบทำตัวเด่นไปในทางที่ผิด อีกทั้งเป็นรับราชการเป็นทหาร แต่ปฏิบัติตนไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเดินทางไปกัมพูชา หรือไปนครดูไบ พร้อมทั้งรูปถ่ายเป็นหลักฐาน ปรากฏว่า เสธ.แดง ไม่ยอมรับ บอกว่าเป็นแค่คนหน้าเหมือน ทั้งที่ทุกอย่างชัดเจนหมด ใครดูรูปถ่ายก็รู้ว่าเป็น เสธ.แดง ตัวจริง
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนรับไม่ที่สุดในบรรดาการกระทำของ เสธ.แดง คือ การที่เว็บไซต์ส่วนตัวนายทหารผู้นี้ มีการตัดต่อรูปภาพลามกของผู้ประกาศสาวเอเอสทีวี รวมทั้งแกนนำพันธมิตรฯ หลายคน ซึ่งตนคิดว่าผู้ที่เป็นทหาร ไม่สมควรทำตัวเช่นนี้ เนื่องจากเป็นการกระทำที่อัปยศ และถือว่าเป็นขยะของกองทัพ ดังนั้น จึงเรียกร้องให้กองทัพบก เร่งจัดการ เสธ.แดง เพราะถ้าปล่อยไปจะสร้างเป็นปัญหาใหญ่ให้แก่กองทัพ
นายประพันธ์ กล่าวว่า กองทัพบกต้องจัดการ เสธ.แดง ทันที เพราะน่าละอายที่ทหารมีความประพฤติเช่นนี้ เพราะนอกจากทำตัวไม่สมเป็นทหาร ยังไม่เคารพกฏหมายบ้านเมือง ไปร่วมขบวนการผู้ร้ายหรือนักโทษ จนจึงไม่เข้าใจว่ากองทัพทนดูพฤติกรรมดังกล่าวได้อย่างไร เวลานี้ทุกฝ่ายผิดหวังกับการนิ่งเฉยของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
ประเด็นต่อมาเชื่อมโยงกัน คือการกล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่ง นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนแรก พ.ต.ท.ทักษิณ วางแผนจะชุมนุมในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่เปลี่ยนแผนเนื่องจากประชาชนออกมาต่อต้าน ที่จะมาก่อความวุ่นวายในช่วงวันสำคัญ โดยผลสำรวจความคิดเห็นต่อการชุมนุมคนเสื้อแดงในช่วงเวลาดังกล่าว ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย ซึ่งต่อมาวันที่ 10 ธ.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศชุมนุมอีกครั้ง จึงมีการไปสำรวจความคิดเห็นประชาชนถึงการชุมนุมดังกล่าว ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เหมือนเดิม คือ ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม แต่เหตุผลเปลี่ยนไป เมื่อผู้คนได้ฟังพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข โดยประชาชนลงความเห็นว่า กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ควรชุมนุม เนื่องจากจะทำให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงไม่สบายพระทัย
นายประพันธ์ กล่าวว่า เมื่อวาน พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์มาพูดกับคนเสื้อแดงด้วยประเด็นเดิมๆ แต่พยายามสร้างภาพจงรักภักดีด้วยการนำจุดเทียนชัยถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนจึงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามโยนกระแส แต่ผู้คนไม่เชื่อ เพราะการกระทำกับคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยแสดงออกว่าจงรักภักดีจริง โดยประชาชนส่วนใหญ่เห็นธาตุแท้จากกรณีให้สัมภาษณ์ ไทมส์ ออนไลน์ หรือการที่อดีตนายกรัฐมนตรี ไปร่วมกับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อทำร้ายประเทศไทย
นายปานเทพ กล่าวว่า คำพูดในวิดีโอลิงก์เมื่อวาน มันชัดเจนมากว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการจะบอกอะไรกับคนเสื้อแดง ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของ นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศเป็นนัยว่า หากเดือนมกราคม ปีหน้า บ้านเมืองยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง จะลงจากเวที และให้ประชาชนตัดสินว่าอยากจะทำอะไร ซึ่งคำพูดดังกล่าว มันแปลความได้ว่า การชุมนุมทุกครั้งที่ผ่านมาของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่สามารถขับเคลื่อนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะได้
นายประพันธ์ กล่าวว่า เช่นเดียวกับคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แข็งกร้าวและชัดเจน ว่าต้องการล้มล้างทำให้บ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าจะให้ตนวิเคราะห์ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะปลุกระดมผู้คนให้ฮือลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ตนว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมวลชนพวกนี้ไม่ได้ขับเคลื่อนตามหลักประชาธิปไตย ดังนั้นจึงไม่มีพลังเพียงพอ
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ทางด้าน สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา ก็เช่นเดียวกัน เวลานี้คงเห็นว่าร่วมมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ลำบาก เนื่องจากการกระทำของทั้งคู่ คนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้ที่รุมทำร้ายประเทศไทย โดยการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามจะใช้ สมเด็จฯ ฮุนเซน บีบเกมให้รัฐบาลไทยยอมเจรจาด้วย ตนว่าเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะคดี พ.ต.ท.ทักษิณ มันตัดสินความผิดไปแล้ว ดังนั้น ไม่สามารถลบล้างได้ ความผิดท่วมฟ้าท่วมแผ่นดินเช่นนั้น มีทางเดียว คือ ต้องสำนึกผิดและมารับโทษ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงทำใจยอมรับให้ทำไม่ได้
นายปานเทพ กล่าวเสริมว่า เวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในช่วงตีบตัน เพราะความชอบธรรมไม่มี มวลชนก็ลดน้อยลง อีกทั้งคนที่เคยเข้าแนวร่วมก็เริ่มล่าถอย เงินที่เหลือก็น้อย และที่สำคัญ คือ ที่ยืนในสังคมก็แทบจะไม่เหลือ ดังนั้น จึงต้องหาทางจบเกมในช่วงเดือนมกราคม ปีหน้า ซึ่งการใช้กำลังนอกกฏหมายเป็นวิธีเดียวที่จะชนะเกมนี้ได้