ผบ.ทอ.ระบุไม่มีใครเผยตัวเป็นเจ้าของอาวุธสงคราม ย้ำส่งคืนทำได้ยาก เหตุขึ้นอยู่กับมติสหประชาชาติ ปัดไม่ได้เงินนำจับ
วันนี้ (16 ธ.ค.) พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงการจับกุมเครื่องบินที่ขนอาวุธสงครามได้ว่า ขณะนี้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ โดยทางทหารเราก็เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่นำอาวุธมาเก็บไว้ที่คลังสรรพาวุธ กองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ อย่างไรก็ตาม การที่ทางกองทัพอากาศได้รับการประสานงานให้มาช่วยงานในครั้งนี้เนื่องจากมีพื้นที่อยู่ใกล้ในการจับกุมทำให้สามารถขนย้ายอาวุธได้สะดวก โดยขณะนี้เราให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพาวุธไปทำการตรวจสอบอาวุธว่ามาจากไหน และเป็นประเภทไหนบ้าง
“สำหรับอาวุธที่จับกุมได้ส่วนมากจะเป็นพวกจรวด แต่เป็นของที่ผลิตในประเทศซีกคอมมิวนิสต์ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากประเทศไหนบ้าง เพราะอาวุธมาจากหลายที่ นอกจากนี้ยังไม่มีใครหรือประเทศไหนออกมายอมรับว่าอาวุธดังกล่าวเป็นของใคร ดังนั้นก็ต้องเก็บไว้ตรวจสอบรายละเอียด โดยจะมีเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญจากกรมสรรพาวุธกองทัพอากาศไปตรวจสอบ” พล.อ.อ.อิทธิพร กล่าว
เมื่อถามว่าดูเหมือนว่าทางสภาความมั่นคงแห่งชาติจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเพียงหน่วยงานเดียว พล.อ.อ.อิทธิพร กล่าวปฏิเสธ และว่ารายละเอียดต่างๆ ทางกองทัพอากาศก็รับทราบข้อมูลหมดแล้วว่าอะไรเป็นอะไร เพียงแต่ในการให้ข่าวสารคงต้องระวังให้มาก เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางมติสหประชาชาติด้วย และเป็นเรื่องความมั่นคง หากให้ข่าวตนละทีสองทีมันจะเกิดปัญหาความไม่เป็นเอกภาพได้ ดังนั้น การให้ข่าวสารทั้งหมดจะเป็นเรื่องของทางตำรวจ เมื่อถามว่าอาวุธที่จับกุมจะสามารถทำสงครามระหว่างประเทศได้หรือไม่ พล.อ.อ.อิทธิพร กล่าวว่า อาวุธที่จับกุมได้ก็เหมือนกับเป็นการสั่งซื้ออาวุธของประเทศทั่วๆ ไปที่การสั่งซื้อจะต้องใช้เวลาในการผลิตการทำ เมื่อสั่งได้แล้วก็นำมาเก็บเตรียมหรือไว้ซ้อมเพื่อป้องปราม ไม่ได้เน้นมาทำสงคราม
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถระบุได้หรือไม่ว่าจะไปลงปลายทางที่ประเทศไหน พล.อ.อ.อิทธิพร กล่าวว่า ทางกองทัพอากาศไม่ทราบข้อมูลตรงนั้น ทราบแต่ว่ามาจากกรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือ และจะไปที่ประเทศศรีลังกา ส่วนจะไปปลายทางที่ไหนยังไม่ทราบ คงต้องรอผลการสอบสวน อย่างไรก็ตามตอนนี้เราต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบอาวุธมาช่วยกันตรวจสอบอาวุธว่ามาจากที่ไหนบ้าง
เมื่อถามว่าทางกองทัพอากาศมีผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธจากประเทศค่ายคอมมิวนิสต์หรือไม่ พล.อ.อ.อิทธิพร กล่าวว่า ข้อมูลในส่วนนี้หาไม่ยาก เราสามารถตรวจสอบได้จากอินเตอร์เนตว่าอาวุธนี้เป็นของประเทศไหน เป็นอาวุธที่ใช้ทำอะไรบ้าง แต่เท่าที่ทราบอาวุธทั้งหมดส่วนมากจะมาจากค่ายคอมมิวนิสต์ ส่วนจะมาจากไหน เป็นรุ่นไหนทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รายงานมาให้ตนรับทราบ ส่วนการดำเนินการขั้นตอนต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรกับอาวุธชุดนี้ คงจะต้องเป็นมติของสหประชาชาติว่าจะทำอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่าต้องทำลายหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธิพร กล่าวว่า คงต้องแล้วแต่มติของสหประชาชาติว่าจะทำอย่าง แต่การทำลายอาวุธประเภทนี้คงต้องใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูง ส่วนที่มีข่าวว่ามีรางวัลในการนำจับอาวุธจริงๆ แล้วประเทศไทยไม่ได้รางวัลนำจับในส่วนนี้
เมื่อถามว่าหากมีประเทศปลายทางที่ขนอาวุธมาขออาวุธคืนจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อ.อิทธิพร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครออกมายอมรับ แต่ทั้งนี้การจะส่งคืนให้ประเทศปลายทางหรือไม่คงต้องแล้วแต่มติของสหประชาชาติว่าจะมีมติอย่างไร ซึ่งประเทศไทยคงต้องทำตามมติของสหประชาชาติอีกที อย่างไรก็ตาม อาวุธนี้เป็นอาวุธร้ายแรงคงยากที่จะส่งคืน