"เกาะกระแส"
โดย...ก้อนกรวด
00 กำลังจะเก็บฉากกันแล้วสำหรับละครน้ำเน่า ที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร อุตส่าห์ทุ่มทุนสร้าง กำกับ และหาดารามาแสดง โดยอาศัยกัมพูชาเป็นสถานที่ถ่ายทำ ตอนแรกตั้งในจะให้ออกมาในแนว “สายลับ” จารชนแบบ “เจมส์บอนด์ 007” กันเลยทีเดียว ถึงไม่ใช่ก็จะน่าจะใกล้เคียงละ แต่เป็นเพราะสาเหตุใดไม่ทราบได้ อาจเป็นเพราะผู้กำกับ คนเขียนบท รวมไปถึงนักแสดงที่แสดงได้ “ไม่เนียน” ไม่สมบทบาท ทำให้เรตติ้งตกลงฮวบฮาบ แถมในตอนท้ายๆ ยังกลับตาลปัตรกลายเป็น “ละครตลก” เสียอีก มันก็เลยไปกันใหญ่ ทำให้ต้องรีบจบเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจมีรองเท้าขว้างขึ้นไปบนเวทีก็ได้
00 ทุกคนก็รู้กันมาตั้งแต่แรกแล้วว่าสำหรับ “ศิวรักษ์ ชุติพงษ์” วิศวกรไทยที่ถูกเขมรจับกุมนั้นคงไม่รู้อิโน่อิเหน่ เพราะทางผู้กำกับ “หน้าเหลี่ยม” คงจะวางแผนเพื่อให้ออกมาสมจริง แต่ดารานำและองค์ประกอบ หรือฉากต่างๆ มันไม่สมจริง ไล่ไปตั้งแต่แม่ของดารานำ ที่ท่าทางลีลาออกมาในลักษณะของ “ตัวอิจฉา” เสียมากกว่า แทนที่จะได้รับการเห็นใจ และที่น่าสังเกตก็คือ แบ็กกราวด์ของ สิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของ ศิวรักษ์ นั้นได้รับการยอมรับจาก ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม คนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่าเคยช่วยงานการเมืองมานาน ทำให้ตอกย้ำข้อมูลที่รู้กันภายในว่า สิมารักษ์คนนี้แหละ “สีแดงจ๋า” แต่ที่ผ่านมาหลายคนไม่อยากพูดถึง เพราะเห็นใจคนไทยที่ถูกเขมรจับกุม ตอนนั้นยังไม่อยากคิดถึงเรื่องละครตลกอะไรให้เสียอารมณ์
00 อย่างไรก็ดีเมื่ออยากให้จริงจังก็ได้ ก็ต้องตั้งคำถามสองสามข้อว่าก่อนว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักโทษที่หลบหนีอาญาแผ่นดิน มีหมายจับติดตัวหลายคดี ใช่หรือไม่ สองเครื่องบินที่ นักโทษคนนี้ใช้เป็นพาหนะหลบหนีมาเขมร เป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำของพลเรือนที่ทุกประเทศสามารถสอบถามตารางเวลาการบิน ไม่ใช่เรื่องแปลก เหมือนกับกรณีที่เครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ ที่จะนำ ศิวรักษ์ พร้อมกับนักแสดงละครตลกจำนวนหนึ่งกลับมาจากพนมเปญ ถึงสุวรรณภูมิ หากใครสนใจก็สามารถสอบถามตารางการบินได้ตามปกติ
00 ถามว่าแล้ว “คำรบ ปาลวัฒน์วิไชย” มีตำแหน่งเป็นเลขานุการเอก สถานทูตไทยในพนมเปญ เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย ที่มีตำแหน่งสูงสุดที่เหลืออยู่ และกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนไม่คิดจะขวนขวายหาข้อมูล (ซึ่งเปิดเผย) เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ นักโทษคนหนึ่งที่หลบหนีมายังเขมร ถ้าเขาอยู่เฉยๆ ดูดายนี่ซิถึงต้องด่า อ้อแถมอีกสักข้อก็ได้ว่า ถ้า “ฮุนเซน” คิดว่าถ้ากลัวว่าข้อมูลการบินแบบนี้จะรั่วไหล เพราะเป็นความลับยิ่งยวด อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงแล้วยัง “เจือก” ให้คนไทย และบริษัทคนไทยได้สัมปทานอยู่ได้อย่างไร และ สายลับภาษาอะไรติดคุกไม่ทันไรก็ออกมาเดินปร๋อ แถมก่อนเดินทางกลับ สายลับตัวเอ้ ยังได้ไปพบผู้นำประเทศถึงบ้านพักเสียอีก ช่างไม่กลัวความลับของชาติรั่วไหลเสียจริง
00 วกมาถึงเรื่องซีเรียสจริงๆ (ขอย้ำ) ถ้าใครก็ได้ภาพที่ “ตักขี้” นั่งอยู่ใต้ร่มธงกัมพูชา ซักถาม ศิวรักษ์ กับแม่ ในห้องรับรองในเรือนจำก่อนถูกปล่อยตัว ใครเห็นภาพนั้นก็คงกระอักกระอ่วน เพราะเหมือนกับว่าเขาได้พ้นจากความเป็นคนไทยไปแล้ว แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนไทยได้คิดไตร่ตรองและรู้จักหาเหตุผลได้มากขึ้น อย่างน้อยผลสะท้อนจากโพลที่ออกมาก็จับได้แล้วว่าเป็นการ “จัดฉาก”
00 นี่ก็สุดแสนทุเรศ และน่าสมเพทเวทนากับสติปัญญาของคนที่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย อย่าง พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อาจเป็นเพราะในอดีตเคยเล่นหนัง ละคร จึงจินตนาการโยงไปให้มั่วว่าการจับกุม ผู้ต้องหาต่างชาติ 5 คน ที่ขนอาวุธสงครามร้ายแรง 40-50 ตัน คาเครื่องบินเช่าเหมาลำมาจากเกาหลีเหนือ ที่ดอนเมืองโดยตั้งข้อสังเกตแบบคลุมเครือว่า อาจจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่ “ตักขี้” จะมาเขมร ถ้าใครอยู่ใกล้ก็ควรเอาเท้าตบปากโฆษกแบบนี้สักที เพราะกรณีที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องอินเตอร์ที่ “ละเอียดอ่อน” มาก นี่แหละเป็นเรื่องน่ากังวลกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจริง ใครที่เป็นประเภทนักโชว์ออฟ ชอบถ่ายรูปกับผู้ต้องหาแถลงข่าวให้ระวังไว้หน่อย !!
เพี้ยนหนัก บอก มาร์ค-กษิต ใล่ฆ่าเหมือนหนังไทย !!