xs
xsm
sm
md
lg

วัดใจ “ประวิตร-อนุพงษ์”ลงดาบเชือดถอดเครื่องแบบ “เสธ.แดง”ตัวอย่างทหารเลว

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด

ขัตติยะ สวัสดิผล
เรียกได้ว่า เป็นช็อตวัดใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม จะกล้าฟันนายพลนอกรีตของกองทัพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ “เสธ.แดง” นายทหารสายฮาร์ดคอร์ หรือไม่?

กับข้อหาความผิดตามที่คณะกรรมการสอบสวนของกองทัพสรุปชงขึ้นมาพร้อมลงดาบเชือด คือ
1.การลาราชการไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ เดินทางไปประเทศกัมพูชาเพื่อพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ 2.การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์กองทัพและผู้บังคับบัญชา

ซึ่งคณะกรรมการของกองทัพบกได้สรุปผลการสอบเสร็จสิ้นแล้ว และได้ส่งให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้ว

อำนาจการตัดสินใจสั่งลงโทษเป็นอำนาจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้พิจารณาตัดสินตามระเบียบกระทรวงกลาโหม

ฮึ่มๆ ว่าจะเล่นงาน เสธ.แดงถึงขั้นให้พักราชการทีเดียว นอกจากต้องวัดใจ“พล.อ.ประวิตร” ยังรวมทั้ง ดู“น้ำยา”บิ๊กกองทัพคนสำคัญ “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ผู้บังคับบัญชาการโดยตรง จะเอาอย่างไรกับนายพลใต้สังกัดรายนี้

“ป้อม-ป๊อก”สองทหารเสือบูรพาพยัคฆ์ ที่พาเครือข่ายคุมอำนาจในกองทัพอย่างเบ็ดเสร็จ จะปล่อยให้พยัคฆ์ที่ออกนอกลู่นอกทาง เดินนอกแถวอย่างที่นายทหารหาญของชาติควรจะเป็น ออกลูกบ้าลูกซ่าต่อไป โดยไม่เกิดอะไรขึ้นหรือไม่

อันที่จริง สองประเด็นที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบเป็นเรื่องขี้ประติ๋วกับพฤติกรรมของเสธ.แดง เพียงแต่คราวนี้ออกมาลากไส้ผู้บังคับบัญชาตนเอง เมื่อโดนเต็มๆกับ “ป้อม-ป๊อก”โดยตรงก็ต้องแอ๊กชั่นกันหน่อย แต่ก่อนหน้านี้ที่เสธ.แดงอาละวาดพะบู๊กับคนนอก สองคนนี้ก็ไม่เห็นรู้สึกอะไร

ในบทบาทนายทหารนักบู๊และเกเรอย่างแรง เสธ.แดง มีพฤติกรรมนอกรีตนอกรอยนอกลู่นอกทางเป็นที่ประจักษ์ และสั่งสมมาอย่างต่อเนื่อง


นับตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ เสธ.แดงเข้าไปมีส่วนร่วมตั้ง “กองกำลังเถื่อน”รวบรวมคนมาฝึกอาวุธกลางท้องสนามหลวง ใช้ทุ่งพระเมรุเป็นสถานที่ติดอาวุธผู้คน ที่ตั้งชื่อเองเสร็จสรรพ ว่านักรบพระเจ้าตากบ้าง นักรบโรนินบ้าง เพื่อเข้าร่วมในกลุ่มม็อบเสื้อแดง

รวมทั้งปรากฏตัวพร้อมเครื่องแบบเต็มยศ ร่วมบัญชาการการเคลื่อนม็อบผู้จงรักภักดีเข้าไปปะทะกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่ชุมนุมขับไล่โค่นล้มรัฐบาลนอมินีสมัครและระบอบทักษิณหลายครั้ง จนมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต

ออกนอกแถว ออกนอกกองทัพมามีส่วนร่วมการเมืองอย่างโจ่งแจ้งแค่กรณีนี้ก็สามารถเรียกไปตักเตือนในการกระทำที่ผิดทางวินัยทางราชการทหารของกองทัพอย่างชัดเจนอยู่แล้ว

แต่ในช่วงนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ.ในฐานะผู้บังคับบัญชาสายตรงกับนิ่งเงียบ มีเพียงการประสานให้เพื่อนร่วมรุ่นตท.11 ของ“เสธ.แดง”ประสานงานเรียกไปตักเตือน โดยที่ พล.อ.อนุพงษ์ เองเหมือนจะนอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น

จนบางครั้งมองได้ว่า อาจจะรู้เห็นเป็นใจในพฤติกรมดิบเถื่อนของ เสธ.แดง

ทั้งนี้ก็เพราะ “เสธ.แดง” เอ่ยอ้างมาตลอดว่าเป็นเพื่อนของผบ.ทบ. มาตั้งแต่ครั้งเรียนโรงเรียนกวดวิชา “อโณชา”เพื่อสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารมารุ่นราวคราวเดียวกัน เพียงแต่สอบติดทีหลัง จึงห่างรุ่น แต่ถือรุ่นได้ในความเป็นเพื่อน

ด้วยปูมความเป็นเพื่อนระหว่างทั้งสอง จึงมีคนสงสัยว่า การเคลื่อนไหวของเสธ.แดงที่ผ่านมา “บิ๊กป๊อก”น่าจะยักคิ้วหลิ่วตา รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่?

โดยเฉพาะในช่วงแรกเริ่ม ในการสำรอกสำรากคำพูดที่ออกมาข่มขู่ม็อบเสื้อเหลือง ในเรื่องการคาดการณ์เรื่องการยิงอาวุธสงครามเข้าเล่นงานม็อบเสื้อเหลือง ถล่มการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ

พูดล่วงหน้าหลายรอบและก็เป็นจริงทุกครั้ง จนประชาชนต้องบาดเจ็บแขนขาขาด และล้มตายกันไป ทั้งเหตุที่เกิดที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และล่าสุดการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง

“เสธ.แดง”อวดโอ่ข้อมูลทางลับของตัวเองมาตลอด ว่าเป็นกองกำลังกฐินสามัคคีที่มีหลายฝ่ายร่วมด้วยช่วยกันกระทำการหยาบช้า ใช้แผนหมาลอบกัด ทำร้ายทำลายชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ออกไปใช้สิทธิตามรัฐธรรมชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง

“บิ๊กป๊อก”เพียงสั่งตั้งกรรมการสอบ แล้วก็กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับผู้ถูกสอบ เพราะ “เสธ.แดง”สวนกลับแบบขำขันเฮฮา ว่าเสี่ยงจะต้องไปเป็นทหารนำเต้นแอโรบิก เปลี่ยนงานไปพาทหารลูกน้องออกกำลังกาย

ไม่ยี่หระใดๆ กับคำสั่งของผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพบก ที่สุดท้ายคำสั่งนั้น ก็เหมือนสั่งน้ำมูกให้เลอะเปรอะเปื้อนเครื่องแบบของตัวเองไป เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับ “เสธ.แดง”จริงๆ

มีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่ พล.อ.อนุพงษ์นิ่ง จะเป็นเพราะเป็นหนึ่งในผู้ที่จองกฐินสามัคคีกองนี้ด้วยหรือไม่ เพราะในช่วงนั้นผบ.ทบ.รายนี้ก็แสดงท่าทีเด่นชัดว่าไม่พอใจกลุ่มพันธมิตรฯ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกนนำ ที่ขึ้นเวทีโจมตีเขาอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ในเรื่องของการทำหน้าที่ทหารของชาติ บทบาทของผู้พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และราชบัลลังก์ ในยุครัฐบาลนอมินี มีร่างทรงทักษิณ ทั้งรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์

แว่วว่า“บิ๊กป๊อก”อาจแอบสะใจอยู่ กับการโจมตีกลุ่มพันธมิตรด้วยอาวุธสงครามร้ายแรงจนหลายต่อหลายชีวิตของประชาชนต้องสูญสิ้นไป เป็นใบไม้ร่วง

เช่นเดียวกัน ข้อสังเกตุข้างต้นก็สอดคล้องกับข้อระแวงของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บรรดาหัวขวดหัวกล้วย พยายามกัน “เสธ.แดง”ไม่ให้เข้าร่วมกับกลุ่มม็อบนปช.เต็มตัว โดยไม่ยอมให้ขึ้นเวที หรือร่วมรับรู้แผนการใดๆในทางลึกกับการเดินยุทธวิธีต่างๆ

แม้ “เสธ.แดง”พยายามประกาศตัวเป็นแนวร่วมกับม็อบเสื้อแดง จัดตั้งกองกำลังเถื่อน เปิดซุ้มเปิดบูธร่วมม็อบเสื้อแดงทุกครั้ง แต่ก็แยกตัวออกไปอยู่ในพื้นที่ที่เป็นสัดส่วนของตัวเอง

หนำซ้ำบางครั้งยังมีเหตุกองกำลังของเสธ.แดง เกิดการกระทบกระทั่งกับกลุ่มการ์ดของนปช. ไม่รวมกับการที่ “เสธ.แดง”ไม่พอใจในแกนนำม็อบบนเวทีบางรายที่เล่นพูดจาปราศรัย จ้วงจาบหยาบช้าพาดพิงสถาบันฯ

อาทิ กรณีดา ตอร์ปิโด ที่ติดคุกเพราะปากเสีย หรือสุชาติ นาคบางไทร ที่ต้องเผ่นหนีจากโอฐภัยของตัวเอง ก็ถูก เสธ.แดงก่นด่า ทั้งในการให้สัมภาษณ์ และวิพากษ์วิจารณ์บนหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง ถึงขั้นจิกหัวด่า เหี้ย ห่า สารพัดสัตว์ ผู้ที่กระทบล่วงละเมิด จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงกลางท้องสนามหลวง

จนเป็นที่มาของความหวาดระแวง “เสธ.แดง” จะเล่นอีกบท มีอีกคมที่ซ่อนพราง เป็นมืองานของกองทัพที่ส่งมาแทรกซึม เพื่อหาข่าว และไม่น่าจะใช่ขุนศึกของคนเสื้อแดง แต่เป็น ไส้ศึกที่แฝงตัวเข้ามา

ไม่เชื่อใจ เสธ.แดง ว่าจะแดงเถือก แดงร้อยเปอร์เซนต์จริงหรือไม่??

ถ้าพิจารณาให้ดี เสธ.แดง กับเครือข่ายเสื้อแดง ก็เหมือนน้ำ กับน้ำมันที่เข้ากันไม่ได้ เพราะนายทหารที่ออกมายืนนอกแถว เคลื่อนไหวนอกกองทัพหยามน้ำหน้าผู้บังคับบัญชารายนี้ ประกาศตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมากับตำรวจมาแต่ไหนแต่ไร

มีเรื่องราวกับอดีต ผบ.ตร. ตั้งแต่ยุค พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ พล.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ถึงขั้นที่มี่เรื่องมีราวกระทบกระทั่ง และถูกตำรวจที่รับคำสั่งลากตัวไปสอบปากคำ เป็นเรื่องเป็นราวกันมาแล้ว

ในยุครัฐตำรวจของระบอบทักษิณ ถือเป็นช่วงตกต่ำของ เสธ.แดงก็ว่าได้ และนายพล สีเขียวท็อปบูตรายนี้ก็ไม่เคยแสดงท่าทีมีน้ำมิตรกับสีกากีมาตลอด

นอกเสียจาก(พ.ต.ท.) นช.ทักษิณ ชินวัตรคนเดียว ที่ เสธ.ทหารรายนี้ เรียก “พี่”ทุกคำ

นช.ทักษิณเป็นรุ่นพี่ ตท.10 ที่เป็นถึงอดีตนายกฯ เป็นมหาเศรษฐีนักธุรกิจในคราบนักการเมือง ที่สั่งสมทรัพย์สมบัติจนมากมายก่ายกองมหาศาล เป็นผู้ที่ทำให้ “เสธ.แดง”กลายพันธุ์ กลายเป็นที่ยอมรับของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเต็มตัวในช่วงหลังมานี้

ประกาศตัวเป็นอีกเซ็กชั่น กองกำลังของกลุ่มม็อบเสื้อแดง ช่วยสามเกลอหัวขวด ในภาคพะบู๊ รักษาความปลอดภัย และเดินเกมลับใต้ดิน ประสานงานกับบรรดานายทหารฮาร์ดคอร์ จปร.7 และเตรียมทหารรุ่น10 ที่มีสายสัมพันธ์กันมาก่อน เข้าร่วมตะลุมบอนรัฐบาลอภิสิทธิ์ ด้วยแนวทางบู๊ล้างผลาญ

เมื่อมาถึงวันนี้ ถึงได้กระตุ้นเตือน พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ ที่จะต้องตัดสินใจ จะให้กองทัพทั้งกองทัพมากระทบกระเทือนสั่นไหว ถูกหยามหยันเพียงเพราะนายพลนอกรีตทหารนอกแถวรายนี้หรือไม่

เพราะพฤติกรรมทั้งหมด ถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กองทัพโดยรวม หนำซ้ำยังกระทบกระเทือนกับการบังคับบัญชา ที่สั่งอะไรก็ถูกเสธ.แดงสวนกลับ

แม้กระทั่งกับ พล.อ.อนุพงษ์ ที่ เสธ.แดงถึงขั้นขึ้นกูขึ้นมึง และข่มขู่ผู้บังคับบัญชาเหมือนเป็นทหารเลวคนหนึ่ง จึงขอหยิบยกตัวอย่างคำขู่ของเสธ.แดงมาย้ำกันอีกสักครั้ง

“ป๊อก" ลืมเพื่อนแล้ว ลืมผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าทำอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาผม กูทำอะไรให้มึง กูนี่แหละออกมาช่วยมึงคนเดียวทั้งกองทัพ

มาใช้อำนาจมิชอบแบบนี้ ก็ให้อยู่แต่ในกองทัพบก อย่าออกมาก็แล้วกัน ไม่ได้ขู่นาย แต่ถ้าทำผมแบบนั้น ก็ไม่ใช่นายผม"


ก็ให้อยู่แต่ในกองทัพบก อย่าออกมาก็แล้วกัน! เป็นประโยคที่ เสธ.แดงขู่ปิดท้าย

หากยอมให้ขู่กันแรงถึงขั้นนี้แล้วไม่เกิดอะไรขึ้น ระเบียบวินัยทางทหารก็ไร้ประโยชน์ เป็นเพียงข้อกฎหมายที่อยู่ในเพียงหน้าเอกสาร และคำว่าการปกครอง ระเบียบวินัยของกองทัพ ก็คงไร้ค่า

กระทบกระเทือนแม้กระทั่งคำว่า ผู้บังคับบัญชา-ผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกพี่-ลูกน้อง

กองทัพนับวันเสื่อมทรุด ในยุคที่ พล.อ.อนุพงษ์ เป็น ผบ.ทบ. ไร้น้ำยาที่จะจัดการกับ“ตัวอย่างทหารเลว” อย่างที่ปลัดกระทรวงกลาโหมให้คำนิยามไว้ ก็เท่านั้น!!
กำลังโหลดความคิดเห็น