“ชัย” กวนโอ๊ย! ประชด “บุญยอด” ยอดคนจริงๆ เหมาะสมนั่ง รมต.ไว้ตรวจสอบรัฐบาล ชี้ถ้าสภาฯ ขาดไปจะไม่มีคนประท้วง แนะอย่าถือสา ยันไม่กดโหวตเพราะกลัวทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง โยนวิป 3 ฝ่าย ยื่นเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ อ้างชงบทสรุปส่งนายกฯ แล้ว ยัน พร้อมให้ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเต็มที่
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแฉ ส.ส.โดดประชุมสภา และไม่ลงมติในกฎหมาย โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยว่า อย่าพูดถึงบุคคลคนนี้ สภาเขาเลิกพูดถึงกันแล้ว เพราะจะขาดคนประท้วงก็ให้เขาอยู่เพื่อประท้วงต่อไป อย่าไปถือสาหาความ แกเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถในสภามีคนคนเดียวที่ยอดคนจริงๆ เขาเรียกว่าบุญยอด ตนต้องยกย่อง ส่วนเจตนาที่ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวนั้น ตนไม่ทราบ ไม่แน่ใจว่าอยากเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ พร้อมพูดในทำนองประชดว่า หากมีการปรับ ครม. บุคคลอย่างนี้ควรจะเป็นรัฐมนตรีได้ เพื่อจะได้ตรวจสอบผลงานของ ส.ส. รัฐบาล รัฐวิสาหกิจต่างๆ คนคนนี้สามารถทำได้คล้ายกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ฉะนั้น 2 สภาจะต้องมีที่เหมือนกัน คือวุฒิสภาก็มีนายเรืองไกร ส่วนสภาฯ ก็มีนายบุญยอด ซึ่งตนยกย่องทั้ง 2 เป็นคนดีมีฝีมือ ขยัน คนอื่นสู้ท่านไม่ได้ในเรื่องการตรวจสอบ และขอให้ทำอย่างนี้เสมอต้นเสมอปลาย สภาจะเดินได้
ส่วนที่ว่าจะช่วยประสานรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับการลงมติในการประชุมสภาหรือไม่นั้น นายชัยกล่าวว่า คงทำไม่ได้ เพราะมีกฎหมายรัฐธรรมนูญห้ามไว้ว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี และรัฐบาลจะโหวตไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการแสดงตนทำได้ ประธานสภาจะต้องเป็นกลางจริงๆ แต่ให้ดูว่าตนขาดประชุมหรือไม่ ตนเป็นประธานในที่ประชุมถ้าจะโหวตก็ต้องพิจารณาตัวเอง ซึ่งก็จะต้องเข้าฝ่ายรัฐบาลมันก็ไม่เป็นกลาง ตนจึงไม่ลงมติ ไม่เช่นนั้นจะขาดความเป็นกลาง เพราะฉะนั้นคนที่พูดเรื่องนี้พูดผิด พูดใหม่ได้ และพูดให้ถูก
ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยว่า หลังจากตนได้รับหนังสือจากประธานคณะทำงานเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ตนได้ตรวจสอบในรายละเอียดตามที่รัฐบาลได้ทำหนังสือมาขอให้ทางสภาได้จัดเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ ดังนั้น เมื่อเสร็จแล้วทางสภาโดยตนในฐานะประธานสภาฯ ก็จะสรุปเรื่องเพื่อส่งไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาซึ่งได้ส่งเรื่องไปแล้วตั้งแต่วานนี้ (10 ธ.ค.) ดังนั้น ต่อไปเป็นภาระของรัฐบาล โดยรัฐบาลจะทำประชามติหรือจะดำเนินการอย่างไรก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ถ้าจะเสนอกฎหมายมาให้รัฐสภาพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เสนอเป็นกฎหมายมา สภาฯก็จะรับเรื่องเพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระพิจารณาต่อไป ซึ่งถ้าส่งมาจะบรรจุในสมัยประชุมไหนก็ได้ ถ้ารัฐบาลต้องการด่วนก็สามารถเปิดสมัยประชุมวิสามัญได้ ซึ่งในภายหลังจะมาโทษประธานสภาฯไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายค้าน รัฐบาล วุฒิสภาว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนจะประสานให้ฝ่ายค้านเข้ามาร่วมได้หรือไม่ นายชัยกล่าวว่า ประธานต้องทำหน้าที่เป็นกลางจริงๆ ถ้าใครทำเรื่องมาก็บรรจุเข้าระเบียบวาระ เพราะกฎหมายเสนอได้หลายทาง ประชาชน รัฐบาล ก็เสนอได้ ส.ส.125 คนก็เสนอได้
ขณะที่การเสนอญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านนั้น นายชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะ ส.ส.ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางสภาฯก็ไม่มีปัญหาอะไร และพร้อมที่จะเปิดสมัยวิสามัญ จะกี่วันก็ได้ หากว่าจะทำให้ประชาชนมีความสมานฉันท์ ตนก็พร้อมที่จะทำ ซึ่งการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคลหรือนายกฯนั้น ถ้ามีชื่อนายกฯก็หมายความว่าเขาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ส่วนถ้ารัฐบาลมีการปรับ ครม.ออกไปก่อนนั้น กฎหมายก็ไม่ได้เขียนไว้ว่าคนที่ลาออกหรือแม้แต่รัฐมนตรีที่ตายแล้ว ยังฟื้นขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงได้