“เทพไท” ฉะ “เด็จพี่” อย่าเสี้ยมยุปรับ ครม. แนะลูกพรรคระวังแสดงความเห็นหวั่นเข้าทาง เย้ย พท.อ้างโพลเลือกตั้งใหม่กวาดเรียบ 300 ที่นั่ง ไปสำรวจตอนไหน ไล่ไปถาม ส.ส.ในพรรคพร้อมลงเลือกตั้งหรือเปล่า
วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสการปรับ ครม.ที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาสวมบทเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกในพรรคประชาธิปัตย์ว่า กรณีนี้ไม่สามารถที่จะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ได้ เพราะเป็นพรรคการเมืองที่มีวินัย เคารพการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคเองก็รับฟังความเห็นของสมาชิกพรรค และที่ระบุว่าคนในพรรคไม่พอใจบทบาทของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งตนเชื่อว่า ส.ส.ทุกคนในพรรคยังให้ความเคารพ เพราะเชื่อว่าถ้าไม่มีนายสุเทพก็คงไม่มีรัฐบาล
ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่า ถ้าปรับ ครม.แล้วไม่ดี เก้าอี้ของผู้จัดการรัฐบาลจะร้อนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้อำนาจการตัดสินใจสูงสุดในการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯคนเดียว แต่ทุกครั้งที่มีการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ นายกฯ ก็จะประสานกับผู้จัดการรัฐบาลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ดังนั้น ขอให้ ส.ส.พรรคทุกคนพึงระวังการแสดงความเห็นผ่านสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะอาจจะเป็นเงื่อนไขที่ถูกนำไปขยายผลของบางฝ่ายที่ไม่หวังดีต่อรัฐบาลได้ และเป็นการทำลายขวัญกำลังใจของคนไทยที่อยากจะเห็นรัฐบาลชุดนี้นำพาชาติฝ่าวิกฤตปัญหาไปให้ได้
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุโดยอ้างผลการสำรวจโพลของพรรคว่า หากมีการยุบสภาพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.300 เสียง นายเทพไทกล่าวว่า ตนอยากถามว่าผลโพลล์ดังกล่าวมีการสำรวจจริงหรือไม่ หรือแค่เป็นการมั่วนั่งเทียนของคนในพรรคเพียงไม่กี่คน ขอให้กลับไปถามสมาชิกพรรคของตัวเองก่อนว่าพร้อมที่จะลงสนามการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ในไทมส์ ออนไลน์ จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงขั้นรุนแรง สมคบกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาทรยศต่อชาติ คนไทยทั้งชาติว่าเขามีความรู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยในภาคอีสานต่างบอกว่ารับไม่ได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมจาบจ้วงเป็นอาจิณ และการเข้ารับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐาลกัมพูชาก็เป็นการเผยธาตุแท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าแค่ละประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของชาติไทย
“ผมจึงไม่อยากให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยฝันหวานไปถึงการยุบสภา ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองจำเป็นต้องให้รัฐบาลตัดสินใจเช่นนั้น แต่รัฐบาลจะไม่ยึดเอาผลสำรวจโพลหรือการได้เปรียบทางการเมืองมาเป็นเงื่อนไขในการยุบสภา เพราะนายกฯ ประกาศชัดเจนแล้วว่า ยุบสภาก็ต่อเมื่อ 3 เงื่อนไขมีความพร้อม คือ รัฐธรรมนูญได้รับการแก้ไข เศรษฐกิจไทยดีขึ้น และสามารถจัดการปัญหาลดความแตกแยกในสังคมไทยลงได้ จนถึงวันนี้เชื่อว่ารัฐบาลยังมีความสามารถบริการประเทศได้ และผลงานของรัฐบาลก็ปรากฏเป็นที่ยอมรับของประชาชนโดยลำดับ เมื่อพรรคเพื่อไทยชอบอ้างผลโพลมาโม้โอ้อวด ผมก็อยากให้กลับไปดูผลโพลที่คนไทยร้อยละ 60 อยากให้รัฐบาลชุดนี้อยู่บริหารประเทศต่อ พร้อมทั้งดูดัชนีความสุขของคนไทยทั้งชาติ ที่ล่าสุดเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และช่วยกลับไปบอกให้คนเสื้อแดงซึ่งเป็นแนวร่วมเดียวกันให้ยุติการชุมนุม เพราะผลโพลออกมาว่าไม่ต้องการให้คนเสื้อแดงมาป่วน ก่อกวนบรรยากาศช่วงความสุขของคนไทยอีกต่อไป” นายเทพไทกล่าว