“นพดล” กระดี๊กระด๊า“แม่วิศวกร” โฟนอินขอบคุณเพื่อไทย สุดปลื้ม หลังรัฐบาลเขมรให้การต้อนรับและนำไปเยี่ยมบุตรชายนาน 2 ชั่วโมง โม้แหลกใช้ความเป็นเพื่อนเจรจา เตือนรัฐบาลแจงให้ชัดเหตุยกเลิกเอ็มโอยูกัมพูชา ยังปากแข็งป้อง"แม้ว"ไม่ใช่ตัวเสี้ยมให้ “ฮุนเซน” ไม่ขอกู้เงินจากไทย
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ขอกู้เงินจากประเทศไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ทำให้คนไทยเข้าใจว่า มีคนเสี้ยมไม่ให้กัมพูชากู้ที่อาจจะหมายความถึง พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายนพดลกล่าวยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้คำปรึกษาเรื่องที่แนะนำให้ไม่กู้เงินจากประเทศไทย พร้อมเห็นว่าการที่นายอภิสิทธิ์ออกมาพูดเช่นนี้เป็นการให้ร้ายเพื่อให้คนเข้าใจผิดว่าการไม่กู้เงินดังกล่าวเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรีให้โตเป็นผู้ใหญ่และเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ใช่ทำตัวเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่นายอภิสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยว่ามีข้อคนให้มูลแก่นายฮุนเซนอย่างผิดๆ ว่าประเทศไทยจะยกเลิกเงินกู้ 1.4 พันล้านบาทที่จะให้กัมพูชากู้ไปสร้างถนนนั้น เนื่องจากนายฮุนเซนได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันกำลังดูถูกคนกัมพูชาที่ระงับเงินกู้จำนวนดังกล่าว ซ้ำยังท้าให้รัฐบาลไทยปิดด่านการค้าชายแดนทั้งหมดด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนายอภิสิทธิ์ได้โทรศัพท์ไปแจ้งนายฮุนเซนแล้วว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ระงับเงินกู้จำนวนดังกล่าว แต่หากทางกัมพูชาจะไม่กู้ก็เป้นการตัดสินใจของกัมพูชาเอง การที่นายฮุนเซนยังมาโจมตีไทยในเรื่องดังกล่าวจึงน่าสงสัยว่ามีใครไปให้ข้อมูลที่ผิดๆ หรือไม่
นายนพดลยังแนะนำนายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้ทำหน้งสือแจ้งไปยังกัมพูชาอย่างเป็นทางการ กรณีที่ต้องการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างไทยและกัมพูชา เพราะเห็นว่าการออกมาพูดในลักษณะขมขู่ว่าจะยกเลิก ไม่เหมาะสม พร้อมเห็นว่านโยบายของกระทรวงการต่างประเทศของไทยขณะนี้สร้างความเสียหายแก่ไทยอย่างมาก และขออย่าโยนความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์แสดงออกให้เห็นว่าต้องการสร้างความปรองดอง
นายนพดลได้กล่าวขอบคุณสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี และนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ดูแลนางสิมารักษ์ ณ นครพนม ที่ได้เดินทางไปถึงกัมพูชาวันนี้ (2 ธ.ค.) เพื่อเยี่ยมลูกชายที่ถูกจับกุม อีกทั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้ให้การต้อนรับ พร้อมนำนางสิมารักษ์ ไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกควบคุมตัว และนางศิวรักษ์ยังมีโอกาสนั่งรถชมเมืองพนมเปญด้วย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการสื่อสารทางโทรศัพท์ โดยใช้ความสัมพันธ์ที่เรียกว่าความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเพียงอย่างเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพดลได้โทรศัพท์ไปถึงนางสิมารักษ์ที่พนมเปญให้โฟนอินเข้ามา โดยนางสิมารักษ์กล่าวขอบคุณสมเด็จฯ ฮุนเซน และนายซก อาน และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มารับถึงสนามบินและนำตนไปพบลูกชาย ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการประสานงานของนายนพดล ซึ่งได้รับความสะดวกสบาย สำเร็จทุกประการ โดยทางเรือนจำได้ให้การต้อนรับให้ความสะดวกมากที่สุด ทั้งนี้ ตนได้พบปะพูดคุยกับนายศิวรักษ์เป็นเวลารวม 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้มาส่งที่พัก
นอกจากนี้ยังขอบคุณการบินไทยที่ฝากผ้าห่ม 2 ผืน และหมอน 1 ใบมาให้นายศิวรักษ์ด้วยอย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้พูดคุย นายศิวรักษ์ยังสุขภาพแข็งแรง และไม่ทราบล่วงหน้าว่าตนจะมาพบ ซึ่งตนขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยมาก อย่างไรก็ตาม หากนายศิวรักษ์พ้นโทษจะเป็นผู้แถลงรายละเอียดเพิ่มเติมเองอีกครั้ง ส่วนความคืบหน้าเรื่องประกันตัว เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการทางศาลของทางกัมพูชา ซึ่งนางสิมารักษ์จะกลับมาถึงประเทศไทย 10.00 น.พรุ่งนี้ (3 ธ.ค.)
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่านางสิมารักษ์เพิ่งเดินทางไปเยี่ยมลูกชายโดยการช่วยเหลือของกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา และบอกว่าลูกชายได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และจะเดินทางไปหาลูกชายอีกครั้งในวันที่ 7 ธ.ค.ก่อนที่ศาลกัมพูชาจะอ่านคำพิพากษาในวันที่ 8 ธ.ค. แต่จู่ๆ วันที่ 29 พ.ย.นายนพดล ปัทมะ ให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมจะช่วยนายศิวรักษ์เต็มที่ และในวันรุ่งขึ้นนางสิมารักษ์ได้เดินทางไปที่พรรคเพื่อไทยและร่วมแถลงข่าวการที่พรรคเพื่อไทยจะช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ก่อนที่จะติดต่อให้นางสิมารักษ์เดินทางไปเยี่ยมลูกชายที่กัมพูชา ทั้งที่เพิ่งไปเยี่ยมเมื่อไม่กี่วันก่อนและบอกว่าลูกชายสบายดี ทำให้เกิดความน่าสงสัยว่าการเดินทางไปรอบหลังนี้ เพียงแค่ต้องการสร้างผลงานให้พรรคเพื่อไำทยและ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีพิรุธที่นายศิวรักษ์ไม่รู้ล่วงหน้าว่าแม่จะไปเยี่ยมอีกครั้ง