เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้ ( 2 ธ.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยได้เดินทางไปส่งนางสิมารักษ์ ณ นครพนม และนายพงษ์สุรี ชุติพงษ์ มารดาและน้องชายของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัวไว้ ที่อาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ ที่ประเทศกัมพูชา โดยนำของใช้ส่วนตัวอาทิ ชุดนอน เสื้อยืด เสื้อกล้าม อาหารแห้งไปให้บุตรชาย และเพื่อนชาวไทยของนายศิวรักษ์ ที่ประเทศกัมพูชา
นางสิมารักษ์ กล่าวว่า การขอให้พรรคเพื่อไทย ช่วยเหลือนายศิวรักษ์นั้นไม่ได้เป็นเพราะกระทรวงการต่างประเทศทำงานล่าช้า แต่เป็นเพราะตนใจร้อน ต้องการไปพบบุตรชายเอง และไม่มีนัยยะแอบแฝงเรื่องการเมือง แต่ต้องการที่จะใช้ทุกช่องทางเพื่อช่วยให้ได้เดินทางไปพบบุตรชายเท่านั้น เนื่องจากการเดินทางไปครั้งแรกพบว่า ลูกอิดโรย เนื่องจากอยู่ในสถานที่คับแคบ และมีอาการหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ จึงเป็นห่วง
ส่วนเรื่องการประกันตัวบุตรชายนั้น ขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมวงเงินสำหรับวางประกันตัวนายศิวรักษ์เอาไว้แล้ว 50,000 - 200,000 บาท โดยตนจะค้างที่กัมพูชา 1 คืน หากนายศิวรักษ์ ได้รับการประกันตัว ก็ขอให้ได้อยู่กับบุตรชายสักหนึ่งคืนก่อนแล้วจะเดินทางกลับประเทศไทย จากนั้นจะเดินทางไปกัมพูชาอีกครั้งในวันที่ 7 ธ.ค. กับกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนที่จะมีการพิจารณาจัดสินคดีในวันที่ 8 ธ.ค.
สำหรับกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงการต่างประเทศ ยึดพาสปอร์ตนางสิมารักษ์เอาไว้ ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมบุตรชายได้นั้น นางสิมารักษ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ขัดขวางการเดินทางไปกัมพูชาใดๆ ทั้งสิ้น เพราะในการเดินทางครั้งแรกที่ให้พาสปอร์ต กับกระทรวงการต่างประเทศไว้เพื่อความสะดวกในการประสานงาน และปัจจุบันพาสปอร์ตก็อยู่กับตน
ด้านนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนไปในฐานะตัวแทน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องตั๋วเดินทางให้ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ช่วยเหลือนางสิมารักษ์ โดยไม่ได้หวังผลทางการเมือง เพียงแต่เมื่อนางสิมารักษ์ ติดต่อขอความช่วยเหลือผ่าน นายนพดล พรรคก็เข้าไปช่วยประสานงานเพื่อให้แม่ได้ไปพบกับลูก ซึ่งเป็นการช่วยด้านมนุษยธรรมในฐานะคนไทยคนหนึ่ง
**จัดฉากให้แม่วิศวกรโฟนอิน
ต่อมา เวลา 15.00 น. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ขอกู้เงินจากประเทศไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ทำให้คนไทยเข้าใจว่า มีคนเสี้ยมไม่ให้กัมพูชา กู้ที่อาจจะหมายความถึง พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายนพดล กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้คำปรึกษาเรื่องที่แนะนำให้ไม่กู้เงินจากประเทศไทย พร้อมเห็นว่า การที่นายอภิสิทธิ์ ออกมาพูดเช่นนี้ เป็นการให้ร้าย เพื่อให้คนเข้าใจผิด ว่าการไม่กู้เงินดังกล่าวเป็นเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ให้โตเป็นผู้ใหญ่ และเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ใช่ ทำตัวเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ผู้นำฝ่ายค้าน
นายนพดล กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ควรทำหนังสือแจ้งไปยังกัมพูชาอย่างเป็นทางการ กรณีที่ต้องการยกเลิกบันทึความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างไทย และกัมพูชา เพราะเห็นว่าการออกมาพูดในลักษณะขมขู่ว่าจะยกเลิก ไม่เหมาะสม พร้อมเห็นว่านโยบายของกระทรวงการต่างประเทศของไทย ขณะนี้สร้างความเสียหายแก่ไทยอย่างมาก และขออย่าโยนความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายนพดล ยังกล่าวขอบคุณ สมเด็จฮุนเซน และนายซกอาน รองนายกรัฐมนตรี กัมพูชา ที่ดูแลนางสิมารักษ์ ที่ได้เดินทางไปถึงกัมพูชา อีกทั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้ให้การต้อนรับ พร้อมนำนางสิมารักษ์ ไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ และนางศิวรักษ์ ยังมีโอกาสนั่งรถชมเมืองพนมเปญด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายนพดลได้โทรศัพท์ไปถึงนางสิมารักษ์ ที่พนมเปญ ให้โฟนอินเข้ามา โดยนางสิมารักษ์ กล่าวขอบคุณสมเด็จฮุนเซน และนายซกอาน และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มารับถึงสนามบิน และนำตนไปพบลูกชาย ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการประสานงานของนายนพดล ซึ่งได้รับความสะดวกสบาย สำเร็จทุกประการ โดยทางเรือนจำ ได้ให้การต้อนรับให้ความสะดวกมากที่สุด ทั้งนี้ ตนได้พบปะพูดคุยกับนายศิวรักษ์ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้พามาส่งที่พัก
ทั้งนี้ เท่าที่ได้พูดคุย นายศิวรักษ์ ยังมีสุขภาพแข็งแรง อย่างไรก็ตามหากนายศิวรักษ์ พ้นโทษ จะเป็นผู้แถลงรายละเอียดเพิ่มเติมเองอีกครั้ง ส่วนความคืบหน้าเรื่องประกันตัว เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการทางศาลของทางกัมพูชา ขณะที่นางสิมารักษ์ จะกลับมาถึงประเทศไทย 10.00 น.วันนี้ (3 ธ.ค.)
**"เทือก"ยันรัฐบาลมีน้ำยา
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นางสิมารักษ์ ณ.นครพนม ออกมาขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ช่วยเหลือให้ได้เข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ และให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยเหลือ เรื่องการประกันตัวนายศิวรักษ์ ว่า กระทรวงการต่างประเทศทำอะไรได้ ก็ต้องทำไป ส่วนที่มองกันว่าการที่นางสิมารักษ์ ไปขอความช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย แสดงว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยานั้น นายสุเทพ กล่าวว่า "รัฐบาลก็มีน้ำยาเท่าที่มี ไม่มากไม่น้อย แต่คนที่เป็นพ่อแม่คน เวลาที่ลูกเดือดร้อน ก็ต้องไปหาความช่วยเหลือจากทุกหนทุกแห่งเท่าที่จะทำได้ ผมมีลูก ผมเข้าใจดี" นายสุเทพกล่าว
นางสิมารักษ์ กล่าวว่า การขอให้พรรคเพื่อไทย ช่วยเหลือนายศิวรักษ์นั้นไม่ได้เป็นเพราะกระทรวงการต่างประเทศทำงานล่าช้า แต่เป็นเพราะตนใจร้อน ต้องการไปพบบุตรชายเอง และไม่มีนัยยะแอบแฝงเรื่องการเมือง แต่ต้องการที่จะใช้ทุกช่องทางเพื่อช่วยให้ได้เดินทางไปพบบุตรชายเท่านั้น เนื่องจากการเดินทางไปครั้งแรกพบว่า ลูกอิดโรย เนื่องจากอยู่ในสถานที่คับแคบ และมีอาการหยุดหายใจระหว่างนอนหลับ จึงเป็นห่วง
ส่วนเรื่องการประกันตัวบุตรชายนั้น ขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมวงเงินสำหรับวางประกันตัวนายศิวรักษ์เอาไว้แล้ว 50,000 - 200,000 บาท โดยตนจะค้างที่กัมพูชา 1 คืน หากนายศิวรักษ์ ได้รับการประกันตัว ก็ขอให้ได้อยู่กับบุตรชายสักหนึ่งคืนก่อนแล้วจะเดินทางกลับประเทศไทย จากนั้นจะเดินทางไปกัมพูชาอีกครั้งในวันที่ 7 ธ.ค. กับกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนที่จะมีการพิจารณาจัดสินคดีในวันที่ 8 ธ.ค.
สำหรับกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงการต่างประเทศ ยึดพาสปอร์ตนางสิมารักษ์เอาไว้ ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมบุตรชายได้นั้น นางสิมารักษ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ขัดขวางการเดินทางไปกัมพูชาใดๆ ทั้งสิ้น เพราะในการเดินทางครั้งแรกที่ให้พาสปอร์ต กับกระทรวงการต่างประเทศไว้เพื่อความสะดวกในการประสานงาน และปัจจุบันพาสปอร์ตก็อยู่กับตน
ด้านนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนไปในฐานะตัวแทน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องตั๋วเดินทางให้ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ช่วยเหลือนางสิมารักษ์ โดยไม่ได้หวังผลทางการเมือง เพียงแต่เมื่อนางสิมารักษ์ ติดต่อขอความช่วยเหลือผ่าน นายนพดล พรรคก็เข้าไปช่วยประสานงานเพื่อให้แม่ได้ไปพบกับลูก ซึ่งเป็นการช่วยด้านมนุษยธรรมในฐานะคนไทยคนหนึ่ง
**จัดฉากให้แม่วิศวกรโฟนอิน
ต่อมา เวลา 15.00 น. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ขอกู้เงินจากประเทศไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ทำให้คนไทยเข้าใจว่า มีคนเสี้ยมไม่ให้กัมพูชา กู้ที่อาจจะหมายความถึง พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายนพดล กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้คำปรึกษาเรื่องที่แนะนำให้ไม่กู้เงินจากประเทศไทย พร้อมเห็นว่า การที่นายอภิสิทธิ์ ออกมาพูดเช่นนี้ เป็นการให้ร้าย เพื่อให้คนเข้าใจผิด ว่าการไม่กู้เงินดังกล่าวเป็นเพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ให้โตเป็นผู้ใหญ่ และเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ใช่ ทำตัวเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ผู้นำฝ่ายค้าน
นายนพดล กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ควรทำหนังสือแจ้งไปยังกัมพูชาอย่างเป็นทางการ กรณีที่ต้องการยกเลิกบันทึความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างไทย และกัมพูชา เพราะเห็นว่าการออกมาพูดในลักษณะขมขู่ว่าจะยกเลิก ไม่เหมาะสม พร้อมเห็นว่านโยบายของกระทรวงการต่างประเทศของไทย ขณะนี้สร้างความเสียหายแก่ไทยอย่างมาก และขออย่าโยนความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายนพดล ยังกล่าวขอบคุณ สมเด็จฮุนเซน และนายซกอาน รองนายกรัฐมนตรี กัมพูชา ที่ดูแลนางสิมารักษ์ ที่ได้เดินทางไปถึงกัมพูชา อีกทั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้ให้การต้อนรับ พร้อมนำนางสิมารักษ์ ไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ และนางศิวรักษ์ ยังมีโอกาสนั่งรถชมเมืองพนมเปญด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายนพดลได้โทรศัพท์ไปถึงนางสิมารักษ์ ที่พนมเปญ ให้โฟนอินเข้ามา โดยนางสิมารักษ์ กล่าวขอบคุณสมเด็จฮุนเซน และนายซกอาน และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มารับถึงสนามบิน และนำตนไปพบลูกชาย ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการประสานงานของนายนพดล ซึ่งได้รับความสะดวกสบาย สำเร็จทุกประการ โดยทางเรือนจำ ได้ให้การต้อนรับให้ความสะดวกมากที่สุด ทั้งนี้ ตนได้พบปะพูดคุยกับนายศิวรักษ์ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้พามาส่งที่พัก
ทั้งนี้ เท่าที่ได้พูดคุย นายศิวรักษ์ ยังมีสุขภาพแข็งแรง อย่างไรก็ตามหากนายศิวรักษ์ พ้นโทษ จะเป็นผู้แถลงรายละเอียดเพิ่มเติมเองอีกครั้ง ส่วนความคืบหน้าเรื่องประกันตัว เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการทางศาลของทางกัมพูชา ขณะที่นางสิมารักษ์ จะกลับมาถึงประเทศไทย 10.00 น.วันนี้ (3 ธ.ค.)
**"เทือก"ยันรัฐบาลมีน้ำยา
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นางสิมารักษ์ ณ.นครพนม ออกมาขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ช่วยเหลือให้ได้เข้าเยี่ยมนายศิวรักษ์ และให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยเหลือ เรื่องการประกันตัวนายศิวรักษ์ ว่า กระทรวงการต่างประเทศทำอะไรได้ ก็ต้องทำไป ส่วนที่มองกันว่าการที่นางสิมารักษ์ ไปขอความช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย แสดงว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยานั้น นายสุเทพ กล่าวว่า "รัฐบาลก็มีน้ำยาเท่าที่มี ไม่มากไม่น้อย แต่คนที่เป็นพ่อแม่คน เวลาที่ลูกเดือดร้อน ก็ต้องไปหาความช่วยเหลือจากทุกหนทุกแห่งเท่าที่จะทำได้ ผมมีลูก ผมเข้าใจดี" นายสุเทพกล่าว
