“โฆษกมาร์ค” ไม่เชื่อคำทำนายโหรเสื้อแดง ฟันธง “แม้ว” กลับมายิ่งใหญ่เดือน เม.ย.ปีหน้า เย้ยคิดว่าเผาตำราทิ้งไปหมดแล้ว หลังธงหักเมื่อสงกรานต์เลือด เปรียบ “นช.แม้ว” เหมือนหมาจนตรอก แต่อาจได้กลับมายิ่งใหญ่ในคุก เชื่อจะหนีไปกบดานที่อื่นอีกหลังดูไบเจ๊ง เมินข้ออ้างไปยุโรปเพราะไม่มีใครต้อนรับแล้ว
วันนี้ (30 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่โหรสำนักต่างๆ ออกมาทำนายทายทักสถานการณ์บ้านเมืองและรัฐบาลว่า แม้ไม่ใช่เป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์แต่ก็ไม่ควรลบหลู่ ต้องพิจารณาจากเหตุปัจจัยว่าคำทำนายต่างๆ จะสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงของบ้านเองหรือไม่ ซึ่งกรณีของหมอดูฟันธงที่ทำนายว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งหลังจากวันที่ 26 เม.ย.53 เมื่อดูเหตุปัจจัยแล้วก็ไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะเป็นไปได้ ถ้าจะมีอำนาจจริงก็คงจะไม่มีอำนาจในการเป็นผู้บริหารประเทศ น่าจะมีอำนาจในคุกมากกว่า เพราะถ้าจะมาติดคุกก็คงได้รับเลือกเป็นผู้นำนักโทษ หากจำไม่ผิด หมอดูคนนี้ไม่ใช่หรือที่เคยกระโดดขึ้นเวทีคนเสื้อแดงในเหตุการณ์สงกรานต์เลือดและเคยปราศรัยฟันธงว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 ดวงถึงฆาตหมดอำนาจในการปกครองแล้ว และผลการทำนายฟันธงครั้งนั้นเป็นอย่างไรบ้าง สังคมไทยสามารถพิสูจน์ได้ ส่วนการประกาศจะเผาตำราเป็นเดิมพันนั้น ในการทำนายครั้งนี้อยากถามว่า ยังคงมีตำราโหราศาสตร์เก็บเอาไว้ให้เผาอีกหรือ เพราะคิดว่าน่าจะเอาไปเผาทิ้งตั้งแต่ฟันธงแล้วธงหักตั้งแต่สงกรานต์เลือดที่ผ่านมาแล้ว
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนคำทำนายของ 3 โหรดังที่ระบุว่าให้นายกฯ ระมัดระวังตัวเพราะอาจมีการลอบสังหารต่อตัวนายกฯ ได้นั้น ถ้าดูเรื่องนี้จากเหตุปัจจุบัน การเมืองได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น หวังแค่การชนะคะคานกันจนถึงชีวิตโดยใช้ทุกวีทาง ซี่งไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์การมืองไทยมาก่อน ซึ่งตัวนายกฯเ อง ก็ไม่เคยตั้งอยู่บนความประมาท เพราะรู้อยู่ว่าฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจะใช้ทุกรูปแบบ เพราะวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย ไม่สามารถโค่นล้มรัฐบาลนี้ได้ ประกอบกับคดีความต่างๆที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีการพิจารณาพิพากษาคดีในเร็วๆ นี้แล้ว จึงเป็นเรื่องของคนเลือดเข้าตา หมาจนตรอก ที่ทำได้ทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม ข้อกฏหมาย คุณธรรม จริยธรรมและมนุษยธรรม แม้แต่บาปบุญคุณโทษก็ไม่คำนึงโดยไม่เกรงกลัว คำทำนายทายทักต่างๆ นายกฯก็ยังปฏิบัติตัวตามปกติ ยังมีความเชื่อในกฎแห่งกรรม ที่ว่าคนทำดีจะมีพระคุ้มครอง
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำนายภาวะเศรษฐกิจ ที่ระบุว่า เศรษฐกิจของไทยจะพังพินาศเพราะคนอยู่ต่างประเทศนั้น ก็เป็นที่ทราบกันว่าคนดังกล่าวหมายถึงใครเพราะได้ทำมาตลอดให้เศรษฐกิจไทยพังพาบลงทุกวัน เพียงเพื่อหวังผลทางการเมืองเพราะคิดว่า ถ้าเศรษฐกิจไทยพังลง คนทั้งหมดจะได้คิดถึงตัวเอง แต่ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือ รัฐบาลนี้ได้เข้ามาแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่งจึงเกิดความริษยา แต่คนดังกล่าวเคยสบประมาทว่า เด็กสองคนไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาของประเทศได้ แต่ในขณะนี้ทุกภาคส่วนยืนยันแล้วว่า ืเศรษฐกิจไทยมีปัจจัยบวกในไตรมาสที่ 4 แน่นอน จึงขอบอกให้รู้ว่าเด็กสองคนสามารถมีปัญญาสร้างบ้านแปลงเมือง ได้สำเร็จอย่างแน่นอน อย่าให้คนไทยบางคนที่หนีคดี ในต่างประเทศให้อยู่ในความสงบ อย่าคิดร้ายทำลายชาติบ้านเมืองด้วยการทำลายความเชื่อมั่น และโอกาสของชาติอีกต่อไป เพราะตัวเองในเวลานี้ก็หนีคดีอยู่ที่ดูไบ กองทุนดูไบ เวิลด์ ยังเจ๊ง จึงไม่รู้ว่าจะหนีไปประเทศไหนอีก ที่ส่งเอสเอ็มเอสบอกสมาชิกว่าล่าสุดจะไปอยู่ในประเทศแถบยุโรป ตนอยากรู้ว่าเป็นประเทศใดที่ยังต้อนรับนักโทษหนี้คดีคนนี้อีก เพราะตอนอยู่เมืองไทยร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ก่อให้เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง คนจนลงพริบตาทั้งชาติ พอไปอยู่ดูไบและดูไบเจอวิกฤตเช่นนี้อยากจะถามว่ายังรวยเหมือนครั้งเปลี่ยนค่าเงินบาทไทยอยู่อีกหรือไม่ หรือจะเป็นการฉวยโอกาสทิ้งดูไบไปอยู่ประเทศอื่นอีก เพื่อหนีการจับกุมตัวของรัฐบาลไทยมาลงโทษตามกฏหมาย
