โฆษกนายกฯ ยืนยัน “มาร์ค” ไม่มีอะไรขัดแย้ง “นช.แม้ว” แต่ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล เย้ยภาพสองเกลอกอดกันกลมเสมือนผีหลอกผี โต้ “ฮุนเซน” ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตคนไทยดึง “แม้ว”ไปนั่งที่ปรึกษา เพราะไม่ถือพาสปอร์ตไทย รู้ทันอย่าอ้างทฤษฎีพอเพียงไปสอนเขมรเพื่อลบภาพหมิ่นในหลวง แนะทัพไข่แม้วเหมาลำเครื่องบินไปเชลียร์นายใหญ่แทนเหมารถทัวร์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายเทพไท เสนพงศ์ แถลงข่าว
วันนี้ (12 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของสมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชาที่มีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยว่า ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการให้สัมภาษณ์หรือการแถลงข่าวเห็นชัดว่าสมเด็จฯ ฮุนเซนได้รับข้อมูลที่ผิดจริง ซึ่งสมเด็จฯ ฮุนเซนพูดถึงการเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและที่ปรึกษาส่วนตัวนั้น อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจเมื่อปี 2549 ได้ แต่ข้อเท็จจริงสมเด็จฯ ฮุนเซนไม่รู้เลยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ส่งผลให้คนไทยจนทั้งประเทศ มี พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียวที่ร่ำรวย
นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่สมเด็จฯ ฮุนเซนอ้างว่า มีความขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์นั้น ส่วนตัวสมเด็จฯ ฮุนเซนจะคิดเช่นไรไม่ทราบ แต่สำหรับนายกฯ ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกับสมเด็จฯ ฮุนเซน เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา ที่ได้ตั้งผู้ร้ายหนีคดีไปเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลจะต้องดำเนินการตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะตระหนักถึงปัญหาและจะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
ส่วนคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับพรรคการเมืองประชาชนกัมพูชา มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับพรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคพลังประชาชนจนมาถึงพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ตนมองว่าเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ไม่ควรใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพรรคสม รังสี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของกัมพูชา ทั้งนี้ ยืนยันว่าเราไม่เคยมีความผูกพันใดๆ กับพรรคดังกล่าว การที่สมเด็จฯ ฮุนเซนแนะนำว่า ให้เชิญพรรคสม รังสี มาเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลไทยบ้าง เชื่อว่ารัฐบาลไทยคงไม่สิ้นคิดเหมือน พรรคการเมืองหนึ่งที่แต่งตั้งนักโทษ มาเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ และการที่สมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าวว่าต้องขออนุญาตคนไทยเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มาช่วยเหลือทางเศรษฐกิจกัมพูชานั้น ตนคิดว่าไม่จำเป็นต้องขออนุญาต เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ถือพาสปอร์ตไทย และคนไทยก็ไม่ต้องการมีเพียงกรมราชทัณฑ์เท่านั้นที่ต้องการตัวมารับโทษ
“วันนี้มีภาพสมเด็จฯ ฮุนเซนกอดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ นี่เป็นภาพผีหลอกผี โจรคบโจร และพระยาละแวกกับพระยาละวอก กอดกันเหนียวแน่น ถือเป็นคู่สร้างคู่สม ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับคนไทยทั้งประเทศอย่างยิ่ง” นายเทพไทกล่าว
นอกจากนี้ นายเทพไทกล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวพาดพิงถึงนายกฯ และรัฐบาลไทย ว่ามีความโกรธแค้นอะไรเป็นการส่วนตัว ทั้งนี้ยืนยันว่านายกฯ ไม่มีอะไรเป็นการส่วนตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะว่าไม่เคยให้ร้ายหรือทำอะไรกับนายกฯ แต่พฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวข้องกับประเทศชาติ ในฐานะที่นายอภิสิทธิ์เป็นผู้นำประเทศก็จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย ไม่อาจปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ทั้งนี้เพื่อให้กฎหมายคงความศักดิ์สิทธิ์ไว้ ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณอาสาขอเป็นคนกลางสานความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายเทพไทกล่าวตอบโต้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีหน้าเป็นคนกลางอีกหรือ ทั้งๆ ที่ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งสิ้น ไม่ต้องมาสร้างภาพเป็นพระเอก หากต้องการให้ปัญหาทุกอย่างจบลง ควรเริ่มต้นที่ พ.ต.ท.ทักษิณก่อน
นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในกัมพูชานั้น ตนอดแปลกใจไม่ได้เนื่องจากตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ก็ไมได้มีท่าทีสนับสนุนแนวทางดังกล่าว ไม่อยากให้ฉกฉวยเอาแนวทางในพระราชดำริ ไปสร้างภาพเพื่อลบภาพการจาบจ้วงสถาบันที่ติดตัว พ.ต.ท.ทักษิณจนแยกไม่ออก จึงอยากย้อนถามว่าทัศนะเศรษฐกิจพอเพียงในความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม กรณีที่พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงบางส่วนกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมมือกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อสร้างกระแสคลั่งชาติในการชุมนุมวันที่ 15 พ.ย.นี้ นายเทพไทกล่าวปฏิเสธว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง เพราะพันธมิตรฯ ประกาศชัดเจนว่าจะจัดการชุมนุมเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่ได้จำกัดสีเสื้อ ใครก็สามารถร่วมชุมนุมได้ ไม่เว้นแม้แต่เสื้อแดง และเป็นทางหนึ่งในการแสดงออกซึ่งสามารถกระทำได้
“มี ส.ส.บางกลุ่มเดินทางไปเยี่ยมนายใหญ่ แต่อยากให้รักษาหน้านายใหญ่บ้าง น่าจะเหมาลำไป แต่นี่กลับเหมารถทัวร์ แถวบ้านเรียกอาการนี้ว่า เคาะกะลาให้หมาดีใจ แต่ก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ หากไม่ทำให้ประเทศเดือดร้อน เสียหาย” นายเทพไทกล่าว