“ไอ้ตู่” โดนจวกเละดันทุรังเหน็บป๋า-ตะแบงแก้ผู้สำเร็จราชการ

“ไอ้ตู่” ปากไร้หูรูด ป้ายสีรัฐบาลยึดพระราชอำนาจ ส่งฎีกาคนเสื้อแดงไปขังคุก บังอาจตะแบงต้องแก้ รธน.ประเด็นแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการ ด้าน “สาทิตย์” ยันพิจารณาฎีกาขออภัยโทษ “แม้ว” ตามขั้นตอนกฎหมาย ถือเป็นการถวายพระเกียรติ ท้าแน่จริง อย่าพูดแต่ในสภา จวกพูดเรื่องแก้ไขผู้สำเร็จราชการ ไม่ดูกาลเทศะ ถามย้ำเป็นคนไทยหรือเปล่า

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 29 ต.ค.ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่อง การสอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีนายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญ ว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2552 นายกมล บันไดเพชร กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ทำหนังสือไปยัง รมว.กลาโหม เรื่องขอให้ถอดยศนายอภิสิทธิ์ และเรียกคืนเงินเดือนและเบี้ยหวัด เนื่องจากร่วมมือสัสดีออกใบสำคัญทหารกองเกิน ส.ด.9 ที่เป็นเท็จมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ และใช้เอกสารเท็จไปกราบบังคมทูลฯขอยศร้อยตรีอภิสิทธิ์ ทำไมกระทรวงกลาโหมไม่ดำเนินคดีถอดยศ เรียกคืนเงินเดือนและเบี้ยหวัด หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดกับนายอภิสิทธิ์ ทั้งกรณีไม่นำนายทหารและนายตำรวจเข้าเฝ้าฯ หรือใช้เอกสารเท็จ ทำการถอดยศ และปลดออก วันนี้ นายอภิสิทธิ์ กลับสนับสนุนการถอดยศคนถูกยึดอำนาจ และไปสนับสนุนคนยึดอำนาจแทน

นายจตุพร ยังตั้งคำถามเรื่องการยื่นฎีกาการขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดา โดยบอกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะใช้เวลา 60 วัน ในการพิจารณาก่อนถวายความเห็นประกอบพระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่รัฐบาลกลับส่งไปไว้ที่กรมราชทัณฑ์ รัฐธรรมนูญได้ให้พระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ แต่รัฐบาลนี้มีสิทธิ์อะไรไปยึดพระราชอำนาจ เอาฎีกาไปขังไว้ในคุก รัฐบาลทำเสียมารยาทตั้งแต่ต้น ขั้นตอนยังไม่ถึงรัฐบาล กระทรวงยุติธรรมก็ออกแถลงการณ์คัดค้านการถวายฎีกา ทั้งๆ ที่ต้องทำเรื่องไปยังสำนักราชเลขาธิการ หลังรัฐบาลถวายความเห็นประกอบพระราชวินิจฉัย

นอกจากนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังได้ตั้งคำถามถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตามที่พรรคเพื่อไทยไปแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาท กรณีที่ พล.อ.เปรม กล่าวเตือนให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คิดให้รอบคอบก่อนสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทรยศชาติ รวมทั้งได้ทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกเขายายเที่ยงด้วย

ทั้งนี้ นายจตุพร ยังยืนยันว่า ตนต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยให้ระบุชัดเจนลงไปเลยว่า หากยังมิได้ทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการ ให้พระบรมวงศานุวงศ์เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ซึ่งเดิมรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมา ระบุไว้ว่า เมื่อพระมหากษัตริย์มิได้ประทับอยู่ในพระราชอาณาจักร จะได้ทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่หากพระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้ง เพราะยังมีทรงบรรลุนิติภาวะหรือเหตุอื่นใดก็แล้วแต่ ให้คณะองคมนตรีเสนอชื่อผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ

ต่อมา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ได้รับมอบหมายให้ตอบกระทู้แทนนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เรื่องการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น การแสดงความเห็นของกระทรวงยุติธรรมเป็นไปตามระเบียบ ยืนยันว่า เราไม่ได้ยึดคุมขังพระราชอำนาจ แต่ทำตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการถวายพระเกียรติด้วยซ้ำ เพราะต้องทำให้ถูกต้อง ทำลวกๆ ไม่ได้ ส่วนกรณีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นไปตามระเบียบ สตช.และสำนักนายกฯ ซึ่งหากต้องคำพิพากษาถึงที่สุดหรือจำคุก ต้องถอดยศ ทุกอย่างดำเนินการไปตามปกติ ไม่มีการไปเร่ง หรือถ้าเป็นรัฐบาลแล้วต้องดึงเรื่อง เพราะรัฐบาลยึดหลักกฎหมาย แต่กรณีความจงรักภักดี ต้องพูดอย่างระมัดระวัง เพราะสถานการณ์อย่างนี้ พูดเรื่องแก้ไขการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทพระองค์ ท่านพูดได้ยังไง

นอกจากนี้ นายสาทิตย์ ได้ชี้แจงกรณีการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกเขายายเที่ยง ว่า ดำเนินการอยู่ในชั้นการพิจารณาคณะอัยการจังหวัดประจำศาลจังหวัดสีคิ้วแล้ว ส่วนกรณีเขายายเที่ยงที่เป็นบริเวณบ้านของประชาชนยังไม่เคยมีการจับกุม แต่ที่จับคือเขายายเที่ยงเหนือ ส่วนคดีที่พรรคเพื่อไทย ฟ้องหมิ่นประมาท พล.อ.เปรม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบถามนายทะเบียนพรรคการเมืองและผู้ร้องแล้ว รวมทั้งมีการสอบสวนประชาชนทั่วไปว่าเข้าข่ายฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ซึ่งอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว

“ขอท้าให้ไปพูดนอกสภา อย่าใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ท้าเลยถ้าเป็นคนจริง ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องผู้สำเร็จราชการแทนนั้น ขอตั้งข้อสังเกตว่าเคยมียุคใด หรือมีใครพูดเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้งโดยไม่เกรงใจใครบ้าง สถานการณ์อย่างนี้ใครก็รู้ว่าเป็นอย่างไร ยังกล้าพูด ต้องถามว่าเป็นคนไทยหรือไม่” นายสาทิตย์ กล่าว