“ชัยวัฒน์” เชื่อไม่มีใครชนะ สถานการณ์จะอึมครึม ถึงวันเปิดสมัยการประชุมครั้งใหม่ มั่นใจ รบ.แห่งชาติเกิดไม่ได้ ิชี้เหตุชุมนุมเสื้อแดง ชะงัก เพราะพวกหน้าเงินชิ่งหนี หลังอ่านขาด“นช.แม้ว”ถูกยึดทรัพย์แน่ พร้อมบอก “จิ๋ว” ยังไม่สายสังคมยังให้อภัยหากกลับใจตอนนี้ ด้าน“สำราญ” หนุน “มาร์ค” ลงเชียงใหม่ ระบุได้มากกว่าเสีย เชื่อชุมนุมหางแดงสะดุด เหตุ แตกคอ-ถูกด่า-เงินไม่ถึง ย้ำประเทศไม่ได้ขาด ปชต. จะป่วนอีกกี่ครั้งก็ไม่ชนะ เศร้าเล็กๆ รบ.ถือคติ “ไม่มีเขาไม่มีเรา” จนทำให้เชื้อโรคดื้อยา
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2552 โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมือง (ภาคประชาชน) และนายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมวิเคาะห์ความเคลื่อนไหวของ กลุ่มเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ชัยวัฒน์ กล่าวถึงสภานการทางการเมือง ของประเทศไทยในขณะนี้ ว่า จากการเดินเกมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งหมดโดยภาพรวม มีแต่ความเสื่อมเสีย เพราะสะดุดขาตัวเอง ทำให้ประชาชนเห็นความชั่วเรื่อยๆ จากที่เคยประกาศว่า จะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นล้านคน ก็เหลือแค่หลักหมื่น การพูดผ่านรายการ “Talk Around The World” ว่า พร้อมที่จะหันกลับ 180 องศา ถือได้ว่า มีแนวโน้มการพ่ายแพ้ เมื่อแพ้ทางการเมืองแล้ว จะนำไปสู่การพ่ายแพ้ที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ยังพูดไม่ได้เต็มบากนัก ว่าเดินมาถึงจุดจบแล้ว เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายวัน ที่เขาจะ งัดกลยุทธเข้ามาป่วนอีก ก่อนจะถึงกำหนดพิพากษาสั่งยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ในเดือนมกราคม 2553
ทั้งนี้หากโฟกัส แค่เฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ ฝ่ายหอการค้า ทำไม่ถูก ที่มีมติขอระงับไม่ให้นายก เดินทางไป ที่จริงควรดูว่า ใครเป็นฝ่ายสร้างปัญหา แล้วเข้าจัดการเสีย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ตนเป็นคนลำปาง แต่มีเพื่อนที่เชียงใหม่ จำนวนมาก เขาโทรศัพท์มาพูดคุย ส่วนใหญ่ประณาม คนที่มาเคลื่อนไหว ว่า เป็นคนทำลายเศรษฐกิจ หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะตกใจ คะแนนจะไม่ได้ ตนขอประณาม คนเสื้อแดงไม่กี่คน ที่ออกมาสร้างความวุ่นวาย แต่ทำให้ ภาพพจน์ เศรษฐกิจเชียงใหม่พังเสียหาย ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกแผนการที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว ดังนั้น คนเชียงใหม่ที่รักความถูกต้อง อย่านิ่งดูดาย ต้องออกมาประณาม อย่าให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก
ชัยวัฒน์ กล่าวว่าโดยนิสัย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนชอบเสียดสีคนอื่นไม่อยากให้คนอื่นได้ดีกว่า เขาคงคิดว่า หากกูบริหารประเทศไม่ได้ มึงก็ต้องไม่ได้ จนทำให้เกิดการข่มขู่ หมายเอาชีวิต หากนายกลงพื่นที่ใน จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ หากตนเป็น นายก จะสั่งคนเสื้อแดงให้หยุด หากเขาไม่หยุด มันสะท้อนให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ทำเพื่ออะไรกันแน่ เอาประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง หรือส่วนรวมเป็นที่ตั้ง หากยังเคลื่อนไหวอยู่อีก ตนเชื่อว่า จะทำให้อีกหลายคนที่เคยเป็นแนวร่วม กลุ่มเสื้อแดง กลับใจไม่น้อย ด้านนายสำราญ กล่าวเสริมว่า นายกฯ ไม่ไปเชียงใหม่ ก็มีผลเสียอยู่เหมือนกัน อย่างน้อยก็ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ คุยทับถมหรือไม่ก็เสียดสี เช่น บอกคนเสื้อแดง ว่า เห็นไหมนายกฯ ไม่เหลียวแลคนเชียงใหม่
ชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่าที่ผ่านมากลุ่มเสื้อแดง ประกาศย้ำๆ ว่า การชุมนุมปลายเดือนนี้ จะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายและมีผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างมากมาย แล้วล้มเลิกกลางคัน นั้น จุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องเลื่อนการชุมนุม เป็นไปได้ว่า 1.พักระหว่างรบ 2.ถอยเพื่อรุกใหม่ หรือไม่ก็เป็นลางบอกเหตุ ว่า แพ้แล้ว และ3.กำลังภายในกลุ่มแตกแยก โดยกลุ่มหนึ่งอาจมีแนวทาง สู้ก่อนแล้วค่อยล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ ทีหลัง กับอีกพวก สมประโยชน์ด้วยกัน ที่คาดการว่า เงิน 7.6หมื่นล้านจะถูกยึด ทำให้พวกฉวยโอกาสหาเงินเริ่มถอย ประกอบกับ มองเห็นว่าการบริหารประเทศ ของรัฐบาล เริ่มคืบหน้า สรุปถอยไปเป็นฝ่ายรับ เพราะสู้ไปก็ไม่มีโอกาสชนะ
“ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ สำหรับกรณี เจรจาต่อรองตั้งรัฐบาลแห่งชาติ จะต่อรองกันได้ ไม่ใช่แค่ ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นตัวกำหนด ต้องให้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ปัญหาความวุ่นวายของประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฝ่ายผิด ทั้งนี้ เงื่อนไขที่จะต่อรองได้ คนผิด ต้องมีพลัง มีกำลังมากกว่า แต่ขณะนี้ กำลังของ พ.ต.ท.ทักษิณ น้อยกว่าพลังของพลเมืองดี ดังนั้น จึงไม่มีทางเกิดขึ้นได้สำหรับการเจรจา อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักเจรจาต่อรองชั้นยอด เขาพยายามแยบอยู่ตลอดเวลา หากสำเร็จก็ดี ไม่สำเร็จก็ก่อกวนไปเรื่อยๆ ถ้ากำลังข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ มีมากกว่าหรือกำลังสูสีกัน เขาบทขยี้ประเทศไปแล้ว” ชัยวัฒน์ กล่าว
ชัยวัฒน์ วิเคราะห์ถึงแนวโน้มสถานการ ว่า หากกลุ่มเสื้อแดง ชนะ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้เงิน 7.6 หมื่นล้านคืน กลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง แต่งตั้งคนที่เคยรับใช้ขึ้นครองอำนาจ และเขาจะล้างแค้นทุกคน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่ฝังใจกับเรื่องราวในอดีต เมื่อเขากลับมาเป็นใหญ่ จะหาทางป้องกันทุกวิธีทาง ไม่ให้เกิดประวัติซ้ำรอยอีกแน่ แต่โอกาสเช่นนี้เป็นไปได้น้อยมาก ส่วนถ้าหากฝ่ายรัฐบาล ชนะจะเป็นผลดีต่อประเทศ ในสภานการณ์อึมครึม อย่างนี้ได้ไม่น้อย ตอนนี้ รัฐบาลมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ เป็นฝ่ายได้เปรียบ ที่จริงควรจัดการตั้งนานแล้ว แต่เนื่องจากรัฐบาล ขาดเอกภาพ ทำให้ต้องตกเป็นฝ่ายรับ ถ้าหากอยากชนะ แบบเบ็จเสร็จ ต้องเป็นฝ่ายรุก ใช้ประชาชนนำหน้า และทางออกสุดท้าย ยังไม่มีฝ่ายใดชนะ กลุ่มเสื้อแดงก็จะ ป่วนแล้วก็สะดุดตัวเองเรื่อยๆ ฝ่ายรัฐบาลถึงแม้มีกำลังมากกว่า ก็ไม่เป็นฝ่ายรุก ท้ายที่สุดแม้จะไม่มีสงคราม แต่เสถียรภาพ ภายในประเทศก็จะเป็นอย่างที่เห็น และอาจมีการเปิดเกมป่วนใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 21 มกราคม วันเปิดสมัยการประชุมครั้งใหม่
นายสำราญ กล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณไม่ไป จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว ตนเชียร์นายก เต็มที่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องไป เพราะบวก ลบ กันแล้ว ได้มากกว่าเสีย อย่างน้อยก็ได้ ความน่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อมั่น ต่างๆ จากประชาชนเพิ่มขึ้น และไม่ไปเสียวุฒิภาวะทางผู้นำ ถ้าสถานการณ์ ดุเดือด ก็ให้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพราะคุณเป็นนายกของประเทศ ต้องไปได้ในทุกที่ของประเทศ จริงๆปัจจุบัน นายก ก็อยู่ในภาวะอันตรายอยู่แล้ว จะถูกตั้งค่าหัวกี่ล้าน ก็ไม่ได้เสี่ยงมากไปกว่าเก่า อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าแต่เดิมความตั้งใจจริงของ นายก อยากจะไป แต่ที่ตัดสินใจไม่ไป เป็นเพราะเกรงใจ ก.มหาดไทย ก.กลาโหม และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ออกมาห้ามไม่ให้ไป เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ตนอยากแนะความมั่นคง สถานการณ์เช่นนี้ ไม่สมควรที่จะพูดออกอากาศ ซึ่งเสมือนเป็นการทำลายชื่อเสียง นายกฯ ต้องเรียกประชุมผู้นำปิดห้องคุยกันก่อน
“เหตุผลที่เลื่อนการชุมนุมไม่มีกำหนด เกิดจาก 3 ไม่ 1.ไม่เป็นเอกภาพทางแกนนำ ที่มีหลายกลุ่ม ทำให้แนวทาง ลับ ลวง พราง ต่างกัน บางคนบอกต้องรุนแรง บางคนให้นิ่ง 2.ไม่ชอบธรรม ในวันเวลาที่เคลื่อนไหว และตอบคำถามสังคมไม่ได้ ว่า เคลื่อนไหวเพราะอะไร และ 3.ไม่ถึง ไม่ว่าจะเงินไม่ถึงหรือใจไม่กล้าก็แล้วแต่” นายสำราญ กล่าว
นายสำราญ กล่าวถึงพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่า มั่นใจแกยังไม่ถอยในตอนนี้ ที่เงียบหายไปอาจต้องทบทวนอะไรบางอย่าง ในเมื่อโถมตัวเข้ามาคลุกคลี กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขนาดนี้แล้ว ถอยไม่ได้ มันก็น่าแปลกอยู่เหมือนกัน มาเที่ยวนี้ พล.อ.ชวลิต พูดรู้เรื่องมากกว่าทุกครั้ง กลับมาจากเขมร แถลง 3 ข้อเข้าใจดีมาก อย่างไรก็ตาม ที่ พล.อ.ชวลิต บอกว่าไม่เป็นนายกแล้ว พอแล้ว ที่เข้ามาเล่นการเมือง เพื่อต้องการแก้ปัญหาให้บ้านเมืองแต่ดูจากการกระทำแล้ว ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้านนายชัยวัฒน์ กล่าวเสริมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขี่หลัง พล.อ.ชวลิต มาตลอด ที่จริง พล.อ.ชวลิต ก็มีด้านดีอยู่ไม่น้อย ตอนนี้ท่านยังไม่ได้เป็นนักโทษ หากตัดสินใจ เริ่มถอยเสียแต่ตอนนี้ ยังมีโอกาส สังคมพร้อมที่จะให้อภัย นายสำราญ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลับมาไม่จำเป็นต้องมาอยู่ข้างเรา ขอให้ท่านบ้านเฉยๆ คอยให้คำปรึกษาบ้านเมือง อย่างเดียวก็นับว่าเป็นบุญคุณต่อประเทศมากแล้ว
“เจตนาลากสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างช่วง เมษาเลือด กลุ่มเสื้อแดงต้องการให้ทำให้ เกิดสถานการณ์ คล้ายกับช่วง พฤษภาทมิฬ เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงลงมาไกล่เกลี่ย แต่สิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มบ้านคุ้มเมืองมีจริง การเอารถแก๊สมา เผาบ้านเผาเมือง ไม่สำเร็จ การที่พระองค์ท่าน เสด็จฯลงมา สถานการณ์ในประเทศต้องถึงที่สุดจริงๆ เพราะท่านไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง การกระทำอย่างนี้เข้าข่ายหมิ่นได้” นายสำราญ กล่าว
นายสำราญ กล่าวต่อว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 14 ต.ค.16 มีนักศึกษา ประชาชน ออกมาต่อสู้ เรียกร้องให้รัฐบาลคืนประชาธิปไตย เนื่องจากอำนาจทางการเมือง อยู่ภายใต้รัฐประหารมานาน มีการสืบทอดอำนาจ ด้วยการวางหมาก กำหนดไว้ว่าจะให้ใคร กุมอำนาจตำแหน่งไหนล่วงหน้า ถึง 12 ปี ทำให้มวลชนลุกฮือ ต่อสู้จนเลือดตกยกางออก ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงลงมาไกล่เกลี่ย แต่การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ ระหว่างบุคคล ที่ยึดระบอบทุนสามานย์ กับประชาชน ที่บ้านเมืองวุ่นวาย กว่าปกติ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ มีการเมืองหนุนหลัง จึงทำให้ภาพที่สื่อออกมา เหมือนเป็นคดีการเมือง ดังนั้น เมื่อแนวทางการต่อสู้ ไม่อยู่บนพื้นฐานอธิปไตย จะต่อสู้อีกกี่ครั้งก็ไม่มีความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้สนับสนุนการรัฐประหาร แต่เมื่อรัฐประหารแล้ว บ้านเมืองควรจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกว่านี้ หากการรัฐประหาร ครั้งนั้น ได้คนเฉียบขาดเข้ามาเป็นนายก บ้านเมืองจะไม่เป็นอย่างนี้ จนทำให้กลุ่มทุนนิยม จับมือ กลุ่มแดงซ้าย ที่ต่างพึ่งพาผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ใช้เป็นข้ออ้างป่วนบ้านป่านเมือง ว่า การรัฐประหารไม่ชอบธรรม
“พ.ต.ท.ทักษิณ สู้ไปก็ไม่ชนะ หากแนะนำท่านได้ อย่าขอร้องว่าอย่าเอาหลังพิง 19 ก.ย. อีกเลย ทางที่ดีควรกลับมาติดคุก แล้วจะขอพระราชทานอภัยโทษ หรือทำอะไรก็ว่ากันไป ส่วนคดีก็เข้ามาต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย หากทำได้ จะทำให้ได้รับความเห็นใจจากประชาชน หากมีการยุบสภาในเร็วๆนี้ บางทีอาจทำให้ชนะทางการเมืองก็เป็นได้ สถานการณ์ตอนนี้ ยังพูดไม่ได้เต็มบากนักว่า ปลายปีนี้ เกมจะโอเวอร์ เพราะโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะสู้อีกครั้งหนึ่งปลายเดือนธันวาคม ก่อนศาลตัดสินคดี 7.6 หมื่นล้าน มีเปอร์เซนต์มากกว่าครึ่ง ตนเชื่อว่า เขาจะสู้ ทำให้ถึงขั้นทำให้เลือกตกยางออก แต่จะถูกจัดการเสียก่อน ที่จะป่วนเมืองสำเร็จ” นายสำราญ กล่าว
นายสำราญ กล่าวว่าเรามาพูดกัน ตอนปลายทางแล้ว หากรัฐบาล ฟังเสียงประชาชนตั้งแต่แรก จะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้ เพราะนายก ไปติดกับดัก ที่ว่า “ไม่มีเขาไม่มีเรา” จนทำให้เชื่อโรคดื้อยา ตนเชื่อว่า นายก เป็นคนดี ตั้งใจเข้ามาแก้ไขปัญหาจริง แต่สุดท้ายนโยบาย สามัคคีสมานฉันท์ ที่นำมาใช้จะทำลายตัวเอง ทำให้ประชาชนมองว่า ไม่มีความเด็จขาด ต้องพึ่งจมูกพรรคภูมิใจไทย หายใจ สุดท้ายขอแนะนำนายกฯ ว่าความเป็นผู้นำของท่าน ไม่ได้เป็นเฉพาะผู้นำของรัฐบาล แต่เป็นผู้นำของประเทศ ต้องเข้มแข็งในการจัดระเบียบทางการเมือง อย่าปล่อยให้ประเทศ เสียโอกาส เสียทรัพย์ยากรโดยเปล่าประโยชน์