“ผ่าประเด็นร้อน”
แม้นาทีนี้มีความชัดเจนแล้วว่า ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของม็อบเสื้อแดง และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยกดปุ่มสั่งให้เลื่อนการชุมนุมใหญ่ออกไปก่อน หลังจากมีเสียงก่นด่าจากชาวบ้านรอบทิศ เพราะกำลังอยู่ในช่วงของเทศกาล “มหามงคล” วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ชาวบ้านชาวช่องกำลังปัดกวาดเช็ดถูบ้านเรือน ประดับธงทิวให้ปลิวไสว เพื่อร่วมกันเทิดพระเกียรติ เปล่งเสียงไชยโยโห่ร้องให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงประชาราษฎร์ตลอดไป ยิ่งยังอยู่ในช่วงที่พระองค์ท่านกำลังฟื้นพระวรกายจากพระอาการประชวร และยังประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ยิ่งไม่มีใครอยากไปทำอะไรให้มากระทบกระเทือนพระองค์ท่าน
ความปลื้มปิติของคนไทยกำลังเตลิดไปไกล
แต่จู่ๆ ก็มาหยุดกึก เพราะดันมีม็อบแดงของทักษิณ ที่คิดจะมาชุมนุมเพื่อก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย หวังบีบคั้นให้เกิดการแบ่งปันอำนาจและคืนทรัพย์สินของ ทักษิณ ที่ถูกอายัดเอาไว้ในคดีร่ำรวยผิดปกติ เป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความเดือดดาลให้กับสังคมส่วนใหญ่ เพราะถือว่านอกจากไม่บังควรแล้ว ยังมีเป้าหมายที่ซ่อนเร้นไม่ธรรมดา
แผนการแบบขั้นบันใดของทักษิณ ที่ใช้การชุมนุมของเสื้อแดงเป็นเครื่องมือหนึ่งอันสำคัญเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการนั้นเริ่มมีการพูดถึงมากขึ้นทุกที
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากการประกาศพื้นที่ความมั่นคงทั่วกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.-14 ธ.ค.ก็เป็นเครื่องบ่งชี้สำคัญว่าการชุมนุมคราวนี้อาจต้องมีแนวโน้มเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติอย่างแน่นอน จึงต้องมีการป้องกันเอาไว้แบบเต็มพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน
อย่างไรก็ดี เพื่อให้เห็นภาพก็จะขยายความย้ำกันอีกครั้งว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงของ ทักษิณ ในครั้งนี้มีเป้าหมายอย่างเดียว คือ เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หวังว่าตัวเองจะได้ทรัพย์สินที่ถูกอายัดเอาไว้จำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทกลับคืนมา และรวมไปถึงการได้รับส่วนแบ่งอำนาจ หรือย่างน้อยต้องมีการล้างไพ่ กลับมานับหนึ่งกันใหม่
แต่ก่อนจะเดินไปถึงเป้าหมายตรงนั้นมันก็ย่อมมีขั้นตอนตั้งแต่แรกเริ่มก่อน นั่นคือ การก่อม็อบ ซึ่งคราวนี้ถือว่าเป็นการทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพราะถือว่าเป็นการชี้ชะตาอนาคตของตัวเอง ซึ่งเวลานี้ได้มีการกำชับบรรดา ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยกำหนดให้ระดมชาวบ้านทั่วประเทศเข้ามาเพื่อให้มารวมกันทั้งประเภทปักหลักและหนุนเนื่องสับเปลี่ยนกำลัง
อย่างไรก็ดี จำนวนกำลังคนที่คาดว่าจะเข้าร่วมในช่วงบรรยากาศเฉลิมพระเกียรติมหามงคลแบบนี้ย่อมน่าจะไม่ได้ตามเป้าเท่าใดนัก อีกทั้งยังเป็นช่วงที่เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากถูกกระชากหน้ากาก ความจริงถูกเปิดโปงในเรื่องการจาบจ้วง ให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง จากการให้สัมภาษณ์กับ “ไทมส์ออนไลน์” เมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้คนรู้เห็นธาตุแท้ ทำให้หลายคนเริ่มชิ่ง เพราะหูตาสว่าง
แต่อย่างที่ระบุตั้งแต่ตอนต้นก็คือจำนวนมากน้อยไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เป้าหมายเพื่อ “ป่วน” ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเท่านั้น หากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงจลาจลเดือนเมษายนที่ผ่านมายัง “แรง” ไม่พอที่จะทำให้เดินไปถึงเป้าหมายที่ตัวเองต้องการได้ ก็ต้องบวกเพิ่มอีกสองสามเท่า ซึ่งหลายฝ่ายประเมินกันถึงความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นอาจมีทั้งในช่วงของการดาวกระจายไปตามสถานที่สำคัญต่างๆตามที่ได้รับทราบมาก่อนหน้านี้ เช่น ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล บ้านสี่เสาเทเวศร์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กองบัญชาการกองทัพบก บ้านพักนายกรัฐมนตรี สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 รวมไปถึงสถานที่โทรทัศน์เอเอสทีวี-ผู้จัดการ ก็มีข่าวว่าจะตกเป็นเป้าการปิดล้อมอีกด้วย
ที่น่าจับตามากไปกว่านั้นก็คือ การจุดชนวนให้เกิดความรุนแรงระหว่างการชุมนุม ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในสถานที่ชุมนุมหรือในพื้นที่อื่นๆนอกเขตทั้งในกรุงเทพ และปริมณฑลรวมไปถึงพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งในที่นี้ยังรวมไปถึงการลอบทำร้ายบุคคลในเป้าหมายหลายคนตั้งแต่นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี บุคคลสำคัญอื่นๆ ไปจนถึง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หากทำได้สำเร็จความปั่นป่วนก็ย่อมเกิดขึ้นตามมา
การประกาศของแกนนำเสื้อแดงบางคนที่บอกว่าจะไม่ให้รัฐบาลได้มีโอกาสฉลองปีใหม่ และมีกำหนดการชุมชุมในช่วงสั้นๆแค่วันที่ 28 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 2 ธ.ค. ก็ทำให้ประเมินว่าต้องการเผด็จศึกให้เร็วที่สุด ซึ่งจะทำได้ก็ต้องทำให้เกิดความปั่นป่วนรุนแรงที่สุดจนอาจนำไปการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่
หากสังเกตให้ดีก่อนหน้านี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นอกจากออกมาขู่ในเรื่องการสังหารหมู่ “ราชวงศ์โรมานอฟ” ของรัสเซียอย่างเหี้ยมโหด หรือการทลายคุกบาสติลล้มพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ของฝรั่งเศสในอดีตแล้ว ยังเน้นย้ำในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งมีความหมายก็คือต้องการให้ ทักษิณ กลับเข้ามาสู่อำนาจ และมีการนิรโทษกรรมความผิดให้หมดนั่นเอง
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งทางฝ่ายรัฐบาลก็ย่อมมีงานข่าวรับรู้ความเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวเป็นอย่างดี สังเกตได้จากการประกาศพื้นที่ความมั่นคงแบบเต็มพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่างานนี้มีรายการ “จงใจป่วน” แน่ จึงได้เตรียมการรับมืออย่างเต็มที่
อย่างไรก็ดี แม้ว่าล่าสุดการชุมนุมของคนเสื้อแดงก็ถูกสั่งการจากทักษิณ ให้เลื่อนออกไปก่อน อย่างน้อยก็ให้ผ่านพ้นงานมหามงคล วันเฉลิมพระชนม์พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นในราวกลางเดือนธันวาคมค่อยมากำหนดท่าทีกันใหม่ แต่แผนป่วนยังคงอยู่ต่อไป เพราะยังไม่ถึงเป้าหมาย ทักษิณ ก็ไม่มีวันเลิกราเด็ดขาด!!