xs
xsm
sm
md
lg

รายงานพิเศษ : “เสธ.แดง” กับความรุนแรงที่เกิดกับ “พันธมิตรฯ”!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

1 ใน 12 ผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดในการชุมนุมปกป้องชาติและสถาบันกษัตริย์เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ย.ที่ท้องสนามหลวง
อมรรัตน์ ล้อถิรธร....รายงาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความรุนแรง โดยเฉพาะเหตุระเบิดที่เกิดกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนับแต่ชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์-ทำเนียบรัฐบาล-สนามบินดอนเมือง- สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งล่าสุด การชุมนุมเพื่อปกป้องชาติและสถาบันกษัตริย์ที่สนามหลวงเมื่อ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่ชวนให้สงสัยว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งเป็นผู้ที่ฝึก “นักรบพระเจ้าตาก” ให้กับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบทำร้ายพันธมิตรฯ หรือไม่?

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายงานพิเศษ

เริ่มจากเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 31 ส.ค.2551 ได้เกิดระเบิดขึ้นบริเวณป้อมตำรวจจราจรเชิงสะพานวิศสุกรรมนฤมาณ ถ.ผดุงกรุงเกษม ซึ่งไม่ห่างจากทำเนียบรัฐบาลที่พันธมิตรฯ ชุมนุมอยู่เท่าใดนัก ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า หลังเกิดเหตุไม่กี่นาที เสธ.แดง พร้อมด้วย นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย และเป็น 1 ในทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ไปปรากฏตัว ณ จุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว โดยนายพิชา รีบออกอาการร้อนตัวแทนกลุ่ม นปช.ด้วยการยืนยันว่า เหตุระเบิดดังกล่าวไม่ใช่ฝีมือ นปช.แน่นอน

กลางดึกวันต่อมา วันที่ 1 ก.ย.2551 กลุ่ม นปช.ได้เคลื่อนพลจากท้องสนามหลวง พร้อมด้วยอาวุธทั้งไม้และมีดบุกมาตีพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล จนมีผู้บาดเจ็บ 43 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ เสธ.แดง ออกมายอมรับว่า ตนได้ร่วมกับกลุ่ม นปช.ยกพลจากสนามหลวงมาบุกพันธมิตรฯ จริง พร้อมออกตัวว่า วันดังกล่าว กลุ่ม นปช.เตรียมตัวมาไม่ดี ยังไม่มีความพร้อม น่าจะฝึกนักรบพระเจ้าตากอีกสัก 1 สัปดาห์ แล้วค่อยบุกพันธมิตรฯ เสธ.แดง ยังประกาศด้วยว่า จะนำกลุ่ม นปช.บุกทวงคืนทำเนียบ จากกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ได้ในวันที่ 14 ต.ค.

แต่ยังไม่ทันถึงวันที่ 14 ต.ค.ก็เกิดโศกนาฏกรรมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 7 ต.ค.2551 เมื่อตำรวจยุครัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาอานุภาพร้ายแรงสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่รัฐสภาเสียก่อน จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 400 ราย!

สำหรับเหตุรุนแรงหลัง 7 ต.ค.แม้จะโชคดีที่ เสธ.แดง ไม่นำนักรบพระเจ้าตากของกลุ่ม นปช.มาบุกยึดทำเนียบ คืนในวันที่ 14 ต.ค.ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ แต่ก็ยังเกิดเหตุรุนแรงหลายต่อหลายครั้งตามมา โดยความรุนแรงไม่เพียงบังเกิดกับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ยังลามไปถึงตุลาการในกระบวนการยุติธรรมด้วย และน่าสังเกตว่า วิธีข่มขู่คุกคามที่เกิดกับพันธมิตรฯ และตุลาการ นั้น ได้ถูกยกระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากมือมืดปาระเบิดใส่บ้าน นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 20 ต.ค.ล่วงเข้าวันที่ 21 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน เป็นจำเลย โชคดี นายอักขราทร ไปต่างประเทศ และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ต่อมา ช่วงบ่ายวันเดียวกัน (21 ต.ค.) ขณะที่องค์คณะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ กำลังอ่านคำพิพากษาคดีซื้อที่รัชดาฯ ปรากฏว่า นอกจากจะมีกลุ่มคนรักทักษิณใส่เสื้อแดงไปรอฟังคำพิพากษาและถือป้ายข้อความทำนองหมิ่นศาลแล้ว ยังมีแนวร่วม นปช.คนหนึ่งที่ฝึกเป็น “นักรบพระเจ้าตาก”กับ เสธ.แดง พกระเบิดไปป้วนเปี้ยนที่ศาลด้วย โชคดีตำรวจ สน.ชนะสงคราม ที่ไปดูแลความปลอดภัยที่ศาลรวบตัวชายดังกล่าวได้ก่อน ทราบชื่อคือ นายไพรัช ขุนไกร อายุ 17 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ จ.บุรีรัมย์ จากการตรวจค้นกระเป๋าที่เจ้าตัวสะพายมา นอกจากพบระเบิดขวด 1 ลูกแล้ว ยังมีหนังสติ๊ก ลูกเหล็ก และนอตตัวเมียอีกจำนวนหนึ่ง
ซึ่งเจ้าตัวสารภาพว่า ได้เข้าร่วมอบรมเป็นนักรบพระเจ้าตากอยู่ที่สนามหลวง ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว และว่า สาเหตุที่เข้ารับการฝึก เพราะไม่ชอบกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนระเบิดที่นำมาด้วย นายไพรัช อ้างว่า ตนฝึกทำเล่นๆ ไม่ได้นำมาก่อเหตุแต่อย่างใด!?!

ต่อมา วันที่ 30 ต.ค.2551 พันธมิตรฯ ก็ถูกมือมืดลอบทำร้ายด้วยระเบิดเอ็ม 87 บริเวณสะพานมัฆวาน จนมีผู้บาดเจ็บนับสิบคน โดยก่อนเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว คนร้ายได้ปาระเบิดใส่บ้านพัก นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่ด้านการข่าวของหน่วยงานด้านความมั่นคงขณะนั้น ระบุว่า “เหตุระเบิดที่สะพานมัฆวานนั้น มีการวางแผนมาอย่างดี โดยกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยเป็นเครือข่ายของนายทหารระดับนายพลที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ในเวลานี้ และว่า “กลุ่มดังกล่าวต้องการสร้างความหวาดกลัวให้ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมน้อยลง” เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ยังเผยด้วยว่า “กลุ่มดังกล่าวมีแผนจะลอบวางเพลิงเผารถของผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งใช้อาวุธระเบิดเครื่องยิงเอ็ม 79 เข้าใส่ผู้ชุมนุม เพื่อหวังสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ชุมนุมด้วย”

ด้าน เสธ.แดง ออกมาพูดถึงเหตุระเบิดใส่กลุ่มพันธมิตรฯ และอีกหลายจุดในขณะนั้น ว่า ไม่สามารถระบุได้ว่ามือระเบิดเป็นกลุ่มใด และไม่ขอออกความเห็นกรณีที่มีข่าวว่า เป็นฝีมือของนักรบพระเจ้าตาก ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ หลังจากได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี อย่างไรก็ตาม เสธ.แดง ยอมรับว่า สิ่งที่ตนได้ฝึกให้นักรบพระเจ้าตากนั้น นอกจากฝึกท่าเตรียมอาวุธตามพื้นฐานแล้ว ยังมีการขว้างระเบิดด้วย และว่า คนที่มาฝึก ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มีบัญชีหนังหมาในสารบบตำรวจ ดังนั้น เมื่อออกไปทำอะไร หวังผลได้อย่างสูง โดยเฉพาะเมื่อฝึกที่สนามหลวงแล้ว ก็อยากแย่งกันไปปฏิบัติจริง

เสธ.แดง ยังเตือนพันธมิตรฯ ด้วยว่า ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะต้องออกจากทำเนียบ เพราะพันธมิตรฯ กำลังเจอกับศัตรูซึ่งออกมารบด้วย “ยุทธวิธีแบบกองโจร” และว่า ระเบิดที่สะพานมัฆวาน เมื่อวันที่ 30 ต.ค.นั้น น่าจะเป็นชนิดเอ็ม 26 เสธ.แดง ยังไม่วายขู่พันธมิตรฯ ด้วยว่า หากพันธมิตรฯ ยังไม่หยุดชุมนุม อนาคตอาจถูกซุ่มโจมตีด้วยระเบิดอาร์พีจี เอ็ม 79 และ ค.60

หลังสังคมเห็นพฤติกรรมและคำพูดข่มขู่ของ เสธ.แดง ครั้งแล้วครั้งเล่า จนเกิดคำถามว่า ความรุนแรงโดยเฉพาะระเบิดที่เกิดขึ้นกับกลุ่มพันธมิตรฯ และบ้านพักของผู้ใหญ่ในกระบวนการยุติธรรม เป็นฝีมือของ เสธ.แดง หรือไม่ ทำให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวถึงกรณีที่ เสธ.แดง ฝึกนักรบพระเจ้าตากให้กลุ่ม นปช.ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่า พล.ต.ขัตติยะ ไปทำอะไรอย่างไรบ้าง

ขณะที่ เสธ.แดง ออกมาบอกว่า พล.อ.อนุพงษ์ ได้มีคำสั่งให้สลายกลุ่มนักรบพระเจ้าตากประมาณ 100 คน ที่ตนฝึกให้ที่สนามหลวง จึงได้ยกเลิกการฝึกอย่างเด็ดขาดแล้ว อย่างไรก็ตาม เสธ.แดง ได้พูดทำนองข่มขู่พันธมิตรฯ อีกว่า กลุ่มนักรบพระเจ้าตากเหล่านี้จะแปรสภาพไปเป็นแก๊ง 47 โรนิน (ซามูไรไร้สังกัด) ซึ่งในญี่ปุ่นแก๊งซามูไรเหล่านี้จะทำหน้าที่ไปตามล่านักการเมืองที่เลวและทุจริต แต่วันนี้ไม่รู้ว่าแก๊งเหล่านี้จะไปตามฆ่าพันธมิตรฯ หรือพวกแกนนำหรือไม่

ต่อมา พันธมิตรฯ ได้ประกาศยุติการชุมนุมระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.2551 เนื่องจากเป็นช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ปรากฏว่า เสธ.แดง (ซึ่งอยู่ระหว่างถูกสอบวินัยและอาญาทหารจากการฝึกนักรบพระเจ้าตากให้กลุ่ม นปช.) ก็ออกมาบอกว่า จะประกาศหยุดยิงวันที่ 14-19 พ.ย.เช่นกัน พร้อมเตือนให้พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาลก่อนวันที่ 19 พ.ย.

ซึ่งในที่สุดก็เป็นดังคำขู่ของ เสธ.แดง เมื่อคนร้ายได้ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาลเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 19 พ.ย.ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 23 ราย และเสียชีวิต 1 ราย!

ขณะที่กลุ่ม 40 ส.ว.เปิดแถลงว่า รู้สึกสลดใจกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เพราะเป็นปฏิบัติการโหดหลังงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ไม่กี่ชั่วโมง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุระเบิดสอดคล้องกับคำพูดของ เสธ.แดง ดังนั้น กองทัพบกต้องรับผิดชอบด้วยการสอบสวนทางอาญา และสั่งขัง เสธ.แดง ทันที

ด้าน เสธ.แดง ได้ออกมาขู่พันธมิตรฯ ซ้ำอีกหลังทราบว่าพันธมิตรฯ จะชุมนุมใหญ่ 23 พ.ย.2551 “ขอเตือนว่า หากใครคิดจะไปร่วมชุมนุมใหญ่กับพันธมิตรฯ ในวันที่ 23 พ.ย.ขอให้จองวัดล่วงหน้าได้เลย” และว่า “วันนั้นจะเป็นการระดมยิงครั้งใหญ่ จึงขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกไปจากทำเนียบ”

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันถึงวันที่ 23 พ.ย.คนร้ายก็ได้ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่พันธมิตรฯ อีกครั้งเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 21 พ.ย.แรงระเบิดทำให้มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย สาหัส 1 ราย

ไม่เฉพาะการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น ที่พันธมิตรฯ ถูกสัตว์นรกลอบทำร้ายด้วยระเบิดแทบไม่เว้นแต่ละวัน เพราะแม้พันธมิตรฯ จะย้ายไปชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ยังไม่วายถูกตามรังควานด้วยระเบิดอีกเช่นกัน เช่น วันที่ 26 พ.ย.2551 คนร้ายได้ยิงระเบิดคาดว่าเป็นระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่บริเวณที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่สนามบินดอนเมือง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เช่นเดียวกับที่สนามบินสุวรรณภูมิ คนร้ายก็ได้ยิงระเบิดเข้าใส่พันธมิตรฯ เช่นกัน โชคดีมีผู้บาดเจ็บแค่ 1 ราย

วันต่อมา 27 พ.ย.2551 คนร้ายยิงระเบิดอาก้า 47 ใส่สำนักงานเอเอสทีวี นอกจากส่งผลให้กระจกสำนักงานแตกหลายบานแล้ว ยังทำให้ผู้ประกาศข่าวที่กำลังอ่านข่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยด้วย

สองวันต่อมา วันที่ 29 พ.ย.2551 คนร้ายยิงระเบิด คาดว่า เป็นระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่พันธมิตรฯ ในทำเนียบรัฐบาลอีก คราวนี้ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บมากถึง 54 ราย สาหัส 4 ราย!

ล่าสุด วันที่ 15 พ.ย.2552 เมื่อพันธมิตรฯ นัดชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวง เพื่อรวมพลังแผ่นดินปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และรักษาเกียรติภูมิของชาติ หลังถูก พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฯ ฮุน เซน กระทำย่ำยี ปรากฏว่า สัตว์นรกก็ยังตามราวีพันธมิตรฯ ไม่เลิก โดยยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่ที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ ทำให้ผู้มีบาดเจ็บ 12 คน สาหัส 3 คน โดยผู้บาดเจ็บมีทั้งผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ!

เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ เสธ.แดง ได้ออกมาพูดเตือนเชิงข่มขู่พันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ว่า “ขอเตือนว่า การชุมนุมวันที่ 15 พ.ย.อย่านำผู้หญิง เด็ก และคนแก่มาร่วมชุมนุม ขอให้มาเฉพาะพวกสีเหลืองและนักรบศรีวิชัย ตอนนี้ทราบว่า มีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย กำลังจ้องเล่นงานกลุ่มพันธมิตรฯ อยู่ จึงขอเตือนด้วยความหวังดี หากเกิดอะไรขึ้นจะไม่รับผิดชอบ” เสธ.แดง ยังบอกอีกว่า “ขอเตือน นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ว่า ครั้งที่แล้วโดนอีแอบยิงยังไม่เข็ดอีกหรือ ขณะนี้กลุ่มอำมาตย์ คือ ศาล ทหาร พรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคเพื่อไทย และกองทัพแดง กำลังสู้กันอยู่ จำได้หรือไม่ปีที่แล้วตายเท่าไร ขอเตือนว่าอย่าเสี่ยง”

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่พันธมิตรฯ ที่สนามหลวง จนมีผู้บาดเจ็บกว่า 10 รายแล้ว เสธ.แดง ได้ออกมาขู่พันธมิตรฯ อีกว่า หากไม่เลิกชุมนุม ก็จะโดนระเบิดอีก “เตือนแล้วว่า อย่าเอาคนแก่กับเด็กมาก็ไม่เชื่อ และหลังจากนี้ นายสนธิ คงไม่ต้องทำอะไร เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปทำอะไร จะโดนอย่างนี้ตลอด และอยากบอกว่า กลุ่มที่ยิงระเบิดเอ็ม 79 เป็นคนละกลุ่มกับคนที่ยิงนายสนธิที่แยกบางขุนพรหม และเป็นคนละกลุ่มกับที่ยิงศาลรัฐธรรมนูญหรือทำเนียบรัฐบาล” เสธ.แดง ยังพูดเหมือนตัวเองเป็นคนยิงระเบิดใส่พันธมิตรฯ เองด้วยว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.หากพันธมิตรฯ โดนระเบิดลูกแรกแล้วไม่เลิกชุมนุม จะโดนระเบิดลูกที่สองแน่ “นายสนธิ ต้องไปกราบเท้า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ที่เอาเด็กมานั่งตัก และบอกให้เลิกชุมนุม เพราะหากไม่ยกเลิกระเบิดลูกที่สองอาจจะลงที่กลางเวทีได้...”

ทั้งหลายทั้งมวลที่ยกมาเป็นตัวอย่าง น่าจะพอช่วยให้ผู้ที่ได้รับข้อมูล สามารถตัดสินได้ว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง มีความเกี่ยวพันกับเหตุระเบิดที่เกิดกับพันธมิตรฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือไม่? หวังว่า การที่ เสธ.แดง ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศกัมพูชาเมื่อวันที่ 13 พ.ย.คงเพียงแค่คิดถึงกันตามประสา หาใช่ไปรับงาน-รับเงิน!?!
เด็กก็ได้รับบาดเจ็บด้วย
อีก 1 เด็กที่ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง เดินทางไปพบ  พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กัมพูชา(13 พ.ย.)
เสธ.แดง ถ่ายรูปคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกฯ กัมพูชา

เสธ.แดง ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ได้ร่วมกับกลุ่ม นปช.ยกพลจากสนามหลวงมาบุกตีพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานฯ ใกล้ทำเนียบฯ  (1 ก.ย.51)
เสธ.แดง และนายพิชา วิจิตรศิลป์(ในวงกลม) 1 ในทนายของทักษิณ รุดไปยังจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณป้อมตำรวจใกล้ทำเนียบฯ อย่างรวดเร็ว(31 ส.ค.51)
กำลังโหลดความคิดเห็น