สภาฯ ถก กม.ดับไฟใต้ฟื้น ศอ.บต.ฝ่ากระแสองค์ประชุมล่ม ‘ชัย’ นัดประชุม 2 สภาพฤหัสฯ นี้ หลังการลงมติเรื่องกรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้งและกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ไทยต้องชำระเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องล่ม
วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 18 พ.ย.มีวาระการพิจารณาที่สำคัญ อาทิ รับทราบกรอบการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ซึ่งคณะรัฐมนตรีเสนอให้สภาฯรับทราบภายหลังจากที่ ครม.ได้มีการดำเนินโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
รวมไปถึงร่าง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่…) พ.ศ....ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันของสองสภาพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีมติเห็นด้วยกับร่างของวุฒิสภา ซึ่งสาระสำคัญ คือ ในมาตรา 3 ให้คงตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เอาไว้ตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่พ.ศ.2547
นอกจากนี้ยังมีวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้พ.ศ. ซึ่งมีทั้งร่างที่เสนอโดย ครม.และส.ส. โดยมีสาระสำคัญ คือ การกำหนดให้มีหน่วยงานปฏิบัติงานหลักเพื่อดำเนินการบูรณาการเกี่ยวกับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นระบบมีเอกภาพและประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องนโยบาย ยุทธศาสตร์ การบังคับบัญชา การปฎิบัติ อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้มีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นส่วนราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง มีฐานะเป็นนิติบุคคล และอยู่ในบังคับบัญชาของเลขาธิการ มีหน้าที่ปฎิบัติการตาม พ.ร.บ.นี้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พร้อมกันนี้ยังกำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธาน โดยมีอำนาจให้เห็นชอบยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ ศอ.บต.เสนอ
สำหรับในวันที่ 19 พ.ย. นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้มีการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระที่ค้างการพิจารณาจากการประชุมรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวน 3 เรื่อง คือ 1.ความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยการเปิดเสรีอย่างเต็มที่ของบริการขนส่งผู้โดยสารทางอากาศ และพิธีสารแนบท้ายความตกลงจำนวน 2 ฉบับ และพิธีสารเพื่ออนุวัติผูกพันชุดที่ 6 ของบริการขนส่งทางอากาศภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน 2.กรอบการเจรจาเพื่อการดำเนินงานความร่วมมือด้านการขนส่งภายใต้กรอบอาเซียน 3.ร่างบันทึกข้อตกลงเพื่อการจัดตั้งศูนย์พลังงาน BIMSTEC ภายใต้กรอบความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าในการลงมติเรื่องกรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้งและกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ไทยต้องชำระ ที่มีสมาชิกรัฐสภาลงมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 279 ต่อ 4 งดออกเสียง 10 ไม่ลงคะแนน 16 เสียง ขณะที่มีองค์ประชุมอยู่เพียง 309 เสียง ถือว่าองค์ประชุมไม่ครบกึ่งหนึ่งที่ต้องมีจำนวน 312 เสียง จากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 623 คน ทำให้ครม.ต้องเสนอกรอบการเจรจาดังกล่าวให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาอีกครั้ง
