ศาล รธน.บ่นอุบ “เกียรติกร” เพี้ยน! จำใจรับวินิจฉัยลาออกต่อหน้าสื่อ

ศาล รธน.ปวดเศียรเวียนเกล้ากับพฤติกรรม “เกียรติกร” จำใจต้องรับวินิจฉัยคำร้อง กกต. เหตุประกาศลาออกจากพรรคต่อหน้าสื่อมวลชนถือว่ามีผลแล้วหรือไม่ เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานต่อไป บ่นอุบทำไมไม่ส่งหนังสือลาออกให้เลขาธิการสภาฯ จะได้หมดเรื่อง

วันนี้ (13 พ.ย.) นายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้สอบถามมายังตนถึงกรณีที่เตรียมจำหน่ายคดีของนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีน พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้แถลงข่าวการลาออกเป็นรอบที่ 2 ที่ตนเข้าใจว่าได้มีการแถลงในที่ประชุมสภาต่อหน้าประธานรัฐสภาว่า หากข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้นจริงก็แสดงว่านายเกียรติกรได้แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนแล้ว ศาลก็ไม่จำเป็นที่ต้องพิจารณาต่อไปอีก เพราะเหตุแห่งคดีได้สิ้นสุดลง แต่เจ้าหน้าที่ กกต.ได้มาชี้แจงว่า นายเกียรติกรไม่ได้แถลงข่าวต่อหน้าประธานสภาแต่ได้แถลงข่าวที่ห้องแถลงข่าวของผู้สื่อข่าวที่อยู่ชั้นล่างของห้องประชุมสภา ไม่ใช่ในห้องประชุมสภาฯ พร้อมกับได้นำหนังสือที่สภาส่งมาให้ กกต. ซึ่งเป็นเรื่องของการขออนุญาตใช้ห้องแถลงข่าว ในวันที่ 11 พ.ย.52 ของนายเกียรติกรเรื่องขอลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.ปราจีนบุรี โดยไม่ต้องชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 15 พ.ย.52 นี้

นายบุญส่งชี้แจงอีกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ทางคณะตุลาการก็ต้องมาพิจารณากันว่า การดำเนินการแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนจะถือได้ว่าเป็นการลาออกด้วยหรือไม่ ทางศาลจะต้องพิจารณาข้อเท็จจริง ที่ปรากฏเพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต จะไม่จำหน่ายเรื่องออกจากสาระบบ และระหว่างนี้ศาลก็ต้องรอให้นายเกียรติกรชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นภายใน 15 วัน ซึ่งหากไม่ชี้แจงมาก็ถือว่าไม่ติดใจคณะตุลการก็ต้องมีการนัดอภิปรายฯก่อนที่จะมีการแถลงด้วยวาจาและลงมติ

“ผมไม่รู้ว่าเรากำลังเล่นอะไรกันอยู่ แต่ทางที่ดีถ้านายเกียรติกรอยากจะลาออกจากการเป็นส.ส.จริงๆ ก็ยื่นใบลาออกส่งต่อเลขาธิการสภาไปเลยจะได้จบๆ” นายบุญส่งกล่าว

ด้าน นายประวิง คชาชีวะ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ทำสอบถามทำความเข้าใจกับนายบุญส่ง ถึงหนังสือการลาออกของนายเกียรติกรว่า ขณะนี้สำนักงาน กกต.ยังไม่ได้รับจากทางเลขาธิการสภา หรือจากพรรคประชาธิปัตย์เลย และได้ทำหนังสือสอบถามถึงหนังสือลาออกของนายเกียรติกรว่ามีจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังรออยู่ เพราะพึ่งส่งไปเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ที่ได้มาจากทางเลขาธิการสภาส่งมา คือ เรื่องที่นายเกียรติกรได้ทำหนังสือเพื่อใช้ห้องแถลงข่าวสภา ในการแถลงการณ์ลาออกจากการเป็น ส.ส. และหนังสือที่โชว์ต่อหน้าสื่อมวลชนก็เป็นหนังสือขออนุญาตขอใช้สถานที่ห้องแถลงข่าว ไม่ใช่หนังสือลาออกจริงๆ ดังนั้น ตนอยากให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าการกระทำของนายเกียรติกรถือว่าเป็นการลาออกแล้วหรือไม่ ซึ่งกกต.จะได้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างต่อไป