xs
xsm
sm
md
lg

เงินบาปบ่อนเขมรปลิวว่อน ฟาดหัวผู้ทรงเกียรติล่มสภาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรื่องมันฟ้อง
โดย...กรงเล็บ

เมื่อ “นายทาส”เดินทางมาอยู่ชิดชายแดนกัมพูชา บรรดา “ทาส”ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นแกนนำเสื้อแดง หรือ ส.ส.พรรคเพื่อกัมพูชา ต่างก็กระดี๊กระด๊ายิ่งกว่าปลาได้น้ำใหม่ กระโดดฮุบเหยื่อเร่งสร้างผลงานกันเต็มที่หวังเพิ่มยอดในบัตรเติมเงิน

เพราะท่อน้ำเลี้ยงได้ถูกเปิดวาล์วอีกครั้ง เพื่อทำศึกใหญ่

มองลอดท่อเข้าไปจะเห็นภาพชัดเจนว่า นอกจากเงินที่ควักจากกระเป๋า นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่โกงชาติ โกงแผ่นดินไปแล้ว ยังมี “เงินบาป”จากบ่อนการพนันเป็นแหล่งเงินสดสำคัญที่ถูกนำมาใช้เพื่อเคลื่อนไหวล้มระบอบการเมืองของไทยด้วย

บ่อนแรกอยู่ที่กัมพูชา เจ้าของเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของ “เหลิมหูดับ” รู้จักกันในนามของ “ตือ คอสโม่” ซึ่งมีสายสัมพันธ์สนิทชิดเชื้อกับ น้องชายอดีตผู้นำที่กำลังขันอาสาเป็นสามีคนที่สามของดารารุ่นใหญ่รายหนึ่ง

เซียนพนันที่ยังมีใจรักชาติให้ข้อมูลว่า บ่อนดังกล่าวเป็นหนึ่งในแหล่งเงินสดสำคัญที่ถูกนำมาใช้เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองของ นช.ทักษิณ โดยทุกครั้งที่มีการเคลื่อนพลคนเสื้อแดง เงินสดจากบ่อนนี้จะถูกนำส่งไปยัง “น้องชายอดีตผู้นำ”เพื่อต่อท่อไปให้คนเสื้อแดงมีชีวิตชีวาในการออกมาขับไล่รัฐบาล

ขณะเดียวกันบ่อนของ “ตือ คอสโม่” ก็ยังเป็นหนึ่งในขุมทรัพย์สำคัญของ “สมเด็จฮุนเซน” ด้วย เพราะในแต่ละเดือนบรรดาเจ้าของบ่อนในกัมพูชาจะจัดงานเลี้ยงระดมทุนเป็นการภายใน เพื่อนำเงินสด “สองล้านเหรียญสหรัฐ”ไปเซ่น “สมเด็จฮุนเซน”

หากินจากแหล่งเงินเดียวกันนี่เอง จึงทำให้ “สมเด็จฮุนเซน” ลดค่าตัวเองมาแย่งหน้าที่ “เสด็จพี่” อย่างไม่กระดากหรือรู้สึกสังเวชตัวเอง

อีกบ่อนหนึ่งที่ถูกสูบเงินมาใช้เคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยเช่นเดียวกัน คือ บ่อนชายแดน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นของสว.เสียงเหน่อในจังหวัดพื้นที่ภาคกลาง โดยขณะนี้ สว.คนดังกล่าวทำหน้าที่เดินเกมให้ นช.ทักษิณ มีการเสนอผลประโยชน์ในทุกรูปแบบ

เพื่อให้ ส.ว.โดยเฉพาะ ส.ว.เลือกตั้งมาอยู่ข้าง นช.ทักษิณ ป่วนรัฐบาล

เป็นยุทธวิธีเดียวกับที่ นช.ทักษิณ เคยใช้ได้ผลมาแล้วเมื่อครั้งที่มีอำนาจรัฐ จนทำให้ควบคุมกลไกของรัฐสภาได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เป็นได้แค่สภาทาส จนเสียสมดุลย์ในระบบรัฐสภา

ปรากฏการณ์รัฐสภาล่มที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ จึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของ ส.ส.รัฐบาลเป็นประเภทความจำสั้นสันหลังยาวเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นในเชิงผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

โดยก่อนหน้านี้ถ้าจำกันได้ มี ส.ส.รัฐบาลจำนวนหนึ่งว่า 20 คน เดินทางไปหา นช.ทักษิณ ถึงดูไบ และกลับมาพร้อมความตุงในกระเป๋า กับงานง่าย ๆ เพียงแค่ ทำอย่างไรก็ได้ให้กลไกสภาเดินหน้าไม่ได้ โดยสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดก็คือแค่ไม่เข้าร่วมประชุม ทำให้องค์ประชุมไม่ครบการทำงานของรัฐบาลก็จบเห่

แถมยังเนียนหาร่องรอยยากว่ามีการรับทรัพย์จากใครมาหรือไม่ เพราะไม่ต้องมีพฤติกรรมแหกคอกด่ารัฐบาล เพราะหน้าที่นี้มีคนในพรรคเพื่อกัมพูชา ทำหน้าที่อยู่แล้ว

เคราะห์ดีที่เหลืออีกแค่สองสัปดาห์ก็จะปิดสมัยประชุมแล้ว จึงเชื่อว่ารัฐบาลยังน่าจะประคับประคองสถานการณ์ไปได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลจะนิ่งนอนใจไม่ได้ คือ นอกจากต้องลงแส้กับพวกสันหลังยาวของแท้แล้ว ยังต้องสอดส่องดูด้วยว่า มีพวกสันหลังยาวมือสาวประโยชน์อยู่ที่ไหนบ้าง

ลำพัง เสียงของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่มีเพียง 274 เสียง ขณะที่จำนวนองค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่ที่ 237 คน ทำให้รัฐบาลมีเสียงเกินครึ่งมาเพียง 37 เสียงเท่านั้น แถมเสียงในนั้นยังมีรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.อยู่ด้วยถึง 20 คน ซึ่งจากข้อมูลที่ปรากฏ

บรรดารัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ก็เป็นส่วนหนึ่งของ ส.ส.สันหลังยาวที่โดดร่ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย จนทำให้เกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบด้วย

ในภาวะที่รัฐบาลต้องเผชิญทั้งศึกภายนอกประเทศที่มี “สมเด็จฮุนเซน” เป็นหัวเรือใหญ่ และยังมีศึกในจากการเคลื่อนไหวนอกสภาของคนเสื้อแดง ผสมโรงเข้ากับการเคลื่อนไหวในสภาของพรรคเพื่อกัมพูชา ถือเป็นสภาพที่ไม่เป็นผลดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

หากไม่รู้จักจัดระบบการทำงานในรัฐสภาให้ดี รัฐบาลก็อาจตายน้ำตื้นได้โดยง่าย

สิ่งที่ควรทำคือ ควรทบทวนบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นประธานวิปรัฐบาลได้แล้ว ว่ามีศักยภาพเพียงพอหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานอกจากการเจรจากับฝ่ายค้านจะล้มเหลวแล้ว การประสานงานเพื่อให้ส.ส.มาร่วมประชุมก็ขาดประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือไม่มีบารมีมากพอที่จะทำให้รัฐมนตรีที่เป็นส.ส.เกิดความเกรงใจ

ด้วยเหตุผลดังว่า ดูเหมือน ชินวรณ์ บุณยะเกียรติ ก็ดูจะรับสภาพข้อจำกัดของตัวเอง จึงเรียกร้องให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ มาช่วยกำราบบรรดารัฐมนตรีสันหลังยาวให้หน่อย

ก็นับว่าเลือกถูกคนเพราะ “สุเทพ”เป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงของตัวเองกับภูมิใจไทยอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น