ถกวุ่นใบอนุญาตเปิดบ่อนไก่-ตีปลาเมืองชาละวัน-ชี้นโยบาย มท.สวนทางเมืองแผ่นดินธรรม

พิจิตร – เมืองชาละวันถกหนัก นโยบายมหาไทย เปิดทางเปิดบ่อนไก่-ตีปลา สวนทางเมืองที่เคยประกาศเป็นแผ่นดินธรรม-แผ่นดินทอง งดละเว้นอบายมุข ล่าสุดมีผู้ยื่นขอใบอนุญาตแล้ว 20 ราย

นายอภิชาต เทียวพานิช ปลัดจังหวัดพิจิตร เปิดเผยผลการประชุมหาคณะกรรมการร่วมกับภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อทำการศึกษา ระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพนันไก่ชนและกัดปลา พ.ศ.2552 ว่า การเลี้ยงไก่พื้นบ้านเพื่อการชนไก่กลายเป็นวัฒนธรรมของคนพิจิตรและชาวบ้านในชนบทที่ผสมกลมกลืนกันจนแยกออกจากวิถีชีวิตได้ยากลำบาก

แต่ชาวพิจิตรส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในศีลธรรม ประกาศเจตนารมณ์ยึดมั่นในคำสอนของพุทธศาสนาในการถือศีล 5 ข้อเป็นหลัก และยกย่องเชิดชูการทำความดีให้พิจิตรเป็นเมืองงาม สมกับเป็น “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” โดยตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ที่ผ่านมาของ จ.พิจิตรไม่เคยออกใบอนุญาตสถานบันเทิง หรือบ่อนการพนันใดๆ เลย

แต่ขณะนี้มี พ.ร.บ.การพนันปี 2475 ใช้ประกอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพนันไก่ชนและกัดปลา พ.ศ.2552 เปิดช่องให้ประชาชนสามารถขอเปิดการพนันชนไก่และกัดปลาให้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้แล้วทั่วราชอาณาจักร

ดังนั้น ในวันนี้ (23 ก.ย.) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร รอง ผวจ.จ.พิจิตร และเป็นว่าที่ ผวจ.พิจิตร ที่จะดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม 2552 ที่จะถึงนี้ จึงได้เป็นประธานในที่ประชุมหารือในเรื่องดังกล่าวแทน นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.พิจิตร เนื่องจากขณะนี้ประชาชนที่ได้ขอเอกสารยื่นที่จะขอเปิดการพนันชนไก่ใน จ.พิจิตร รวมแล้วกว่า 20 ราย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษากฎระเบียบและจารีตประเพณีที่มีอยู่แต่เดิม

โดยสาระสำคัญของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพนันชนไก่ และ กัดปลา พ.ศ.2552 เป็นอำนาจของผู้ว่าฯ และนายอำเภอ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปกครองท้องถิ่นเป็นผู้พิจารณาอนุญาต โดยจะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งจำนวน 7 คน ประกอบไปด้วยผู้แทนจากหน่วยราชการ 4 คน และ ภาคประชาชน 3 คน เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองและเสนอความเห็นพิจารณาอนุมัติให้มีสถานที่เล่นการพนันชนไก่ได้ เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เดือนหนึ่งไม่เกิน 5 วัน เท่านั้น

การประชุมในคราวนี้ส่วนใหญ่ เห็นว่า ต้องยึดแนวปฏิบัติส่งเสริมวิถีพุทธและ ความเป็นเมืองแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ที่ปฏิบัติกันสืบมาเพื่อถวายแด่ในหลวง แต่การจะออกใบอนุญาตการพนันชนไก่ต้องแยกแยะพฤติกรรมของคนในสังคมที่มีหลากหลายออกจากกัน เพียงเพื่อเป็นกระบวนการแก้ไขปัญหาทางสังคมถึงแม้จะเป็นเพียงปัญหาของคนกลุ่มเล็กๆ ที่ชอบการพนันชนไก่เท่านั้นก็ตาม

โดยการแก้ปัญหาดังกล่าว ว่าด้วยการจัดระเบียบ จัดระบบ ตามกรอบกติกา หรือโซนนิ่ง เพราะเท่าที่ผ่านมาตองยอมรับว่ามีการลักลอบเล่นพนันตีไก่และถูกตำรวจจับกุมเป็นประจำ เพราะเป็นวิถีชาวบ้านชนบท ดังนั้นจึงต้องทำการเร่งกระตุ้นปลุกจิตสำนึกให้คนพิจิตรดำเนินชีวิตให้อยู่ในคำสอนของพุทธศาสนาควบคู่ไปด้วย

แต่โดยสรุปขณะนี้ยังไม่ได้ให้อนุญาตสถานที่ใดๆ เป็นเพียงการประชุมศึกษาระเบียบที่จะรับมือกับผู้ที่มายื่นคำร้องขอใบอนุญาตเปิดการพนันชนไก่และกัดปลา เท่านั้น ซึ่งมีแนวทางว่า อาจจะอนุญาตให้เพื่อเป็นทางออกเพียง 2-3 แห่งเท่านั้น แต่ผู้ที่จะได้รับใบอนุญาต อาจจะต้องเป็นชมรม หรือเป็นสมาคม แล้วแต่ความเหมาะสม เพื่อบรรเทาให้การพนันตีไก่ขึ้นมาอยู่ในที่แจ้ง ง่ายแก่การควบคุมดูแล อีกทั้งสถานที่ต้องอยู่ห่างจากวัด โรงเรียน ให้เยาวชนและคนทั่วไปเข้าถึงได้ยาก ทุกฝ่ายสามารถตรวจสอบได้

ส่วนอนาคตจะอนุญาต หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ 7 คน ที่จะแต่งตั้งเป็นคราวๆไป เมื่อมีคนยื่นขอใบอนุญาตมา แต่คงจะไม่ออกใบอนุญาตให้แบบเหวี่ยงแห หรือ ตีไก่ กัดปลา ใต้ถุนบ้าน ใต้ต้นฉำฉา หรือ ลานวัด ลานโรงเรียน อย่างเด็ดขาด