ศูนย์ข่าวขอนแก่น- รวบยกแก๊ง โจรเมืองหมอแคน หลังก่อเหตุ ใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี เซลส์ดีแทค ปางตาย ก่อนเชิดบัตรเติมเงินกว่า 1 แสนบาทหลบหนี ตรวจสอบประวัติก่อคดีลักทรัพย์ทั่วภาคอีสานไม่น้อยกว่า 10 คดี
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (9 ต.ค.) พล.ต.ต.เฉลิมชัย จงศิริ รักษาราชการแทน ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสิริเกียรติ สิทธิเทศ หรือ “โต้ง ขอนแก่น” อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 291 ม.9 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายกฤษณ ดีเลิศ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นายจิรวัฒน์ อมรโมรี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 615 ซ.ลำปรุ 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และนายสุรศักดิ์ นาคศรีสด อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2458/1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลาง บัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือดีแทค ใบละ 60 บาท 40 ใบ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถจักรยายนต์ 6 คัน อาวุธมีดสปาร์ต้า 5 เล่ม
พล.ต.ต.เฉลิมชัย จงศิริ รักษาราชการแทน ผบช.ภ.4 กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนหลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ประกบ นายอาทิตย์ โพธิ์บ้านยาง ซึ่งเป็นพนักงานขายบัตรเติมเงินดีแทค ของ บ.ทูไอเอส เทเลคอม จำกัด ขณะขับรถจักรยายนต์กลับบ้านพัก เหตุเกิดกลางซอยหมู่บ้านไทยสมุทร เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยคนร้ายได้ใช้ไม้หน้าสามกระหน่ำตีนายอาทิตย์ จนสลบคาที่อาการสาหัส
ก่อนที่จะลักทรัพย์บัตรเติมเงิน และเงินสด รวม 80,000 บาท ทำให้เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าคนร้ายได้นำบัตรเติมเงินมาแจกจ่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่น และนำไปจำหน่ายให้กับร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในราคาถูก จึงสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมได้ยกแก๊ง
จากการสอบปากคตำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยมีพฤติกรรมของการใช้รถจักรยายนต์ขับไปในจุดที่เปลี่ยว ก่อนที่จะใช้อาวุธมีด ไม้หน้าสาม หรือมีดสปาต้า ทำร้ายร่างกายเหยื่อผู้เคาะร้ายก่อนที่จะชิงทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ เงินสด หรือทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ก่อนนำเงินที่ได้มาแบ่งส่วนเท่าๆ กัน และเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิง อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ยังคงมีการออกตระเวนลักทรัพย์ในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ นครราชสีมา ในหลายอำเภอ
โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ได้นำมาชำแหละชิ้นส่วนและจำหน่ายในราคาถูก ขณะที่บางคันมีการสวมทะเบียนและขายต่อมือสองให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ในราคาถูกเช่นกัน ซึ่งมีหมายจับในท้องที่ จ.นครราชสีมา มากกว่า 10 คดี
พล.ต.ต.เฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสิริเกียรติ หรือ “โต้ง ขอนแก่น” หัวหน้าแก๊ง นับเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับของ ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ที่มีประวัติการก่ออาชญากรรมในพื้นที่มาอย่างโชกโชน และทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้สร้างความไม่สงบและก่อกวนชาวบ้านในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น
ในการจับกุมครั้งนี้ได้มีผู้เสียหายเข้าชี้ตัวผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะญาติของเหยื่อที่ถูกทำร้ายร่างกายที่มีการต่อว่ากันอย่างรุนแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการควบคุมสถานการณ์เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (9 ต.ค.) พล.ต.ต.เฉลิมชัย จงศิริ รักษาราชการแทน ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสิริเกียรติ สิทธิเทศ หรือ “โต้ง ขอนแก่น” อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 291 ม.9 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายกฤษณ ดีเลิศ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นายจิรวัฒน์ อมรโมรี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 615 ซ.ลำปรุ 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา และนายสุรศักดิ์ นาคศรีสด อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2458/1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลาง บัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือดีแทค ใบละ 60 บาท 40 ใบ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถจักรยายนต์ 6 คัน อาวุธมีดสปาร์ต้า 5 เล่ม
พล.ต.ต.เฉลิมชัย จงศิริ รักษาราชการแทน ผบช.ภ.4 กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนหลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ประกบ นายอาทิตย์ โพธิ์บ้านยาง ซึ่งเป็นพนักงานขายบัตรเติมเงินดีแทค ของ บ.ทูไอเอส เทเลคอม จำกัด ขณะขับรถจักรยายนต์กลับบ้านพัก เหตุเกิดกลางซอยหมู่บ้านไทยสมุทร เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยคนร้ายได้ใช้ไม้หน้าสามกระหน่ำตีนายอาทิตย์ จนสลบคาที่อาการสาหัส
ก่อนที่จะลักทรัพย์บัตรเติมเงิน และเงินสด รวม 80,000 บาท ทำให้เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าคนร้ายได้นำบัตรเติมเงินมาแจกจ่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่น และนำไปจำหน่ายให้กับร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในราคาถูก จึงสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมได้ยกแก๊ง
จากการสอบปากคตำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยมีพฤติกรรมของการใช้รถจักรยายนต์ขับไปในจุดที่เปลี่ยว ก่อนที่จะใช้อาวุธมีด ไม้หน้าสาม หรือมีดสปาต้า ทำร้ายร่างกายเหยื่อผู้เคาะร้ายก่อนที่จะชิงทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ เงินสด หรือทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ก่อนนำเงินที่ได้มาแบ่งส่วนเท่าๆ กัน และเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิง อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ยังคงมีการออกตระเวนลักทรัพย์ในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ นครราชสีมา ในหลายอำเภอ
โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ได้นำมาชำแหละชิ้นส่วนและจำหน่ายในราคาถูก ขณะที่บางคันมีการสวมทะเบียนและขายต่อมือสองให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ในราคาถูกเช่นกัน ซึ่งมีหมายจับในท้องที่ จ.นครราชสีมา มากกว่า 10 คดี
พล.ต.ต.เฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสิริเกียรติ หรือ “โต้ง ขอนแก่น” หัวหน้าแก๊ง นับเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับของ ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ที่มีประวัติการก่ออาชญากรรมในพื้นที่มาอย่างโชกโชน และทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้สร้างความไม่สงบและก่อกวนชาวบ้านในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น
ในการจับกุมครั้งนี้ได้มีผู้เสียหายเข้าชี้ตัวผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะญาติของเหยื่อที่ถูกทำร้ายร่างกายที่มีการต่อว่ากันอย่างรุนแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการควบคุมสถานการณ์เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้