ฉะเชิงเทรา - สามคนร้าย ชาย 2 หญิง 1 ก่อเหตุอุกอาจ บุกปล้นร้านโทรศัพท์มือถือกลางวันแสกๆ ได้ทรัพย์สินไปได้มูลค่ากว่า 1 แสนบาท ตำรวจเชื่อมีการเตรียมการวางแผนมาเป็นอย่างดี เพราะทราบความเคลื่อนไหวภายในร้าน
วันนี้ (20 ส.ค.) ร.ต.ท.เสด็จ แก้วสิงห์ทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ ภายในร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ “พีพี โมบายส์” ตั้งอยู่ริมถนนจรัลยานนท์ ใกล้ตลาดบูรพา เลขที่ 52/97 ม.14 ต.บางวัว อ.บางปะกง จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และสายตรวจ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์และรับซ่อมโทรศัพท์ อยู่บริเวณห้องริมสุดของอาคารพาณิชย์แบบชั้นเดียว จากทั้งหมด 10 คูหา ภายในร้านพบ น.ส.พัทธนันท์ ทำนอง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/292 ม.7 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ถูกพันธนาการด้วยเชือกไนล่อนสีเขียว ยาวประมาณ 3 เมตร พร้อมสกอตเทปสีเทาแผ่นกว้างประมาณ 2 นิ้ว รัดปิดตาและปาก ภายในตู้วางจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือถือถูกรื้อค้น กล้องวงจรปิดด้านหลังเคาเตอร์ถูกหักพับทำลาย
จากการสอบสวน น.ส.พัทธนันท์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีหญิงรูปร่างเล็ก ผมสั้น สูงประมาณ 150 ซม. ผิวคล้ำ เดินเข้ามาทำทีขอซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์จำนวน 50 บาท หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ได้มีชายอีก 2 คน ขับรถจักยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เดินเข้ามาทำทีจะขอเลือกดูโทรศัพท์ แต่หนึ่งในคนร้ายซึ่งเป็นชายรูปร่างลักษณะผอม อายุประมาณ 30 ปี ไว้หนวด ได้ชักอาวุธปืนแบบลูกโม่ออกมาจี้ที่ศีรษะของตนให้หมอบลง ก่อนที่จะช่วยกันใช้เชือกมัดข้อมือ ข้อเท้าของตนไว้ และใช้สกอตเทปรัดปิดตา และปากของตน
จากนั้นคนร้ายได้ปลดสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ จากคอของตนไป พร้อมกระเป๋าถือภายในมีเอกสารส่วนตัว และบัตรเครดิต ก่อนที่จะกวาดทรัพย์สิน เป็นโทรศัพท์มือถือที่วางจำหน่ายอยู่ภายในตู้ และเครื่องโทรศัพท์ของลูกค้าที่นำมาซ่อมจำนวน 25 เครื่อง พร้อมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 ตัว รวมทั้งซีพียูคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่คนร้ายเหลือบเห็น ว่าต่อเข้ากับกล้องวงจรปิดภายในร้านหิ้วออกไปด้วย
น.ส.พัทธนันท์ กล่าวว่า ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะออกจากร้านไป ยังได้พูดข่มขู่ไว้ว่า “ห้ามแจ้งตำรวจ ไม่งั้นจะกลับมายิงให้ตาย กูรู้นะมึงใช้รถอะไรอยู่” ซึ่งระหว่างที่คนร้ายลงมือยังได้ยินพูดกันว่า “โทร.ตามรถ รถมาหรือยัง” จึงเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวนหลายคน สำหรับคนร้ายที่เป็นหญิงหากเห็นหน้าอีกครั้งก็จำได้
ด้าน พ.ต.ท.วรวุฒิ สุวรรณวิก รอง ผกก.สภ.บางปะกง ซึ่งได้รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุในทันทีหลังได้รับแจ้งกล่าวว่า เชื่อว่าคนร้ายมีการเตรียมการวางแผนก่อนลงมือก่อเหตุมาเป็นอย่างดี จึงทราบความเคลื่อนไหวภายในร้าน และรู้ว่าผู้เสียหายอยู่เฝ้าร้านเพียงลำพัง รวมทั้งยังได้ยกซีพียูคอมพิวเตอร์ ซึ่งต่อพ่วงบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านจำนวน 2 ตัว ติดมือไปด้วย จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทำการแกะรอยหาตัวคนร้ายได้ยากยิ่งขึ้น
จากการสืบสวนทราบว่า ก่อนหน้าที่คนร้ายกลุ่มนี้จะลงมือก่อเหตุ ได้วนเวียนขับรถยนต์เก๋งนิสสัน เซฟีโร่ สีน้ำเงิน เข้ามาดูลาดเลาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุดได้ขับรถมาจอดสังเกตการณ์ด้านฝั่งตรงข้ามร้าน ก่อนทำการลงมือเมื่อช่วงเช้า และขับออกไปยังถนนสายบางนา-ตราด ขณะนี้จึงยังอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป