แกนนำพรรคภูมิใจไทย รู้ทันแก๊งเพื่อไทย คิดแปลคำให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ แค่ปกป้องกำพืด “แม้ว” เพราะแม้แต่เจ้าตัวยังจำนนต่อหลักฐาน ตำหนิอย่าชี้ใช้สภา เป็นเวทีฟอกตัวให้ “แม้ว-ฮุนเซน” ตบหน้าทรราชไม่ใช่เป็นผู้วิเศษ แก้ปัญหาของชาติได้เพียงคนเดียว เชื่อ คนอีสานคงใช้วิจารณญาณแยกแยะดี-ชั่วได้มากขึ้น
วันนี้ (12 พ.ย.) นายอิสสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะแปลเอกสารคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฮุนเซน และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของกัมพูชา กับ ไทมส์ ออนไลน์ ไปแจกจ่ายในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ว่า ส่วนตัวไม่รู้ภาษาอังกฤษดีพอ จึงไม่รู้ว่าเขาจะแปลตรงตามที่พูดหรือไม่ แต่สังเกตว่า การที่พรรคเพื่อไทยอยู่ฝ่ายเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะไม่แปลอะไรที่จะเป็นผลร้าย หรือเกิดความเสียหายต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน คงเลี่ยงใช้วลีหรือคำพูดต่างๆ ดังนั้น จึงคิดว่าต้องให้นักวิชาการเป็นผู้แปล เพราะทุกคนก็รู้ว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดไปนั้น ส่อไปในทางล่วงละเมิดสถาบันเบื้องสูง ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่กระทั่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เองยังออกมายอมรับว่า ภาษาอังกฤษไม่เก่ง ไม่ดีพอจึงตอบไปเช่นนั้น แต่ในที่สุดก็ต้องออกมาขอกราบพระราชทานอภัยโทษ ดังนั้น จึงเป็นการยอมรับไปในตัวว่าเขาพูดจริง พฤติกรรมเช่นนี้ก็ยืนยันอยู่แล้ว
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวอยากเรียกร้องว่า ผลประโยชน์ของชาติต้องสำคัญกว่าผลประโยชน์ทางการเมือง และกรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนไทย ดังนั้น จะมีประโยชน์อะไรที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะมาตั้งแง่ และใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรของไทยปกป้อง ยกย่องสมเด็จฮุนเซน ผู้มีคุณปการต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่น่าจะต้องใช้สภาเป็นเวทีสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ใช่ใช้เป็นเวทีในการแก้ตัวให้สมเด็จฮุนเซนและ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนกรณที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวนหนึ่งได้ลาการประชุมสภา เพื่อเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กัมพูชานั้น คิดว่าเป็นสิทธิส่วนตัว แต่ก็ควรจะคิดได้ว่า เหมาะสมหรือไม่ ที่เอาเวลาของสภาไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นนี้ ทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่า มีปัญหาเรื่ององค์ประชุมสภามาตลอด ยังมาใช้เวลาไปประเทศกัมพูชาอีก
รมว.พัฒนาสังคมฯ กล่าวต่อว่า ส่วนการสำรวจความคิดเห็นผ่านโพลต่างๆ พบว่า ความนิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ลดลงทุกภาคเมื่อเทียบกับนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวเห็นว่า โดยเฉพาะคนอีสานจะคิดเองได้แยกแยะได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนเก่งสามารถทำงานเพื่อส่วนรวมได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่า ถ้าไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วประเทศชาติจะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น คนอีสานจะได้คิดว่าระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติ กับตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณประชาชนก็ต้องเลือกประเทศชาติมากกว่าตัวบุคคล เมื่อถามว่า คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลง คิดว่า คะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ ในภาคอีสานจะกระเตื้องขึ้นบ้างหรือไม่ นายอิสระ ตอบว่า ตนยังไม่อยากคิดเรื่องคะแนน เพราะไม่ใช่ว่าจะมีการเลือกตั้งในเร็ววันนี้ สำหรับท่าทีของนายกฯที่ตัดสินใจแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา คิดว่าเป็นวิธีทางการทูตที่เหมาะสมแล้ว แต่คนในพื้นที่บางส่วนยังมองว่าอ่อนไป ตอบโต้น้อยเกินไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะเอาความรู้สึกของประชาชนมาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาก็คงทำไม่ได้ทั้งหมด และไม่ได้ทำเพื่อความสะใจแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของการรักษาผลประโยชน์ของชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชาชนคิดการการตอบโต้ของรัฐบาลอ่อนไป เพราะอยู่ในพื้นที่ใกล้กับกัมพูชาจึงกังวลหรือไม่ นายอิสสระ กล่าวว่า ที่ประชาชนมองว่ารัฐบาลอ่อนไป เพราะส่วนหนึ่งกังวลเรื่องของศักดิ์ศรีและความรักชาติ นอกจากนี้ คนในพื้นที่ไม่พอใจสมเด็จฮุนเซนที่จงใจซ้ำเติมปัญหาในไทย และก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ทั้งที่มีวิธีการมากมายในการร่วมกันแก้ไขปัญหา ความจริงแล้วตนมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นเครื่องมือของสมเด็จฮุนเซน จริงๆ แล้วสมเด็จฮุนเซนจะให้ช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในกัมพูชาจริงหรือไม่ ยังไม่ทราบได้ เพราะการแก้ไขปัญหานี้ต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย เพราะเป็นตำราสากลที่เป็นสูตรสำเร็จ แต่ต้องดูปัจจัยพื้นฐานในแต่ละพื้นที่ด้วย ตลอดจนปัจจัยด้านการเมือง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ว่าจะมียาวิเศษโยนลงไปให้กินแล้วหายเลย และคนในกัมพูชาเองส่วนหนึ่งเท่าที่ตนทราบก็ไม่เห็นด้วยกับฮุนเซน ที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเทศของเขา ถ้าวันหนึ่งสมเด็จฮุนเซน มีปัญหาขึ้นมา พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะออกจากกรุงพนมเปญไม่ทัน
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุว่า พร้อมที่จะเป็นกาวใจให้กับไทยและกัมพูชานั้น ส่วนตัวคิดว่าท่านจะมาเป็นกาวใจได้อย่างไร เพราะยังไปพูดก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ขนาดนี้ ทำไมถึงไม่เทิดทูนสถาบันอย่างคนไทยทั้งประเทศ อย่างกรณีของ นายวีระ มุสิกพงศ์ ราวปี 2529-2531 ที่เคยโดนข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพสถาบันกษัตริย์ และทำพิธีขอพระราชทานอภัยโทษที่รัฐสภา บรรดาทหารในขณะนั้นออกมาระบุชัดเจนว่า เท่ากับการรับสารภาพก็กดดันทันทีในที่สุด นายวีระ ก็ไปไม่รอดถูกตัดสินจำคุกที่ศาลบุรีรัมย์ กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เช่นกันที่ออกมาบอกว่า ภาษาอังกฤษไม่เก่งแล้วไปพูดทำไม ให้เกิดเรื่องเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพสถาบัน ดังนั้น ที่บอกว่า จะมาเป็นกาวใจสมานรอยร้าวระหว่างไทย-กัมพูชา ความจริงแล้ว ถ้าไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นตัวแปรในเรื่องนี้ ซึ่งเดิมเราก็ไม่มีปัญหาเพิ่งจะมีปัญหาตอนที่ พล.อ.ชวลิต และ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามา แล้วจะมาประสานรอยร้าว แต่กลับมาสร้างรอยร้าวเพิ่มขึ้นอีก
ด้าน นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแปลคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับ ไทมส์ออนไลน์ แจกประชาชนในภาคอีสาน ว่า ขอให้พรรคเพื่อไทย แปลความหมายให้ตรงกับคำให้สัมภาษณ์ ไม่ใช่มาเข้าข้างกัน และทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดแล้วตอนหลังก็ออกมาสารภาพว่า พูดจริง แต่ก็มีข้ออ้างข้างๆ คูๆ ว่า ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง คนก็เห็นแล้วว่า พฤติกรรมอย่างไร ทำให้ประชาชนคลางแคลงใจ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากบอกว่าเรื่องนี้คนอีสานติดตามพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และสถานการณ์ทางการเมืองอย่างเข้มข้น ตนอยากยกคำพูดของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยพูดว่า ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด แต่พูดไปแล้ว คำพูดเป็นนายเรา ดังนั้น จึงควรคิดให้ดีก่อนที่จะพูดทุกครั้ง จะไม่เกิดปัญหา