นับตั้งแต่ทักษิณ ชินวัตร หนีคดีไปเร่รอนเป็นสัมภเวสีอยู่ต่างประเทศ เขาก็มีข่าวออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ โดยมีสาวกเสื้อแดงคอยปั่นข่าว รวมทั้งแต่งแต้มเติมสีให้เผ็ดร้อนยิ่งขึ้น
กล่าวได้ว่า ข่าวของทักษิณขึ้นหน้าหนึ่งไม่เว้นแต่ละวัน นอกจากนี้เขายังออนไลน์สดๆ มายังเวทีการชุมนุมของพวกเสื้อแดงเป็นการปลุกขวัญ
ทำให้สาวกทั้งหลายคึกคักเป็นที่เอิกเกริกอย่างยิ่ง
บรรดาถ้อยคำต่างๆ ที่พ่นออกมานั้น
ที่บ่อย และซ้ำแล้วซ้ำอีก จนถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ประจำของทักษิณคือ
พาดพิง ดูหมิ่น เหยียดหยามให้ประชาชนคนไทยฟัง
คนที่พอใจก็มีแต่พวกเสื้อแดง แต่ร้อยกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นคนไทยทั้งหมด ไม่พอใจที่เห็นว่าการลามปามเป็นความตั้งใจ จงใจ ให้ร้ายสถาบัน และสมควรโดยลงโทษสถานหนัก
สมัยก่อนเขาจะตัดหัวถึงเจ็ดชั่วโครตครับพี่น้อง
ล่าสุดทักษิณก็ใช้สื่อต่างประเทศจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
พอโดนแฉ
ทักษิณก็หาว่าโดนสื่อบิดเบือน ซึ่งคนไทยรับไม่ได้ บางคนกล่าวว่าการกล่าวหาสื่อว่าบิดเบือน เป็นเรื่องของคนหน้าตัวเมีย มิใช่บุรุษเพศ
ปัจจุบันทักษิณบินไปสวามิภักดิ์ต่อฮุนเซนเรียบร้อยโรงเรียนเขมร โดยได้รับการต้อนรับอย่างดี เพราะว่ามีนิสัยพระยาละแวกเหมือนกัน
การที่ทักษิณจะไปอยู่เขมรนั้นก็ไม่น่าแปลก เพราะเขามีผลประโยชน์มหาศาลโดยหวังลงทุนใหญ่เกี่ยวกับก๊าซและน้ำมัน
ก็ไม่แปลกใจที่ฮุนเซ็นตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับประเทศ
ขนาดไปถึงสนามบินที่พนมเปญ เขาได้รับการต้อนรับใหญ่โต มีขบวนรถคุ้มกัน 20 คัน มีองครักษ์ของฮุนเซนมาคอย มีตำรวจจำนวนมากถือปืนคอยไม่ให้ใครเข้าใกล้ ไม่ยอมให้สื่อใดๆ มีโอกาสสัมภาษณ์
พอถึงทำเนียบรัฐบาล ฮุนเซนก็จัดอาหาร 9 สำรับ ทักษิณก็กินอย่างอร่อยปาก และเตรียมไปบรรยายกับนักธุรกิจ 300 คน ในวันต่อมา
และเขมรรู้ว่าเราต้องการให้ส่งตัวทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เขมรก็บอกปัดทันทีว่าจะไม่ส่งโดยเด็ดขาด โดยกล่าวว่าทักษิณเป็นเหยื่อการเมือง มิใช่อาชญากรทางคดีแต่ประการใด
การเยือนกัมพูชาคราวนี้ เขาออกข่าวไปทั่วโลก ขณะที่สื่อทั่วโลกเห็นว่านี่คือภัยอันตราย และจะทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชายิ่งกว่าเดิมด้วย
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของทักษิณได้ทีก็ออกข่าวเหมือนกันโดยโต้ว่า ครอบครัวของคุณทักษิณ รวมทั้งทักษิณนั้น ตนยืนยันว่าทุกคนจงรักภักดี เทิดทูนสถาบัน แถมยังพูดเสมอว่าชีวิตก็สละเพื่อราชบัลลังก์ได้
อพิโถ.. คุณทักษิณนั้น พูดก็พูดเถอะ
ถ้าทำได้อย่างนั้นจริง ใยเล่าไม่มาสู้คดี ทำไมต้องหลบและหนีไปอยู่เขมร
มันไม่เข้าท่า
นายนพดลก็เถอะ แหม เดาะตกใจว่าอ่านข่าวออนไลน์ที่ตนเห็นเช่นเดียวกับนายว่าบิดเบือน แล้วยังเสือกบอกว่า ดูรายละเอียดแล้วกลับพบว่ามีแต่เทิดทูนสถาบันและเชื้อพระวงศ์
ของแบบนี้มันทำมาหลายครั้ง ซ้ำๆ ซากๆ
มาแก้ตัวแบบนี้ บอกตรงๆ เหม็นขี้ฟันว่ะ
ฮุนเซนคงเห็นว่าทักษิณมีดีแน่นอน เขายกให้เป็นเพื่อนแท้ตลอดกาลเลย
เรียกว่าชื่นมื่นกันทั้ง 2 ฝ่าย เข้าทำนองต่อไปจะได้ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้ยาวนาน
ในประเทศยามนี้ พรรคเพื่อไทยพยายามเต็มที่จะช่วยทักษิณ โดยบรรดาแกนนำเตรียมจัดทำเอกสารให้รายละเอียด 5 ข้อเพื่อชี้แจงสื่อมวลชนและประชาชนเกี่ยวกับการที่เขมรตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ว่ามันเรื่องภายในของเขมร ไม่มีผลต่อไทยกลับเป็นประโยชน์เพราะเขมรคือตลาดของไทย
2.การที่ไทยตอบโต้รุนแรงถึงขั้นลดระดับความสัมพันธ์เป็นการทำเกินเหตุ
ที่เหลืออีก 3 ข้อ แกนนำคงกำลังคิดกันอยู่
นี่แหละฝีมือของทักษิณผู้ก้าวเดินไปสู่เขมรอย่างชนิดที่ตบหน้าชาวไทย ให้เห็นว่าเขายังศักดิ์สิทธิ์อยู่นะ
กล่าวได้ว่า ข่าวของทักษิณขึ้นหน้าหนึ่งไม่เว้นแต่ละวัน นอกจากนี้เขายังออนไลน์สดๆ มายังเวทีการชุมนุมของพวกเสื้อแดงเป็นการปลุกขวัญ
ทำให้สาวกทั้งหลายคึกคักเป็นที่เอิกเกริกอย่างยิ่ง
บรรดาถ้อยคำต่างๆ ที่พ่นออกมานั้น
ที่บ่อย และซ้ำแล้วซ้ำอีก จนถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ประจำของทักษิณคือ
พาดพิง ดูหมิ่น เหยียดหยามให้ประชาชนคนไทยฟัง
คนที่พอใจก็มีแต่พวกเสื้อแดง แต่ร้อยกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นคนไทยทั้งหมด ไม่พอใจที่เห็นว่าการลามปามเป็นความตั้งใจ จงใจ ให้ร้ายสถาบัน และสมควรโดยลงโทษสถานหนัก
สมัยก่อนเขาจะตัดหัวถึงเจ็ดชั่วโครตครับพี่น้อง
ล่าสุดทักษิณก็ใช้สื่อต่างประเทศจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
พอโดนแฉ
ทักษิณก็หาว่าโดนสื่อบิดเบือน ซึ่งคนไทยรับไม่ได้ บางคนกล่าวว่าการกล่าวหาสื่อว่าบิดเบือน เป็นเรื่องของคนหน้าตัวเมีย มิใช่บุรุษเพศ
ปัจจุบันทักษิณบินไปสวามิภักดิ์ต่อฮุนเซนเรียบร้อยโรงเรียนเขมร โดยได้รับการต้อนรับอย่างดี เพราะว่ามีนิสัยพระยาละแวกเหมือนกัน
การที่ทักษิณจะไปอยู่เขมรนั้นก็ไม่น่าแปลก เพราะเขามีผลประโยชน์มหาศาลโดยหวังลงทุนใหญ่เกี่ยวกับก๊าซและน้ำมัน
ก็ไม่แปลกใจที่ฮุนเซ็นตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับประเทศ
ขนาดไปถึงสนามบินที่พนมเปญ เขาได้รับการต้อนรับใหญ่โต มีขบวนรถคุ้มกัน 20 คัน มีองครักษ์ของฮุนเซนมาคอย มีตำรวจจำนวนมากถือปืนคอยไม่ให้ใครเข้าใกล้ ไม่ยอมให้สื่อใดๆ มีโอกาสสัมภาษณ์
พอถึงทำเนียบรัฐบาล ฮุนเซนก็จัดอาหาร 9 สำรับ ทักษิณก็กินอย่างอร่อยปาก และเตรียมไปบรรยายกับนักธุรกิจ 300 คน ในวันต่อมา
และเขมรรู้ว่าเราต้องการให้ส่งตัวทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เขมรก็บอกปัดทันทีว่าจะไม่ส่งโดยเด็ดขาด โดยกล่าวว่าทักษิณเป็นเหยื่อการเมือง มิใช่อาชญากรทางคดีแต่ประการใด
การเยือนกัมพูชาคราวนี้ เขาออกข่าวไปทั่วโลก ขณะที่สื่อทั่วโลกเห็นว่านี่คือภัยอันตราย และจะทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชายิ่งกว่าเดิมด้วย
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของทักษิณได้ทีก็ออกข่าวเหมือนกันโดยโต้ว่า ครอบครัวของคุณทักษิณ รวมทั้งทักษิณนั้น ตนยืนยันว่าทุกคนจงรักภักดี เทิดทูนสถาบัน แถมยังพูดเสมอว่าชีวิตก็สละเพื่อราชบัลลังก์ได้
อพิโถ.. คุณทักษิณนั้น พูดก็พูดเถอะ
ถ้าทำได้อย่างนั้นจริง ใยเล่าไม่มาสู้คดี ทำไมต้องหลบและหนีไปอยู่เขมร
มันไม่เข้าท่า
นายนพดลก็เถอะ แหม เดาะตกใจว่าอ่านข่าวออนไลน์ที่ตนเห็นเช่นเดียวกับนายว่าบิดเบือน แล้วยังเสือกบอกว่า ดูรายละเอียดแล้วกลับพบว่ามีแต่เทิดทูนสถาบันและเชื้อพระวงศ์
ของแบบนี้มันทำมาหลายครั้ง ซ้ำๆ ซากๆ
มาแก้ตัวแบบนี้ บอกตรงๆ เหม็นขี้ฟันว่ะ
ฮุนเซนคงเห็นว่าทักษิณมีดีแน่นอน เขายกให้เป็นเพื่อนแท้ตลอดกาลเลย
เรียกว่าชื่นมื่นกันทั้ง 2 ฝ่าย เข้าทำนองต่อไปจะได้ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้ยาวนาน
ในประเทศยามนี้ พรรคเพื่อไทยพยายามเต็มที่จะช่วยทักษิณ โดยบรรดาแกนนำเตรียมจัดทำเอกสารให้รายละเอียด 5 ข้อเพื่อชี้แจงสื่อมวลชนและประชาชนเกี่ยวกับการที่เขมรตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ว่ามันเรื่องภายในของเขมร ไม่มีผลต่อไทยกลับเป็นประโยชน์เพราะเขมรคือตลาดของไทย
2.การที่ไทยตอบโต้รุนแรงถึงขั้นลดระดับความสัมพันธ์เป็นการทำเกินเหตุ
ที่เหลืออีก 3 ข้อ แกนนำคงกำลังคิดกันอยู่
นี่แหละฝีมือของทักษิณผู้ก้าวเดินไปสู่เขมรอย่างชนิดที่ตบหน้าชาวไทย ให้เห็นว่าเขายังศักดิ์สิทธิ์อยู่นะ