“โฆษกมาร์ค” ซัด “ฮุนเซน” ไร้วุฒิภาวะผู้นำ จวก “แม้ว” โยนบาปให้ไทมส์ ถือเป็นกรรมออนไลน์เพราะปากไม่มีหูรูด ปัด ปชป.ได้ทีขี่แพะไล่ ยันไม่คิดติดสินบนไทมส์ เพราะเงินไม่ได้ซื้อทุกอย่าง ย้อน “จิ๋ว” ย้ำไทยไม่เคยมองเขมรเป็นศัตรู เชื่ออนาคตจะพัฒนาด้านการทูต
วันนี้ (11 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้สัมภาษณ์พร้อมทั้งพาดพิงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ประเทศไทย รวมทั้งประชาชนชาวไทยทั้งประเทศว่า อยากให้ประชาชนชาวไทยได้พิจารณาถึงวุฒิภาวะของผู้นำกัมพูชา ถึงแม้สมเด็จฯ ฮุนเซน จะเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่นายอภิสิทธิ์จะเป็นเด็ก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพิสูจน์ว่าใครมีวุฒิภาวะมากกว่ากัน และความมีวุฒิภาวะของผู้นำในแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฯ ฮุนเซน พูดผ่านรายการ Thaksinlive.com ซึ่งล้วนแต่มีเนื้อหาพาดพิงนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และประเทศไทยนั้น นายเทพไทกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาด 7 ประเด็น คือ 1.กรณีการให้สัมภาษณ์กับไทมส์ออนไลน์ และกลับมาปฏิเสธภายหลังว่าไม่ได้พูดจาบจ้วงสถาบัน แต่ไทมส์ออนไลน์เข้าใจความหมายผิดเอง ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โทษไทมส์ออนไลน์เพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องของกรรมออนไลน์มากกว่า และสุดท้ายก็ออกมาอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์แต่ที่ผ่านก็เห็นได้ชัดว่าภายใต้จิตสำนึกของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างไร
นายเทพไทกล่าวต่อว่า 2.การที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าเคยเป็นตำรวจ และเป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อย จะไม่จงรักภักดีได้อย่างไร และคิดว่าคนที่เป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยไม่จำเป็นต้องจงรักภักดีทุกคน และการศึกษาไม่ใช่ข้อชี้วัด เพราะคนทำอาชีพอื่นก็สามารถจงรักภักดีได้ นอกจากนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณพยายามอ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามหาทางโจมตีนั้น ตนขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณเองที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงหยิบเรื่องดังกล่าวมาติติง พ.ต.ท.ทักษิณ 3.กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า การพาดหัวและเนื้อข่าวไม่ตรงกัน เพราะเป็นผู้เขียนคนละคนกันนั้น ตนอยากเรียนว่าถึงแม้จะเป็นการเขียนของคนละคน แต่หากในเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ไม่ระบุถึง และจะเขียนเรื่องดังกล่าวขึ้นมาได้อย่างไร 4.การที่ประเทศลาวแต่งตั้งให้ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เป็นที่ปรึกษา และนายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นเลขาธิการอังค์ถัด ล้วนแล้วแต่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย แต่ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นนักโทษหนีคดี จนได้รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา ไม่ใช่เรื่องที่ประเทศต้องภูมิใจ
นายเทพไทกล่าวอีกว่า 5.ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์คิดแต่เรื่องการเมือง พอได้ทีก็ให้ร้ายเสมอนั้น ตนขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมองเรื่องดังกล่าวเป็นการเมือง แต่เป็นเรื่องที่มองถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 6.อยากถามกลับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประกาศว่าเป็นนายกรัฐมนตรีมาถึง 6 ปี ไม่เคยทำให้ประเทศเสียหายจริงหรือไม่ เพราะตนเห็นว่าการต้นเหตุของการรัฐประหารในวันที่ 19 ก.ย.49 ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ และ 7.กรณีการให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ แล้วออกมายอมรับว่าเกิดจากความผิดพลาดทางภาษา ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้แตกต่างจากคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อ้างว่าเป็นการบกพร่องโดยสุจริต และทำการล็อบบี้จนทำให้ชนะคดี ด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 7 แต่กรณีการจาบจ้วงสถาบันต่างกัน เพราะเรื่องดังกล่าวต้องขึ้นศาลประชาชน และให้ประชาชนทั้ง 63 ล้านคนเป็นผู้ตัดสิน สำหรับเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศจะฟ้องร้องไทมส์ออนไลน์นั้น ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องแก้เกี้ยว คงไม่หวังผลทางด้านคดี แต่หวังผลทางด้านการเมือง รวมทั้งไทมส์ออนไลน์ก็ออกมายืนยันชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์จริง
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์วางแผนร่วมกับไทมส์ออนไลน์ ตนอยากถามว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะไทมส์ออนไลน์เป็นของประเทศอังกฤษ มีอายุมากว่า 100 ปี และมีจรรยาบรรณ คงไปติดสินบนไม่ได้ และตนไม่อยากให้คนเหล่านี้คิดว่า เงินจะซื้อได้ทุกอย่าง ส่วนเรื่องที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมทั้งระบุว่าไม่อยากให้รัฐบาลมองกัมพูชาเป็นศัตรู ซึ่งตนอยากบอกว่า พล.อ.ชวลิต เข้าใจผิดเพราะรัฐบาลไทยไม่เคยมองกัมพูชาเป็นศัตรู แต่มองเป็นมิตรประเทศ ซึ่งผู้นำกัมพูชาต่างหากที่แสดงพฤติกกรรมไม่เหมาะสม ไม่เกี่ยวกับประชาชนกัมพูชา ดังนั้น รัฐบาลไทยจำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยจะฟื้นฟูทางการทูตกับประเทศกัมพูชาต่อไป
