xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"ปัด"ธานี"เปลี่ยนขั้ว เทือกชี้คิดถูกยืดถกก.ต.ช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "มาร์ค"ปฏิเสธเรื่อง"ธานี" เปลี่ยนขั้วจนทำให้ต้องเลื่อนการตั้งผบ.ตร. ออกไป ด้าน"เทพเทือก"ยันนายกฯทำถูกต้องที่เลื่อนออกไปก่อน อ้างตำแหน่งสำคัญ ต้องรอบคอบ วอนอย่ามองในแง่ร้าย ด้าน"เทพไท" ยันมาร์คมีวุฒิภาวะผู้นำ จวก"วิสุทธิ์-ชัจจ์" โจมตีด้วยอคติ หวังช่วยพวกพ้องตนเอง ชี้ตั้งผบ.ตร.หนังยาวที่ต้องรอดูตอนจบ

เมื่อเช้าวานนี้ (17 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปประชุมร่วมรัฐสภาเพื่ออภิปรายถึงแนวทางการเเก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นวันที่สอง โดยพยายามเลี่ยงการให้สัมภาาษณ์ผู้สื่อข่าว โดยกล่าวสั้นๆว่า "ขอไว้หลังประชุม กอ.รมน." ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่าการประชุม ก.ต.ช.วันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น มีกระเเสข่าวว่า เหตุที่ไม่สามารถเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ได้เพราะ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาราชการเเทน ผบ.ตร. เปลี่ยนขั้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวสั้นๆว่า "ไม่จริงครับ ๆ" เเละเมื่อพูดจบนายอภิสิทธิ์ ก็เเหวกวงล้อมของสื่อมวลชน เเละมุ่งหน้าเข้าห้องประชุมรัฐสภาทันที

"เทือก"ชี้ทำถูกแล้วที่เลื่อนถก ก.ต.ช.

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่อง ผบ.ตร.คนใหม่ว่า รูสึกว่าหลายคนจะให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากเกินไป บ้านเมืองมีเรื่องมากที่เป็นปัญหาที่ต้องช่วยกันแก้ไข รัฐบาลมีงานอีกมากมายที่ต้องทำ สำหรับตนแล้วไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร และการที่นายกฯ ตัดสินใจไปนั้นเหมาะสมแล้ว

เมื่อถามว่าตำแหน่ง ผบ.ตร. เป็นตำแหน่งที่สำคัญ แต่การแต่งตั้งก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกตำแหน่งก็มีความสำคัญ ตำแหน่ง ผบ.ตร.ต้องดูแลตำรวจกว่า 2 แสนคน ก็สำคัญ ก็พยายามที่จะให้แต่ละคนได้มีโอกาสได้คิดได้ตัดสินใจให้เหมาะสม เมื่อใดที่เรียบร้อยก็ดำเนินการได้ ตนกับนายกฯไม่ได้คุย หรือหารือกันในเรื่องนี้เลย

ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีว่าเป็นเด็กดื้อนั้น เป็นการให้ร้ายนายกฯ อย่างไม่เป็นธรรม ท่านเป็นนายกฯ ก็ต้องมีมุมมองที่รอบคอบ มองทุกด้านบางที คนที่วิจารณ์อาจจะมองเพียงด้านเดียว เมื่อไปอยู่ในฐานะอย่างท่าน ก็อาจจะต้องคิดมาก ก็ขอร้องว่า อย่าไปกดดันท่านมาก ให้ท่านได้ตัดสินใจของท่านเอง

ยัน"มาร์ค"มีวุฒิภาวะผู้นำ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์ นายกสมาคมตำรวจ และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกมาพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรีว่าขาดภาวะผู้นำ ฝีมืออ่อนหัดว่า บุคคลเหล่านี้ต่างใช้จิตนาการวิเคราะห์การทำงานของผู้อื่นมาผสมกับอคติส่วนตัว เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายการเมืองบางฝ่ายที่กลุ่มตนเองสนับสนุน ซึ่งข้อเท็จจริง ถ้าเข้าใจถึงหัวอกของคนที่เป็นนายกฯ ก็น่าจะรู้ว่าการตัดสินใจใดๆ บางเรื่องต้องมีองค์ประกอบและเงื่อนไขแวดล้อมมากมาย ซึ่งนายกฯ จำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ เพราะหากตัดสินใจไปแล้วผิดพลาด ฐานะของนายกฯ จะต้องรับผิดชอบต่อบ้านเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"การแต่งตั้ง ผบ.ตร. นายกฯได้ใช้ความพยายามที่สุดแล้ว ในลักษณะบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น และเชื่อว่าถ้าสังคมรู้ข้อมูลรอบด้านเท่าที่นายกฯรู้ ก็จะต้องเห็นอกเห็นใจและไม่มีข้อกังขาเกี่ยวกับวุฒิภาวะ แต่กลับจะชื่นชมว่านายกฯ คนนนี้เป็นผู้ที่ยึดมั่นในหลักการ และเข้มแข็ง ที่จะหาญกล้าเผชิญหน้ากับพายุลมแรงอย่างไม่หวั่นเกรง เพื่อยึดถือเอาความถูกต้อง และผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ไม่อยากให้สังคมไทยด่วนสรุป โดยเอาเรื่องบางเรื่องมาตัดสิน ถ้าเรื่องนี้เป็นหนัง ก็ต้องเป็นหนังยาวที่ต้องดูกันยาวๆ เมื่อหนังจบทุกคนก็จะเข้าใจว่า ใครคือพระเอกตัวจริง"

นายเทพไท ยืนยันว่านายกฯ มีครบทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ และชาติวุฒิ เพียงพอที่จะเป็นผู้นำ ประสบการร์ทางการเมืองที่ยาวนาน ความสามารถที่มีอยู่ ก็จะแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้นำที่เข้มแข้งสามารถฝ่าวิกฤตต่างๆ อาทิ สงกรานต์เลือด เมื่อ 13 เม.ย.มาแล้ว และแม้ว่าจะมีวิกฤตต่างๆ อีกหลายครั้งที่เกิดขึ้น และในอนาคตอันใกล้ ก็เชื่อว่านายกฯจะนำพาประเทศไปได้ เพียงขอให้สังคมให้กำลังใจ และผู้สนับสนุนเปิดโอกาสให้คนดีมีความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริตได้มีโอกาสบริหารประเทศ

ส่วนที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเลื่อนประชุม ก.ต.ช.ว่า นายกฯไม่มั่นใจในข้อกฏหมาย หรือการต่อรองกับพรรคภูมิใจไทย และกลัวจะตกจากตำแหน่งนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ถือเป็นการวิเคราะห์ที่ปราศจากข้อเท็จจริง เพราะการประชุมครั้งนี้ ไม่มีประเด็นข้อกฏหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะทุกครั้งที่นายกฯจะดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับข้อกฏหมาย ก็จะหารือกับคณะกรรมการกฤษฏีกา หรือที่ปรึกษาด้านกฏหมายของรัฐบาลมาแล้วเสมอ โดยมีความเห็นแล้วว่า สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฏหหมาย

ส่วนประเด็นการต่อรองกับพรรคภูมิใจไทย ตามที่เป็นข่าวนั้น ยืนยันว่านายกฯไม่เคยบริหารงานแผ่นดินด้วยการต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ก็ถือเป็นหน้าที่โดยตรงที่ต้องรับผิดชอบ จึงไม่มีผู้ใดมาต่อรองกับนายกฯได้ หรือข้อกล่าวหาว่า กลัวจะหลุดจากเก้าอี้ ก็เช่นกัน

"ขอยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ เป็นคนที่ไม่ยึดกับตำแหน่ง เพียงแต่ตระหนักต่อภาระหน้าที่ เมื่ออยู่ในตำแหน่งนายกฯ ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนการจะหลุดจากตำแหน่งนี้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องในอนาคต จึงไม่สามารถกำหนดและกฏเกณฑ์ได้ว่า อุบัติเหตุการเมืองจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ถ้าจะนับตามวาระของสภานี้ นายกฯจะนั่งบนเก้าอี้นี้อีก 2 ปีกว่าๆ และยืนยันได้ว่า จะไม่กอดเก้าอี้เพื่อรักษาสถานะของตัวเอง โดยแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์และความไม่ถูกต้องจนชาติบ้านเมืองพังพินาศอย่างยับเยิน"

เชื่อ"ธานี"ไม่เปลี่ยนใจ

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงการเลื่อนการพิจารณาแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ว่า เรื่องนี้มองได้ 2 ด้าน คือด้านที่นายกรัฐมนตรี ไม่มีพลังพอที่จะผลักดันคนของตัวเองได้ แต่อีกด้านหนึ่งคือแสดงให้เห็นว่านายกฯ ได้ยืนหยัดอย่างเต็มที่แล้ว แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน ที่ไม่อาจพูดได้อย่างเต็มที่นัก เพราะเท่าที่ตนทราบในการประชุม ก.ต.ช.เมื่อวันที่ 16 ก.ย. มีการหารือถึงปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก ผบ.ตร. ทำให้ ก.ต.ช. ส่วนใหญ่โดยเฉพาะฝ่ายของนายกฯ เกิดความไม่ชัดเจน แม้แต่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ตนก็ไม่เชื่อว่าจะเปลี่ยนใจ แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะได้รับข้อมูลบางอย่าง ทำให้ลำบากใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น