ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าทำเนียบรัฐบาลและทำร้ายประชาชนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่ประชาธิปไตยอย่างโหดเหี้ยม ในช่วงเช้า วานนี้ (29 ส.ค.) ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมส.ส.ของพรรคจำนวนหนึ่ง ได้เข้าหารือกับ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ขอให้เปิดประชุมร่วมสองสภาในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย.เพื่อทางออกเกี่ยวกับสถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ ที่ห้องรับรองพิเศษ โดยใช้หารือกันประมาณ 10 นาที
จากนั้นนายประสพสุข เปิดเผยว่าวุฒิสมาชิกเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่แล้ว และพยายามที่จะหาทางให้มีการพูดคุยหรือถกเถียงปัญหาเรื่องนี้และหาทางยุติปัญหานี้ ทั้งนี้จะมีประชุมร่วมสองสภาในวันที่ 1 ก.ย.อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็จะพยายาม หารายชื่อ 50 คน เพื่อขอให้มีเปิดการอภิปรายเรื่องดังกล่าวในระหว่างการประชุมสมัยนิติบัญญัติ ซึ่งต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ทุกอย่างแก้ไขได้ ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันก็คงจะแก้ไขปัญหาของประเทศได้
ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การดำเนินการในส่วนของสภาทำได้ 2 ทาง คือ1.สมาชิกหนึ่งในสามเสนอญัตติ 2. รัฐบาลขอเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งยังไม่ทราบว่าระหว่างวันนี้จนถึงวันจันทร์จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่เราเห็นความขัดเจนว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นปัญหาซึ่งเป็นสาเหตุสะสมที่นำมาสู่สถานการณ์ปัจจุบันก็ยังไม่หมดไป ดังนั้นต้องทำทุกวิถีทางเท่าที่จะช่วยคลี่คลายปัญหา และไม่มีคำว่าสายไปที่จะช่วยแก้ไขปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายมองว่าควรที่จะมีคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คุณสมบัติของคนกลางที่จะมาไกล่เกลี่ยสำคัญที่สุด ต้องเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายที่จะมาไกล่เกลี่ยได้ หมายความว่าถ้ามีช่องทางที่ทั้งสองฝ่ายที่เผชิญหน้ากันอยู่ยอมรับบุคคลไกล่เกลี่ยได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีได้ ซึ่งแม้จะยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ควรจะทิ้งช่องทางนี้ ดังนั้นถ้ารัฐบาลและผู้ชุมนุมคิดว่า มีบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดที่มาช่วยแก้ไขปัญหาได้เราก็สนับสนุน
ส่วนข้อกล่าวหาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวหากับกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นกบฏถือว่ารุนแรงไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าเป็นข้อหาที่แรงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพูดเลยว่าในกลุ่มของผู้ชุมนุมที่มากันเป็นหนึ่งเป็นแสน ตากแดด ตากฝน ตนไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้มีความคิดร้ายหรือคิดกบฏต่อแผ่นดินแน่ แต่เขามีความเชื่อของเขาว่าเขามาเพื่อที่จะทำให้สังคมดีขึ้น เขาจะคิดผิด คิดถูก ใช้วิธีการที่ถูกที่ผิด ตรงนี้ตนยอมรับว่ามีความคิดเห็นที่หลากหลาย หากรัฐบาลจะพยายามมองว่าเป็นความคิดเห็นที่แตกต่าง และรักษาหลักของบ้านเมือง คือกฎหมาย โดยไม่มองว่าเป็นศัตรูของแผ่นดิน ปัญหาก็จะแก้ง่ายขึ้น
ปธ.วุฒิสภายื่นเสนอประชุมสองสภาแล้ว
นายประสพสุข บุญเดช ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า กล่าวถึงความคืบหน้า ในการรวบรวมรายชื่อส.ว. 50 คนเพื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ให้บรรจุวาระเรื่องการแก้ปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองเข้าสู่ที่ประชุมร่วมสองสภาว่า ตนได้รวบรวมรายชื่อส.ว. ครบแล้ว และเสนอเรื่องไปยังประธานรัฐสภาแล้ว ซึ่งขึ้นกับดุลยพินิจของประธานรัฐสภาว่าจะบรรจุในระเบียบวาระการประชุมหรือไม่ โดยคาดว่าประธานรัฐสภาจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม เพราะทุกคนก็อยากแก้ไขปัญหาบ้านเมือง
ชัยปัดเปิดประชุม2สภา
ขณะที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือจากประธานวุฒิสภาที่จะขอให้บรรจุเรื่องการแก้ปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้เข้าสู่วาระการประชุมร่วมของสองสภา ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ แต่ในช่วงนี้เป็นการประชุมสมัยนิติบัญญัติ ซึ่งเราคงจะไปทำอะไรนอกเหนือไม่ได้ ทั้งนี้วาระในการประชุมร่วมสองสภา มีหลายวาระ หากมีการบรรจุเรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเมืองเข้ามาก็อาจจะบรรจุอยู่ในวาระอื่นๆ ได้ และถ้าที่ประชุมเสียงเกินกึ่งหนึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรหารือกันในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็สามารถทำได้
ตาบอดไม่เห็นตำรวจตีประชาชน
นายชัย ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นว่า ยังไม่เห็นภาพการ สลายการชุมนุม แต่นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่าไม่ให้ใช้ความรุนแรง และจะไม่สลายการชุมนุม แต่การสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้น อาจเป็นการดำเนินการตามที่ ศาลสั่ง ถือว่าเป็นอำนาจศาล ซึ่งเราควรยึดกฎหมายเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นว่าเหตุการณ์จะบานปลายอะไร เพราะคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ก็หน้าเดิมๆ
อภิสิทธิ์พร้อมส.ว.บุกพบตำรวจ
หลังจากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.กทม.ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล มา เพื่อขอเข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่อยู่ใน บช.น. หลังจากเดินดูสถานที่ที่ตำรวจใช้กำลังทำร้ายประชาชนเพื่อสลายการชุมนุม และรื้อเต้นของผู้ชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ
ภายหลังเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวเหตุตำรวจ เข้าเคลียร์พื้นที่ และได้เห็นภาพว่า ในทำเนียบรัฐบาลมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจริง จึงเดินทางมาพบในเรื่องดังกล่าว เพื่อขอความชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่า ตำรวจได้ทำตามคำสั่งของศาลทำไปตามหน้าที่ เป็นไปตามกฎหมาย
วอนตำรวจอย่าใช้ความรุนแรง
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าววิงวอนไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง กับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะจะทำให้เกิดเหตุบานปลาย รุนแรงได้ จะทำให้สังคมไม่สงบมากขึ้น ซึ่งตนมาในวันนี้มาในฐานะ ส.ส. ไม่อยากเห็นและให้เหตุการณ์ลุกลาม เหมือนพฤษภาทมิฬ
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาการเมือง แม้ว่าตำรวจทำตามกฎหมาย ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหากับผู้ชุมนมได้ ควรให้การเมืองดูแล
ทางด้าน น.ส.รสนา กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.โกวิท แล้ว ทาง ตร.ชี้แจงว่า กรมบังคับคดีได้นำหมายศาลเข้าไปติดในทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ ตำรวจ คอยดูแลป้องกันเจ้าหน้าที่ศาล ซึ่งตนมองว่า ตำรวจไม่ควรใช้กำลังสลายการชุมนุม ซึ่งตนได้เห็นคำสั่งศาลแล้ว ดังนั้น จุดประสงค์ที่มา บช.น.ในวันนี้มาขอความร่วม
ส.ว.ถกด่วนตำรวจสลายการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน มีการประชุมวุฒิสภา โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยระหว่างการประชุมนาสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ขอหารือว่า ขณะนี้มีข่าวว่า มีการใช้แก๊สน้ำตา สลายผู้ชุมนุม ที่ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นเรื่องสำคัญ จึงควรใช้โอกาสนี้หาทางออก และขอเสนอเป็นญัตติด่วน ซึ่ง ส.ว.ที่ตั้งกระทู้ถามด่วนอีก 3 คน ก็ยอมให้มีการนำเรื่องนี้มาพิจารณาก่อน
ทั้งนี้นายสมชาย ตั้งข้อสังเกตว่าภาพข่าวที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศนี NBT ของกรมประชาสัมพันธ์ กรณีพันธมิตรฯ บุกสถานี NBT มีบางมุมเสมือนจริงมาก และการเสนอข่าวของ NBT ก็เป็นการปฏิบัติการทางจิตวิทยา เพราะฉายภาพรุนแรงซ้ำๆ พยายามทำให้การชุมนุมดูไม่ชอบธรรม เพื่อใช้กำลังสลาย และให้ประชาชนเห็นด้วยกับการปราบปราม และมีการเสนอข่าวไม่รอบด้าน เช่น ไม่เสนอภาพ ตำรวจ 5 กองร้อย พร้อมกระบอง และแก๊สน้ำตาทำร้ายประชาชนหรือประชาชนโดนกระทำ ก็ไม่มีภาพ ดังนั้นขอให้นึกถึงเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 , 6 ตุลา 19 และพฤษภา 35 ที่รัฐบาลปฏิบัติการมีลักษณะคล้ายเหตุการณ์ปัจจุบัน จนมีความสูญเสีย
พร้อมกันนี้ นายสมชาย ได้นำเทปภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจทุบตีผู้ชุมนุม ที่ทำเนียบรัฐบาล จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมามาเปิดด้วย
รสนาเสนอให้ส.ว.ไปดูข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ว.หลายคนผลัดเปลี่ยนกันอภิปรายแสดงความเป็นห่วง สถานการณ์บ้านเมืองที่อาจบานปลาย และมองว่ารัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหา ไม่ฟังเสียงประชาชน และเรียกร้องรัฐบาล อย่าใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม และขอให้วุฒิสภามีมติถึงท่าทีของ ส.ว.
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ เสนอให้ ส.ว.เดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปช่วยเป็นประจักษ์พยาน หากรัฐบาลกระทำการรุนแรง และเสนอให้ ส.ว. ยกเลิกจัดสัมมนาในวันที่ 29 -31 ส.ค.ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนไม่มีสภาจะอยู่และเห็นว่า หากสภาไม่สามารถเป็นเวทีแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ ก็ไม่สมควร มีสภาต่อไป และระบุว่า บ่ายวันนี้ ส.ว.บางส่วนจะเดินทางไปสังเกตการณ์การชุมนุม
แต่นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ที่ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงว่า การไปสัมมนาระดมความคิดเห็น เป็นบทบาทหนึ่งของ ส.ว. ขอให้แยกประเด็นการสัมมนากับการชุมนุมออกจากกัน หากใครจะไป หรือไม่ไป ก็ไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว จึงอยากให้ใช้โอกาสนี้ไปหารือ สถานการณ์บ้านเมือง เพื่อมีข้อสรุปเป็นทางออกให้บ้านเมืองก่อนประชุมรัฐสภาในวันที่ 1 ก.ย.
อภิปรายกันอยู่นานแต่ไร้ข้อสรุป
ด้าน นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม และเลขานุการ คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ ส.ว.(วิปวุฒิ) เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 161 โดยให้ ส.ว.เข้า ชื่อ 1 ใน 3 เสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติรัฐบาล ถึงปัญหาการบริหารราชการ แผ่นดิน ทำให้ ส.ว.บางส่วนแสดงความเห็นสนับสนุนนายวิทยา
ขณะที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา รายงานสถานการณ์การชุมนุม ต่อที่ประชุมว่า ณ เวลา 11.50 น. ตำรวจได้เริ่มสลายการชุมนุมบริเวณประตูต่างๆ รอบทำเนียบฯ พร้อมนำภาพข่าวล่าสุดจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ฉายในที่ประชุมด้วย ส่วนนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี เสนอให้ประชุมลับ เพื่อมีมติไปในทางเดียวกัน แต่ที่ประชุมไม่เห็นด้วย
ส่วนพ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร เสนอให้ ส.ว. เป็นเจ้าภาพเชิญ รัฐบาล-พันธมิตรฯ มาหารือทางออกเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง
อย่างไรก็ตาม หลังจากสมาชิกได้อภิปรายฯ กันพอสมควร ประธานได้สั่งปิดประชุม โดยไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด
ส.ว.บุกทำเนียบฯดูข้อมูลเพื่อตั้งกระทู้ถาม
จากนั้น เวลา 13.30 น. น.ส.รสนา พร้อมด้วย ส.ว.กว่า 20 คน ได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อไปดูข้อเท็จจริงตำรวจสลายการชุมนุมและทำร้ายประชาชน โดยกล่าวว่า วันนี้ตนไม่ได้เดินทางมาให้กำลังใจ แต่ตนต้องการมาหาข้อมูล ข้อเท็จจริงเพื่อเข้าไปตั้งกระทู้ถามในสภาเท่านั้น
ชท.เร่ง2สภาถกด่วน
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า พรรคชาติไทยได้มีการหารือกับ ส.ส. พรรคชาติไทยเพื่อหาทางออกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นพรรคชาติไทยจะมีการประสานไปยังนาย ชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและนาย ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อเร่งจัดประชุมสภาฉุกเฉินและหาทางออก ซึ่งมองว่าหากรอให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. นี้คาดว่าจะล่าช้าเกินไป ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลพยายามอย่าใช้ความรุนแรงมากกว่านี้ และอยากให้แต่ละฝ่ายร่วมกันหาทางออกเพื่อให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า มีกลุ่ม ส.ว. จำนวนหนึ่งเข้าหารือกับแกนนำ พรรคชาติไทยเพื่อให้ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทางพรรคชาติไทยจะนำเข้าหารือกับนาย บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เนื่องจากมีเหตุผลหลายอย่างที่จะถอนตัว เพราะสถานการณ์ถึงขั้นสุกงอมแล้วจึงต้องยอมถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล
จากนั้นนายประสพสุข เปิดเผยว่าวุฒิสมาชิกเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่แล้ว และพยายามที่จะหาทางให้มีการพูดคุยหรือถกเถียงปัญหาเรื่องนี้และหาทางยุติปัญหานี้ ทั้งนี้จะมีประชุมร่วมสองสภาในวันที่ 1 ก.ย.อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็จะพยายาม หารายชื่อ 50 คน เพื่อขอให้มีเปิดการอภิปรายเรื่องดังกล่าวในระหว่างการประชุมสมัยนิติบัญญัติ ซึ่งต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ทุกอย่างแก้ไขได้ ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันก็คงจะแก้ไขปัญหาของประเทศได้
ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การดำเนินการในส่วนของสภาทำได้ 2 ทาง คือ1.สมาชิกหนึ่งในสามเสนอญัตติ 2. รัฐบาลขอเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งยังไม่ทราบว่าระหว่างวันนี้จนถึงวันจันทร์จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่เราเห็นความขัดเจนว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นปัญหาซึ่งเป็นสาเหตุสะสมที่นำมาสู่สถานการณ์ปัจจุบันก็ยังไม่หมดไป ดังนั้นต้องทำทุกวิถีทางเท่าที่จะช่วยคลี่คลายปัญหา และไม่มีคำว่าสายไปที่จะช่วยแก้ไขปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายมองว่าควรที่จะมีคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คุณสมบัติของคนกลางที่จะมาไกล่เกลี่ยสำคัญที่สุด ต้องเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายที่จะมาไกล่เกลี่ยได้ หมายความว่าถ้ามีช่องทางที่ทั้งสองฝ่ายที่เผชิญหน้ากันอยู่ยอมรับบุคคลไกล่เกลี่ยได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีได้ ซึ่งแม้จะยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ควรจะทิ้งช่องทางนี้ ดังนั้นถ้ารัฐบาลและผู้ชุมนุมคิดว่า มีบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดที่มาช่วยแก้ไขปัญหาได้เราก็สนับสนุน
ส่วนข้อกล่าวหาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวหากับกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นกบฏถือว่ารุนแรงไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าเป็นข้อหาที่แรงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพูดเลยว่าในกลุ่มของผู้ชุมนุมที่มากันเป็นหนึ่งเป็นแสน ตากแดด ตากฝน ตนไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้มีความคิดร้ายหรือคิดกบฏต่อแผ่นดินแน่ แต่เขามีความเชื่อของเขาว่าเขามาเพื่อที่จะทำให้สังคมดีขึ้น เขาจะคิดผิด คิดถูก ใช้วิธีการที่ถูกที่ผิด ตรงนี้ตนยอมรับว่ามีความคิดเห็นที่หลากหลาย หากรัฐบาลจะพยายามมองว่าเป็นความคิดเห็นที่แตกต่าง และรักษาหลักของบ้านเมือง คือกฎหมาย โดยไม่มองว่าเป็นศัตรูของแผ่นดิน ปัญหาก็จะแก้ง่ายขึ้น
ปธ.วุฒิสภายื่นเสนอประชุมสองสภาแล้ว
นายประสพสุข บุญเดช ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่า กล่าวถึงความคืบหน้า ในการรวบรวมรายชื่อส.ว. 50 คนเพื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ให้บรรจุวาระเรื่องการแก้ปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองเข้าสู่ที่ประชุมร่วมสองสภาว่า ตนได้รวบรวมรายชื่อส.ว. ครบแล้ว และเสนอเรื่องไปยังประธานรัฐสภาแล้ว ซึ่งขึ้นกับดุลยพินิจของประธานรัฐสภาว่าจะบรรจุในระเบียบวาระการประชุมหรือไม่ โดยคาดว่าประธานรัฐสภาจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม เพราะทุกคนก็อยากแก้ไขปัญหาบ้านเมือง
ชัยปัดเปิดประชุม2สภา
ขณะที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือจากประธานวุฒิสภาที่จะขอให้บรรจุเรื่องการแก้ปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้เข้าสู่วาระการประชุมร่วมของสองสภา ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ แต่ในช่วงนี้เป็นการประชุมสมัยนิติบัญญัติ ซึ่งเราคงจะไปทำอะไรนอกเหนือไม่ได้ ทั้งนี้วาระในการประชุมร่วมสองสภา มีหลายวาระ หากมีการบรรจุเรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเมืองเข้ามาก็อาจจะบรรจุอยู่ในวาระอื่นๆ ได้ และถ้าที่ประชุมเสียงเกินกึ่งหนึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรหารือกันในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็สามารถทำได้
ตาบอดไม่เห็นตำรวจตีประชาชน
นายชัย ยังกล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นว่า ยังไม่เห็นภาพการ สลายการชุมนุม แต่นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่าไม่ให้ใช้ความรุนแรง และจะไม่สลายการชุมนุม แต่การสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้น อาจเป็นการดำเนินการตามที่ ศาลสั่ง ถือว่าเป็นอำนาจศาล ซึ่งเราควรยึดกฎหมายเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นว่าเหตุการณ์จะบานปลายอะไร เพราะคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ก็หน้าเดิมๆ
อภิสิทธิ์พร้อมส.ว.บุกพบตำรวจ
หลังจากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.กทม.ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล มา เพื่อขอเข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่อยู่ใน บช.น. หลังจากเดินดูสถานที่ที่ตำรวจใช้กำลังทำร้ายประชาชนเพื่อสลายการชุมนุม และรื้อเต้นของผู้ชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ
ภายหลังเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวเหตุตำรวจ เข้าเคลียร์พื้นที่ และได้เห็นภาพว่า ในทำเนียบรัฐบาลมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจริง จึงเดินทางมาพบในเรื่องดังกล่าว เพื่อขอความชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่า ตำรวจได้ทำตามคำสั่งของศาลทำไปตามหน้าที่ เป็นไปตามกฎหมาย
วอนตำรวจอย่าใช้ความรุนแรง
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าววิงวอนไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง กับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะจะทำให้เกิดเหตุบานปลาย รุนแรงได้ จะทำให้สังคมไม่สงบมากขึ้น ซึ่งตนมาในวันนี้มาในฐานะ ส.ส. ไม่อยากเห็นและให้เหตุการณ์ลุกลาม เหมือนพฤษภาทมิฬ
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาการเมือง แม้ว่าตำรวจทำตามกฎหมาย ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหากับผู้ชุมนมได้ ควรให้การเมืองดูแล
ทางด้าน น.ส.รสนา กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.โกวิท แล้ว ทาง ตร.ชี้แจงว่า กรมบังคับคดีได้นำหมายศาลเข้าไปติดในทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ ตำรวจ คอยดูแลป้องกันเจ้าหน้าที่ศาล ซึ่งตนมองว่า ตำรวจไม่ควรใช้กำลังสลายการชุมนุม ซึ่งตนได้เห็นคำสั่งศาลแล้ว ดังนั้น จุดประสงค์ที่มา บช.น.ในวันนี้มาขอความร่วม
ส.ว.ถกด่วนตำรวจสลายการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน มีการประชุมวุฒิสภา โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยระหว่างการประชุมนาสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ขอหารือว่า ขณะนี้มีข่าวว่า มีการใช้แก๊สน้ำตา สลายผู้ชุมนุม ที่ทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นเรื่องสำคัญ จึงควรใช้โอกาสนี้หาทางออก และขอเสนอเป็นญัตติด่วน ซึ่ง ส.ว.ที่ตั้งกระทู้ถามด่วนอีก 3 คน ก็ยอมให้มีการนำเรื่องนี้มาพิจารณาก่อน
ทั้งนี้นายสมชาย ตั้งข้อสังเกตว่าภาพข่าวที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศนี NBT ของกรมประชาสัมพันธ์ กรณีพันธมิตรฯ บุกสถานี NBT มีบางมุมเสมือนจริงมาก และการเสนอข่าวของ NBT ก็เป็นการปฏิบัติการทางจิตวิทยา เพราะฉายภาพรุนแรงซ้ำๆ พยายามทำให้การชุมนุมดูไม่ชอบธรรม เพื่อใช้กำลังสลาย และให้ประชาชนเห็นด้วยกับการปราบปราม และมีการเสนอข่าวไม่รอบด้าน เช่น ไม่เสนอภาพ ตำรวจ 5 กองร้อย พร้อมกระบอง และแก๊สน้ำตาทำร้ายประชาชนหรือประชาชนโดนกระทำ ก็ไม่มีภาพ ดังนั้นขอให้นึกถึงเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 , 6 ตุลา 19 และพฤษภา 35 ที่รัฐบาลปฏิบัติการมีลักษณะคล้ายเหตุการณ์ปัจจุบัน จนมีความสูญเสีย
พร้อมกันนี้ นายสมชาย ได้นำเทปภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจทุบตีผู้ชุมนุม ที่ทำเนียบรัฐบาล จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมามาเปิดด้วย
รสนาเสนอให้ส.ว.ไปดูข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ว.หลายคนผลัดเปลี่ยนกันอภิปรายแสดงความเป็นห่วง สถานการณ์บ้านเมืองที่อาจบานปลาย และมองว่ารัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหา ไม่ฟังเสียงประชาชน และเรียกร้องรัฐบาล อย่าใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม และขอให้วุฒิสภามีมติถึงท่าทีของ ส.ว.
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ เสนอให้ ส.ว.เดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปช่วยเป็นประจักษ์พยาน หากรัฐบาลกระทำการรุนแรง และเสนอให้ ส.ว. ยกเลิกจัดสัมมนาในวันที่ 29 -31 ส.ค.ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนไม่มีสภาจะอยู่และเห็นว่า หากสภาไม่สามารถเป็นเวทีแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ ก็ไม่สมควร มีสภาต่อไป และระบุว่า บ่ายวันนี้ ส.ว.บางส่วนจะเดินทางไปสังเกตการณ์การชุมนุม
แต่นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ที่ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงว่า การไปสัมมนาระดมความคิดเห็น เป็นบทบาทหนึ่งของ ส.ว. ขอให้แยกประเด็นการสัมมนากับการชุมนุมออกจากกัน หากใครจะไป หรือไม่ไป ก็ไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว จึงอยากให้ใช้โอกาสนี้ไปหารือ สถานการณ์บ้านเมือง เพื่อมีข้อสรุปเป็นทางออกให้บ้านเมืองก่อนประชุมรัฐสภาในวันที่ 1 ก.ย.
อภิปรายกันอยู่นานแต่ไร้ข้อสรุป
ด้าน นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม และเลขานุการ คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ ส.ว.(วิปวุฒิ) เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 161 โดยให้ ส.ว.เข้า ชื่อ 1 ใน 3 เสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติรัฐบาล ถึงปัญหาการบริหารราชการ แผ่นดิน ทำให้ ส.ว.บางส่วนแสดงความเห็นสนับสนุนนายวิทยา
ขณะที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา รายงานสถานการณ์การชุมนุม ต่อที่ประชุมว่า ณ เวลา 11.50 น. ตำรวจได้เริ่มสลายการชุมนุมบริเวณประตูต่างๆ รอบทำเนียบฯ พร้อมนำภาพข่าวล่าสุดจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ฉายในที่ประชุมด้วย ส่วนนายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี เสนอให้ประชุมลับ เพื่อมีมติไปในทางเดียวกัน แต่ที่ประชุมไม่เห็นด้วย
ส่วนพ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร เสนอให้ ส.ว. เป็นเจ้าภาพเชิญ รัฐบาล-พันธมิตรฯ มาหารือทางออกเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง
อย่างไรก็ตาม หลังจากสมาชิกได้อภิปรายฯ กันพอสมควร ประธานได้สั่งปิดประชุม โดยไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด
ส.ว.บุกทำเนียบฯดูข้อมูลเพื่อตั้งกระทู้ถาม
จากนั้น เวลา 13.30 น. น.ส.รสนา พร้อมด้วย ส.ว.กว่า 20 คน ได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อไปดูข้อเท็จจริงตำรวจสลายการชุมนุมและทำร้ายประชาชน โดยกล่าวว่า วันนี้ตนไม่ได้เดินทางมาให้กำลังใจ แต่ตนต้องการมาหาข้อมูล ข้อเท็จจริงเพื่อเข้าไปตั้งกระทู้ถามในสภาเท่านั้น
ชท.เร่ง2สภาถกด่วน
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า พรรคชาติไทยได้มีการหารือกับ ส.ส. พรรคชาติไทยเพื่อหาทางออกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นพรรคชาติไทยจะมีการประสานไปยังนาย ชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและนาย ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อเร่งจัดประชุมสภาฉุกเฉินและหาทางออก ซึ่งมองว่าหากรอให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. นี้คาดว่าจะล่าช้าเกินไป ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลพยายามอย่าใช้ความรุนแรงมากกว่านี้ และอยากให้แต่ละฝ่ายร่วมกันหาทางออกเพื่อให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า มีกลุ่ม ส.ว. จำนวนหนึ่งเข้าหารือกับแกนนำ พรรคชาติไทยเพื่อให้ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทางพรรคชาติไทยจะนำเข้าหารือกับนาย บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เนื่องจากมีเหตุผลหลายอย่างที่จะถอนตัว เพราะสถานการณ์ถึงขั้นสุกงอมแล้วจึงต้องยอมถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล