“อภิสิทธิ์” เดินชน “โกวิท-พัชรวาท” ถามความชอบธรรมที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรฯ ทำเนียบ พร้อมวิงวอนหยุดทำร้ายประชาชน หวั่นเหตุบานปลายนองเลือดเหมือนพฤษาทมิฬ ขณะที่สภาทนายความ แถลงจี้รัฐหยุดใช้ความรุนแรง
วันนี้ (29 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.กทม.ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล มา เพื่อขอเข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่อยู่ใน บช.น.ซึ่ง พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ
ภายหลังเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวเหตุตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ และได้เห็นภาพ ว่า ในทำเนียบรัฐบาลมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจริง จึงเดินทางมาพบในเรื่องดังกล่าว เพื่อขอความชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่า ตำรวจได้ทำตามคำสั่งของศาลทำไปตามหน้าที่เป็นไปตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าววิงวอนไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะจะทำให้เกิดเหตุบานปลายรุนแรงได้ จะทำให้สังคมไม่สงบมากขึ้น ซึ่งตนมาในวันนี้มาในฐานะ ส.ส.ไม่อยากเห็นและให้เหตุการณ์ลุกลาม เหมือนพฤษภาทมิฬ
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาการเมือง แม้ว่าตำรวจทำตามกฎหมายก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหากับผู้ชุมนมได้ ควรให้การเมืองดูแล
ทางด้าน นางสาวรสนา กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.โกวิท แล้ว ทาง ตร.ชี้แจงว่า กรมบังคับคดีได้นำหมายศาลเข้าไปติดในทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ ตร.คอยดูแลป้องกันเจ้าหน้าที่ศาล ซึ่งตนมองว่า ตำรวจไม่ควรใช้กำลังสลายการชุมนุม ซึ่งตนได้เห็นคำสั่งศาลแล้ว ดังนั้น จุดประสงค์ที่มา บช.น.ในวันนี้มาขอความร่วม
ในวันเดียวกันที่สภาทนายความ ถนนราชดำเนิน นายเดชอุดม ไกฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ออกแถลงการณ์เรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจงดใช้การกระทำที่รุนแรงต่อประชาชนในคดีแพ่ง โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน กรณีประชาชนร่วมชุมนุมและเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นการชุมนุมโดยสงบของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย การฟ้องร้องคดีแพ่ง ซึ่งขอให้ศาลมีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินให้คู่กรณี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และพวก 6 คน ออกจากสถานที่ราชการดังกล่าว สภาทนายความเห็นว่า การดำเนินการตามหมายห้ามชั่วคราวของศาลโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นกระทำไปอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอแถลงการณ์เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร็วดังนี้
1.คดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา และไม่ใช่คดีที่มีคำสั่งศาลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติต่อประชาชนทั้งหมดในที่ชุมนุม เป็นกรณีที่บังคับกับคู่ความในคดีคือแกนนำพันธมิตรฯ 6 คนเท่านั้น 2.คดีแพ่งดังกล่าวจึงไม่มีผลบังคับกับประชาชนที่ไม่ใช่คู่กรณี ดังนั้น จึงไม่มีกฎหมายรองรับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังกับประชาชน
อนึ่ง ในขณะนี้มีคำสั่งของศาลแพ่งให้มีการอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลอุทธรณ์แล้ว กรณีนี้จึงควรรอการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่ยุติก่อน ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่ฝ่าฝืน หรือเลือกที่จะปฏิบัติต่อประชาชน มีการยื้อยุดฉุดกระชากทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของประชาชน ย่อมมิชอบด้วยกฎหมาย 3.สภาทนายความเห็นว่าการกระทำดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องสั่งให้ตำรวจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐบาล ที่มีหน้าที่ดำเนินการ หยุดการกระทำดังกล่าวนั้นโดยทันที ขณะเดียวกัน ต้องนำผู้ที่มีการออกคำสั่งดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวนต่อไป
วันนี้ (29 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย นางสาวรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.กทม.ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล มา เพื่อขอเข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่อยู่ใน บช.น.ซึ่ง พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ
ภายหลังเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวเหตุตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ และได้เห็นภาพ ว่า ในทำเนียบรัฐบาลมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจริง จึงเดินทางมาพบในเรื่องดังกล่าว เพื่อขอความชัดเจนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่า ตำรวจได้ทำตามคำสั่งของศาลทำไปตามหน้าที่เป็นไปตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าววิงวอนไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะจะทำให้เกิดเหตุบานปลายรุนแรงได้ จะทำให้สังคมไม่สงบมากขึ้น ซึ่งตนมาในวันนี้มาในฐานะ ส.ส.ไม่อยากเห็นและให้เหตุการณ์ลุกลาม เหมือนพฤษภาทมิฬ
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาการเมือง แม้ว่าตำรวจทำตามกฎหมายก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหากับผู้ชุมนมได้ ควรให้การเมืองดูแล
ทางด้าน นางสาวรสนา กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.โกวิท แล้ว ทาง ตร.ชี้แจงว่า กรมบังคับคดีได้นำหมายศาลเข้าไปติดในทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ ตร.คอยดูแลป้องกันเจ้าหน้าที่ศาล ซึ่งตนมองว่า ตำรวจไม่ควรใช้กำลังสลายการชุมนุม ซึ่งตนได้เห็นคำสั่งศาลแล้ว ดังนั้น จุดประสงค์ที่มา บช.น.ในวันนี้มาขอความร่วม
ในวันเดียวกันที่สภาทนายความ ถนนราชดำเนิน นายเดชอุดม ไกฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ออกแถลงการณ์เรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจงดใช้การกระทำที่รุนแรงต่อประชาชนในคดีแพ่ง โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ไต่สวนฉุกเฉิน กรณีประชาชนร่วมชุมนุมและเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นการชุมนุมโดยสงบของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย การฟ้องร้องคดีแพ่ง ซึ่งขอให้ศาลมีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินให้คู่กรณี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และพวก 6 คน ออกจากสถานที่ราชการดังกล่าว สภาทนายความเห็นว่า การดำเนินการตามหมายห้ามชั่วคราวของศาลโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นกระทำไปอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอแถลงการณ์เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขโดยเร็วดังนี้
1.คดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา และไม่ใช่คดีที่มีคำสั่งศาลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติต่อประชาชนทั้งหมดในที่ชุมนุม เป็นกรณีที่บังคับกับคู่ความในคดีคือแกนนำพันธมิตรฯ 6 คนเท่านั้น 2.คดีแพ่งดังกล่าวจึงไม่มีผลบังคับกับประชาชนที่ไม่ใช่คู่กรณี ดังนั้น จึงไม่มีกฎหมายรองรับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังกับประชาชน
อนึ่ง ในขณะนี้มีคำสั่งของศาลแพ่งให้มีการอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลอุทธรณ์แล้ว กรณีนี้จึงควรรอการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่ยุติก่อน ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่ฝ่าฝืน หรือเลือกที่จะปฏิบัติต่อประชาชน มีการยื้อยุดฉุดกระชากทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของประชาชน ย่อมมิชอบด้วยกฎหมาย 3.สภาทนายความเห็นว่าการกระทำดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องสั่งให้ตำรวจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐบาล ที่มีหน้าที่ดำเนินการ หยุดการกระทำดังกล่าวนั้นโดยทันที ขณะเดียวกัน ต้องนำผู้ที่มีการออกคำสั่งดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวนต่อไป