“พันธมิตรฯ” ออกแถลงการณ์นัดชุมนุมใหญ่ ท้องสนามหลวง บ่าย 4 โมง 15 พ.ย.นี้ แสดงพลังเทิดทูนสถาบันสูงสุด ปกป้องศักดิ์ศรีชาติ หลัง “นช.แม้ว” สมคบ “ฮุนเซน” ย่ำยีประเทศไทย “สนธิ” ย้ำคำสัมภาษณ์ “ไทมส์” ใบเสร็จมัด “ทักษิณ” มุ่งร้ายสถาบัน จวกนายกฯ เขมรเป็นแค่กุ๊ยระหว่างประเทศ เชื่อมีคนแก่ชักใยเขมรท้า “มาร์ค” ยุบสภา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง แกนนำพันธมิตรฯ แถลงข่าวนัดชุมนุมใหญ่
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (10 พ.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 15 พ.ย. โดยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 6/2552 เรื่องจัดชุมนุมใหญ่ร่วมแสดงพลังแผ่นดินปกป้องเกียรติภูมิของชาติอย่างสันติ ดังนี้
“ตามที่นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร ผู้หลบหนีจากราชอาณาจักรไทย ด้วยคำพิพากษาของศาลในพระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทย แต่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กลับร่วมมือกับ นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อรับตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา ด้วยการโปรดเกล้าฯ จากกษัตริย์กัมพูชาดังที่ทราบตามแถลงการณ์ ฉบับที่ 5/2552 ลงวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 นั้น
ต่อมาได้ปรากฏเป็นข่าวในคำสัมภาษณ์ในนิตยสารไทมส์ออนไลน์ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 ว่า นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งปัจจุบันเป็นข้าในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรกัมพูชาผู้ทรยศชาติและขายชาติ นอกจากจะได้ย่ำยีศาลซึ่งกระทำภายใต้พระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว ยังได้บังอาจเหิมเกริมพูดให้สัมภาษณ์ด้วยการจาบจ้วง ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ไทยจนพสกนิกรชาวไทยไม่สามารถจะรับได้อีกต่อไป
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้มาประชุมกัน เห็นควรจัดชุมนุมใหญ่ และเชิญชวนพี่น้องประชาชน ทุกหมู่เหล่า ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสี ผู้รักชาติมาร่วมกันแสดงพลังแผ่นดินอย่างสันติ ในนามพสกนิกรไทยเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1.เพื่อแสดงออกให้ประชาคมโลกได้รับทราบว่า พสกนิกรชาวไทยมีความรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่ยินยอมให้ผู้ทรยศชาติมาละเมิดจาบจ้วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้
2.เพื่อแสดงออกให้ประชาคมได้ทราบว่า ยังมีประชาชนชาวไทยผู้รักชาติพร้อมที่จะรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชาติ จนถึงที่สุด มิให้ประเทศชาติอื่นเข้ามาดูหมิ่นเหยียดหยามกระบวนการของศาลยุติธรรมซึ่งกระทำในพระปรมาภิไธยแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทยได้
3.เพื่อแสดงสัญญลักษณ์และร่วมกันประณามนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาไปทั่วโลก ที่ได้มาย่ำยีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีแห่งราชอาณาจักรไทยในครั้งนี้
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย ทุกกลุ่ม ทุกสี ทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของชาติในครั้งนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. แล้วเดินขบวนสำแดงพลังแผ่นดินอย่างสันติไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของปวงชนชาวไทยอย่างพร้อมเพรียง ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลกว่าประชาชนชาวไทยเชื่อมั่นและศรัทธาในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างมั่นคงตลอดไป
ด้วยจิตคารวะ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2552
ณ บ้านพระอาทิตย์”
ด้าน นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่สำคัญมาก เมื่อวาน(9 พ.ย.) นักโทษชายทักษิณ ได้กระทำการฆ่าตัวตายด้วยคำพูด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานจากการให้สัมภาษณ์ ไทมส์ออนไลน์ สังคมไทยและโลกได้รู้แล้ว่าทักษิณพูดจาจ้าบจ้วงสถาบันเบื้องสูงทำให้เสียหายอย่างมาก แล้วยังโกหกว่าไม่ได้พูดเช่นนั้น แถมยังตำหนิไทมส์ออนไลน์จนเขาต้องเอาหลักฐานถอดคำให้สัมภาษณ์ 12 หน้าออกมาตีพิมพ์ให้เห็น ซี่งจากการตรวจสอบคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวคำพูดก็ตรงชัดเจน ครั้งนี้มีใบเสร็จเช็กบิลชัดเจน การกระทำเมื่อวานนี้เป็นการเช็กบิลย้อนหลังไปตั้งแต่วันแรกที่ได้มีข้อสงสัยว่า ทักษิณไม่จงรักภักดี และต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด
นายสนธิกล่าวต่อว่า ถ้าเราโยงเหตุการณ์ให้ดีจะเห็นการปล่อยข่าวร้ายเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ และต่อมาก็มีเหตุความขัดแย้งระหว่างสมเด็จฯ ฮุนเซน กับรัฐบาลไทย สื่อคงเข้าใจว่าในประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศ ไม่มีชาติใดจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของชาติอื่นได้ ฮุนเซนนอกจากจะกระทำผิดหลักเกณฑ์การทูตระหว่างประเทศแล้ว เพราะมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน และรู้ว่าทักษิณเป็นผู้ร้าย ยังยอมให้มาเป็นที่ปรึกษา อุปมาอุปมัยเหมือนไทยตั้งนายสมรังษีเป็นที่ปรึกษา พฤติกรรมเยี่ยงนี้ไม่ใช่พฤติกรรมของประเทศที่เจริญแล้วทำกัน เหมือนคนข้างถนนที่ระรานเขาไปทั่ว
นายสนธิกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่นายฮุนเซนอกใ้ห้รัฐบาลไทยยุบสภานั้น ไม่ใช่นายฮุนเซนพูดเอง แต่เป็นเพราะมีคนแก่คนหนึ่งไปบอกให้พูด และเรื่องนี้ถือว่าเป็นการไร้มารบาทเป็นอย่างมาก วงการระหว่างประเทศเขาถือกันมากเรื่องการแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น ดูอย่างประเทศจีน เพียงแค่อินเดียให้องค์ทะไลลามะเดินทางเข้าประเทศก็ประท้วงแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาทางศาสนาหรือให้ที่พำนักถาวรที่ธรรมศาลาเลย แต่นายฮุนเซนไม่เคยมีมารยาทกับเรื่องพวกนี้ นายฮุนเซนจึงเป็นได้เพียงกุ๊ยทางการเมืองระหว่างประเทศเท่านั้น
นายสนธิกล่าวอีกว่า การที่ทักษิณรับตำแหน่งก็เป็นการทรยศต่อชาติ เพราะตำแหน่งเดิมเป็นนายกฯ ซึ่งย่อมเป็นคนที่เข้าถึงข้อมูลทุกอย่างของประเทศได้อย่างลึกซึ้ง ทั้งจากสำนักข่าวกรอง สันติบาล แต่การที่รับไปเป็นที่ปรึกษา ย่อมส่อให้เห็นว่าข้อมูลต่างๆ สามารถเอาไปเพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง แต่จะเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง
สำหรับการตอบโต้กะทันหันของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ต้องได้รับการชมเชย แต่หากนายทักษิณเข้าไปกัมพูชา มีนัยมากกว่านั้น ซึ่งตนเคยพูดมาแล้ว และยืนยันคำพูดนี้ นัยที่ต้องการเปลี่ยนเกาะกงเป็นที่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แล้วใช้พื้นที่กัมพูชาเป็นที่ก่อกวนและสร้างความไม่สงบในประเทศไทย สมเด็จฯ ฮุนเซนดูถูกเหยียดหยาม เยาะเย้ยรัฐบาลไทยมาตลอด และยังเข้ามาครองพื้นที่ชายแดน โดยไม่คำนึงถึงสนธิสัญญาดังกล่าว ตลอดจนดูถูกความสามารถของรัฐบาลไทย
นายสนธิกล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านั้น เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนยอมรับไม่ได้ ฉะนั้นพันธมิตรฯ เห็นว่าการกระทำของฮุนเซนและทักษิณ ซึ่งส่อเจตนาทรยศต่อชาติ รวมถึงการให้สัมภาษณ์ผ่านไทมส์ออนไลน์ ย่อมเป็นบทพิสูจน์ได้ว่า คนสองคนนี้ร่วมมือกันเพื่อทำลายล้างประเทศไทย ขอเรียกร้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสี หากยังมีความรักชาติอยู่ ต้องการกู้ศักดิ์ศรีของชาติ ต้องแสดงพลังให้โลกเห็นโดยพร้อมเพรียงกันที่สนามหลวง 15 พ.ย.นี้ เวลา 16.00 น.
ด้าน นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่าวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางเข้าประเทศกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว เพื่อรับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐบาลฮุนเซน จึงขอเรียกร้องรัฐบาลเร่งดำเนินการใช้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ขอตัวนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินมาดำเนินคดีตามกฏบัตรประชาคมโลก เพราะการใช้มาตรการตอบโต้ยกเลิกเอ็มโอยูในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลวันนี้ไม่เพียงพอ จำเป็นต้องดำเนินดคีกับทักษิณ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ส่วนการที่ออกมาปฏิเสธและโยนบาปให้หนังสือพิมพ์ไทมส์จึงฟังไม่ขึ้น และแสดงถึงธาตุแท้ของทักษิณที่พันธมิตรฯ ได้ต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2549
ด้าน นายพิภพ ธงไชย กล่าวเรียกร้องให้ประชาชนทุกหมูเหล่า ทุกสี ร่วมกันแสดงพลังในวันที่ 15 พ.ย.เวลา 16.00 น.การชุมนุมในวันดังกล่าวถือเป็นการชุมนุมใหญ่ จึงขอเชิญชวนพสกนิกรร่วมแสดงความรักชาติ หลังจากที่ พล.อ.ชวลิต นายฮุนเซน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ร่วมกันย่ำยีศักดิ์ศรีของชาติ และแสดงความไม่จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องแสดงพลังร่วมกัน
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้เพื่อนทหารออกมาแสดงการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามหน้าที่แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว เพราะเราเคยถวายสัตย์ฯ ร่วมกันว่าจะต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไปตลอดชีวิต โดยการชุมนุมจะไม่มีการตั้งหลักปักฐาน แต่เป็นการรวมพลังเพื่อแสดงเจตจำนง และขอยืนยันว่าจะไม่พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต หากมีส่งคนติดต่อมา และไม่พร้อมที่หารือด้วย เพราะ พล.อ.ชวลิตสังกัดพรรคเพื่อไทย ถือว่าเลือกข้างชัดเจนแล้ว และแกนนำของพรรคดังกล่าวยังคงเดินหน้าด่าทอ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อย่างสาดเสียเทเสีย ขณะที่ตนเองเคยดำรงเลขาธิการ พล.อ.เปรม เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี จึงไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะไปพูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต