รมต.สำนักฯ ยอมรับ ตกใจหลังอ่านบทสัมภาษณ์ “แม้ว” หมิ่นสถาบันเบื้องสูงผ่านสื่อนอก ชี้ กระทบหัวใจคนไทยทั้งประเทศ เชื่อมโยงปล่อยข่าวอัปมงคลทุบหุ้นก่อนหน้านี้ มั่นใจมีเพียงคนเดียวใช้ประเทศเพื่อนบ้านโจมตีไทย จี้ กระทรวงการต่างประเทศประสานไทมส์ พิสูจน์ความจริง เย้ย “แม้ว” ยิ่งว่าย ยิ่งไกล ออกทะเลลึก หาฝั่งไม่เจอ เจอคำถามเดิม “คนไทยหรือเปล่า”
วันนี้ (9 พ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์นิตยสารไทมส์ หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า เป็นสิ่งที่สะเทือนความรู้สึกของประชาชนคนไทยอย่างมาก พวกเราอยู่ที่สภา มีคนมาบอกและนำบทความมาให้อ่าน หลายคนที่อ่านรู้สึกสะเทือนใจ ประเด็นที่กำลังดูขณะนี้ คือ เจตนาคนพูดคืออะไร เพราะการพูดเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่มิบังควรอย่างยิ่ง และไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เป็นการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ซึ่งอาจจะสร้างความเข้าใจผิดและสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันสูงสุดของประเทศด้วย สถานการณ์ขณะนี้มีความอ่อนไหวมาก เนื่องจากมีการปล่อยข่าวลือกันมาก่อนหน้านี้ และการให้สัมภาษณ์ลักษณะนี้ก็ไปสอดคล้องกับเหตุการณ์ ที่มีการปล่อยข่าวลือกันก่อนหน้านี้ด้วย
“ประเด็นที่กำลังดูกันในขณะนี้ คือ เจตนาของผู้พูดคืออะไร เท่าที่ดูกันขณะนี้เห็นว่าเป็นคำพูดที่หมิ่นเหม่มาก ที่จะมีปัญหาในแง่ข้อกฎหมายอื่นๆ ด้วย เข้าใจว่า คนพูดเองตอนนี้คงรับรู้แล้วว่า สะเทือนความรู้สึกหัวใจของคนไทยมากก็พยายามออกมาโยนความผิดฝ่ายสื่อ แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก เพราะสามารถกลับไปอ่านฉบับเต็ม และเจตนาของผู้พูดได้ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้พิสูจน์อย่างหนึ่งเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วคุณทักษิณคิดอะไรกันแน่ กับประเทศกับสถาบัน” นายสาทิตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ลักษณะไม่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ ก็เคยมีข่าวคราว นายสาทิตย์ กล่าวว่า ต้องยอมรับคนมีความเห็นเช่นนี้ในอดีตเคยมี แต่คนซึ่งมีบทบาทด้านสื่อมวลชนและมีผู้ที่ติดตามจำนวนมาก หรือมีกำลังทรัพย์พอที่จะดำเนินการอะไรต่อมิอะไรได้ และสร้างสัมพันธ์กับประเทศบางประเทศ ถึงขั้นจะใช้ประเทศนั้นเป็นฐานในการโจมตีประเทศไทยได้ก็มีคุณทักษิณ ฉะนั้น เรื่องนี้สะเทือนความรู้สึก แต่และฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตามอย่างใกล้ชิดและคิดว่าจะต้องหารือจะดำเนินการอะไรได้หรือไม่อย่างไร และ รมว.ต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ จะประเมิน และดำเนินตามวิธีการของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีการเจรจาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ส่วนความถูกผิดของคนพูดต้องดูเจตนาก่อน เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเกี่ยวข้อกับกฎหมายในประเทศเป็นหลักด้วย ประเด็นใหญ่ คือ มีการเผยแพร่ในสื่อต่างประเทศได้รับความกระทบกระเทือน ทั้งความรู้สึกของพี่น้องประชาชนคนไทยและกระทบกระเทือนถึงสถาบันสูงสุดที่เป็นที่เคารพ
“หากคุณทักษิณ พูดว่าสื่อบิดเบือนลงผิด ต้องรอคำชี้แจงจากสื่อที่ไปลง หากเขายืนยันถูกต้องก็ชัดเจน ก็มาดูเจตนาอีกที เบื้องต้นประเทศเสียหายกระทบความรู้สึกประชาชนและสถาบัน เพราะเนื้อความที่อ่านผมตกใจมาก คือ เราอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง แต่เราไม่เคยได้ยินเขาพูดอะไรอย่างนี้ตรงๆ แต่เมื่อพูดตรงๆ ในฐานะคนไทยรู้สึกตกใจ ถ้าเขาหาว่าไทมส์ซึ่งเป็นสื่อระดับโลกบิดเบือน ก็คงไปว่ากล่าวกันเอง ผมเชื่อว่า ไทมส์ต้องออกมาชี้แจง ทั้งหมดต้องดูเจตนาคนพูด” นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะขยับอย่างไรในการชี้แจงทำความเข้าใจกับประเด็นที่คุณทักษิณพูด นายสาทิตย์ กล่าวว่า คิดว่า กระทรวงการต่างประเทศ เขาทำหน้าที่อยู่แล้วเขามีเครือข่ายสถานทูตอยู่ทั่วโลก และเรื่องที่เกิดขึ้นก็สอดคล้องกับการปล่อยข่าวปั่นหุ้นกันก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งคงต้องมีการชี้แจงกัน ส่วนกรณีที่คุณทักษิณ พูดถึงเรื่องการถวายฎีกาที่มีการถ่วงเวลานั้น ตนไม่พูดเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่ในประเทศไทยเรามีกฎหมายทุกอย่างชัดเจนแม้แต่การโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต้องมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ฉะนั้น กรณีถวายฎีกาเป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ปฏิบัติมานับแต่ราชการที่ 6 ระเบียบกฎหมายว่าด้วยการถวายฎีกาก็มีการปฏิบัติต่อเนื่องมาตลอด ทุกรัฐบาลรับรู้ดี การถวายฎีกาชัดเจนไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันใด ถึงบอกว่าอยูที่เจตนา บางทีพูดถึงประธานองคมนตรี แต่เจตนาคนพูดเรารู้ว่าเขาต้องการจะหมายถึงงอะไร
“ตอนนี้คุณทักษิณยิ่งไกลออกไปเรื่อย เขาเรียกว่า ยิ่งว่ายยิ่งลึก ออกทะเลลึกไปเรื่อยๆ หาฝั่งกลับไม่เจอ คำถามเรื่องคนไทยหรือเปล่าก็ย้อนกลับมาหาตัวเขาเอง” นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามว่า มองเป็นเกมของคุณทักษิณ หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า แน่นอน ตนได้วิเคราะห์ไว้แล้วว่า 2 เดือนนี้เกมต้องแรงแน่ เพราะวันที่ 12 พ.ย.นี้ศาลอาญาจะสอบกรณี 7.5 หมื่นล้าน เกมก็แรงขึ้นเรื่อยๆ เขามีเจตนาชัดเจน แต่เมื่อก่อนดำเนินโดยลำพังส่วนตัวอาศัยหลบอยู่ตามประเทศต่างๆ แต่วันนี้ใช้กัมพูชามาเคลื่อนไหว และสอดคล้องกันอย่างยิ่งมันกระทบกระเทือนหัวใจคนไทยคุณจะโจมตีรัฐบาล โจมตีนายกฯก็ว่าไปเรื่องหนึ่ง เรารับกันได้ แต่แตะต้องสถาบันมันเหยียบย่ำหัวใจคนไทยมากไป