นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่ง SMS ตรงถึงประชาชนอาจส่งผลถึงการชุมนุมเคลื่อนไหว ของกลุ่มคนเสื้อแดงปลายเดือนนี้ว่าคิดว่าประเทศไทยควรก้าวข้ามเรื่องที่วนเวียนอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณให้ได้ เราพูดถึงเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณกันมากจนมันซ้ำซาก ทั้งที่ประเทศเรามีมากกว่าเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งประเด็นที่เกี่ยวข้องมีแค่ 2 เรื่องเท่านั้นคือ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักโทษที่หนีคดี รัฐบาลต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี เรื่องที่สอง เขายังมีพรรคพวกคนเสื้อแดง ซึ่งส่วนนั้นก็ดำเนินการไปได้ตามกฎหมายภายในประเทศ แต่รัฐบาลจะมาเสียเวลาตอบเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกวันประเทศไม่ได้อะไร ประเด็นคือเราต้องทำงานต้องแก้ไขปัญหาอีกเยอะ
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นโดยมีภารกิจเจรจากับต่างประเทศหลายเรื่อง ในสัปดาห์หน้า จะต้องพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ม.190 อีก 20 ฉบับที่ต้องผ่านรัฐสภา นอกจากนี้การประกันรายได้เกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องข้าววันนี้ก็ต้องดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลต้องเดินหน้าต่อไป ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องจับตาดูปกติไม่มีอะไร
ผมคิดว่าประเทศไทยต้องก้าวข้ามเรื่องทักษิณให้ได้ ถ้าเราชีวิตแต่ละวันวนเวียนเรื่องทักษิณ ซ้ำซาก ผมว่าไม่มีอะไรดีขึ้น คนเขารู้สึกเบื่อ รัฐบาลไม่หวั่นไหวเลยที่เขาใช้มวลชน เพราะเขาใช้มาหลายเดือนแล้ว ส่วนเรื่องการชุมนุมก็ว่ากันไปแก้ไขกันไปไม่ให้กระทบกระเทือนการทำงาน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้วได้หารือในที่ประชุม ครม.พรรคประชาธิปัตย์ และเห็นว่ายุทธศาสตร์การทำงานรัฐบาลต้องก้าวข้ามเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ เราจะมัวไปเสียเวลาพูดเรื่องซ้ำซากทุกวันไม่มีประโยชน์ แต่เราต้องพูดและทำงานในสาระที่เป็นปัญหาประชาชน ในส่วนของพรรค ครม.จะเจอกันบ่อยขึ้นการทำงานใหญ่ของรัฐบาลก็ต้องเดินหน้าทำงานต่อ ส่วนการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีก็จะเสนอกันอีกและดำเนินการต่อไป จะทำให้เห็นว่า ประเทศนี้อยู่ได้แม้ไม่มีพ.ต.ท.ทักษิณก็ตาม แม้ว่า คนส่วนหนึ่งจะยึดว่าต้องเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นก็เป็นเรื่องของเขา และเขาถือเป็นคนส่วนน้อย และเราก็ไม่ควรเสียเวลามาพูดเรื่องนี้
นายสาทิตย์ กล่าวว่าปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณรัฐบาลไม่เคยเกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศ เพราะเราดำเนินการตามกฎหมาย เป็นไปตามกระทู้ที่ได้ตอบแล้วถึงการดำเนินการตามพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนดำเนินการอย่างไร จะเห็นว่า ทุกวันนี้รัฐบาลดำเนินการโดยไม่ต้องเกรงใจอะไร ตั้งแต่คดีทุบหุ้น ปั่นหุ้น เอาข่าวไม่เป็นมงคลมาก็จับ พาดพิงถึงใครก็ดำเนินการ แม้ว่าจะเป็นคนที่มีสถานะทางสังคมสูงขนาดไหน เมื่อถึงเวลาก็ดำเนินการเด็ดขาด ไม่สนเสียงวิจารณ์ที่ห้ามไม่ให้ ทำโน่น ทำนี่ ต้องตัดสินใจเด็ดขาด รวมไปถึงเรื่องรถไฟที่ต้องตัดสินใจใหม่ ตนคิดว่า เรื่องอย่างนี้ดีกว่าพูดเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในวันพฤหัสบดีนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นโดยมีภารกิจเจรจากับต่างประเทศหลายเรื่อง ในสัปดาห์หน้า จะต้องพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ม.190 อีก 20 ฉบับที่ต้องผ่านรัฐสภา นอกจากนี้การประกันรายได้เกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องข้าววันนี้ก็ต้องดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลต้องเดินหน้าต่อไป ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องจับตาดูปกติไม่มีอะไร
ผมคิดว่าประเทศไทยต้องก้าวข้ามเรื่องทักษิณให้ได้ ถ้าเราชีวิตแต่ละวันวนเวียนเรื่องทักษิณ ซ้ำซาก ผมว่าไม่มีอะไรดีขึ้น คนเขารู้สึกเบื่อ รัฐบาลไม่หวั่นไหวเลยที่เขาใช้มวลชน เพราะเขาใช้มาหลายเดือนแล้ว ส่วนเรื่องการชุมนุมก็ว่ากันไปแก้ไขกันไปไม่ให้กระทบกระเทือนการทำงาน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้วได้หารือในที่ประชุม ครม.พรรคประชาธิปัตย์ และเห็นว่ายุทธศาสตร์การทำงานรัฐบาลต้องก้าวข้ามเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ เราจะมัวไปเสียเวลาพูดเรื่องซ้ำซากทุกวันไม่มีประโยชน์ แต่เราต้องพูดและทำงานในสาระที่เป็นปัญหาประชาชน ในส่วนของพรรค ครม.จะเจอกันบ่อยขึ้นการทำงานใหญ่ของรัฐบาลก็ต้องเดินหน้าทำงานต่อ ส่วนการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีก็จะเสนอกันอีกและดำเนินการต่อไป จะทำให้เห็นว่า ประเทศนี้อยู่ได้แม้ไม่มีพ.ต.ท.ทักษิณก็ตาม แม้ว่า คนส่วนหนึ่งจะยึดว่าต้องเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้นก็เป็นเรื่องของเขา และเขาถือเป็นคนส่วนน้อย และเราก็ไม่ควรเสียเวลามาพูดเรื่องนี้
นายสาทิตย์ กล่าวว่าปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณรัฐบาลไม่เคยเกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศ เพราะเราดำเนินการตามกฎหมาย เป็นไปตามกระทู้ที่ได้ตอบแล้วถึงการดำเนินการตามพ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนดำเนินการอย่างไร จะเห็นว่า ทุกวันนี้รัฐบาลดำเนินการโดยไม่ต้องเกรงใจอะไร ตั้งแต่คดีทุบหุ้น ปั่นหุ้น เอาข่าวไม่เป็นมงคลมาก็จับ พาดพิงถึงใครก็ดำเนินการ แม้ว่าจะเป็นคนที่มีสถานะทางสังคมสูงขนาดไหน เมื่อถึงเวลาก็ดำเนินการเด็ดขาด ไม่สนเสียงวิจารณ์ที่ห้ามไม่ให้ ทำโน่น ทำนี่ ต้องตัดสินใจเด็ดขาด รวมไปถึงเรื่องรถไฟที่ต้องตัดสินใจใหม่ ตนคิดว่า เรื่องอย่างนี้ดีกว่าพูดเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ