xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” แนะ “เพื่อแม้ว” เปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อเขมร-ร้องเพลง “บองสะรันเนียง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพไท เสนพงศ์
“เทพไท” อัด “เพื่อแม้ว” บิดเบือนแถลงหนุนนายใหญ่ ป้องเขมร แนะเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคเพื่อเขมร ไปร้องเพลง “บองสะรันเนียง” ระบุ ปชป.ไม่คิดฉวยโอกาสปลุกกระแสคลั่งชาติ คนไทยคิดเองได้ โต้ “ไข่แม้ว” อย่าเปรียบ วีรพงษ์ รามางกูร กับ “นช.แม้ว” เพราะเขาไม่ใช่นักโทษหนีคดี

วันนี้ (7 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนซัน และรัฐบาลกัมพูชาว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุทางการเมือง มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนมาอย่างดี เริ่มจากเอา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เข้ามาสู่พรรคเพื่อไทย แล้วใช้ความสามารถพิเศษที่มี เดินสายประเทศกัมพูชา ยืมมือ สมเด็จฯ ฮุนเซน จัดฉากเบี่ยงเบนความสนใจจากสื่อ ด้วยการแถลงข่าวบอก จะให้ที่พักแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในกัมพูชา ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจะเริ่มขึ้น จากนั้นเมื่อมีประชุมอาเซียน ฮุนเซน ก็ได้อ่านบทอีกที จงใจจะใช้สื่อสัมภาษณ์มายังรัฐบาลไทยเพื่อให้เกิดเป็นประเด็นทางการเมือง

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ตนได้พบหลักฐานชิ้นหนึ่งครั้งที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกฯ รมว.กลาโหม เคยให้สัมภาษณ์ในวันครบรอบ 1 ปี การดำรงตำแหน่งของรัฐบาลทักษิณ โดยพูดชัดว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการเจรจาให้เกิดการรวมชาติ และสนับสนุนให้ฮุนเซนขึ้นมามีอำนาจในกัมพูชา แสดงให้เห็นว่า ทั้งพล.อ.ชวลิต และ พ.ต.ท. ทักษิณ คนเหล่านี้นี้มีความผูกพันทั้งด้านการทหาร การค้าการธุรกิจ เอาประเทศชาติเป็นเดิมพัน ใช้อำจาจทางการเมืองเป็นเครื่องมือ แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ส่วนกรณีที่ พรรคเพื่อไทย ออกมาสนับสนุนช่วยเหลือนายใหญ่ 12 ข้อล้วนเป็นการบิดเบื่อนข้อเท็จจริงทั้งสิ้น มีลักษณะเป็นการปกป้อง แก้ต่างให้กับประเทศกัมพูชา จึงอยากถามว่าวันนี้พรรคเพื่อไทย ยังใช้ชื่อพรรคเพื่อไทยอยู่อีกหรือ เพราะถ้าดูพฤติกรรมแล้วมันไม่ได้ทำเพื่อคนไทย อยากให้เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคเพื่อเขมร น่าจะสอดคล้องกว่า และคนเหล่านี้ ยังร้องเพลงชาติไทย อยู่หรือไม่ หากเป็นอย่างนี้ต่อไปก็อยากจะแนะนำให้ไปร้องเพลง “เจี๊ยดขะแม” เพลงชาติเขมร หรือถ้าให้สบายใจก็ให้ไปร้องเพลง “บองสะรันเนียง”

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการปฏิบัติทางการฑูตของรัฐบาลไทย ในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน ที่รัฐบาลนิการากัว กับ ฮอนดูรัส แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา ประเทศไทยไม่ดำเนินการเรียกร้องให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพราะ ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน แต่ในส่วนของประเทศกัมพูชา เรามีสถานฑูต มีสนธิสัญญา ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพราะฉะนั้นรัฐบบาลไม่ได้เลือกปฏิบัติ

ส่วนประเด็นที่นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำเสื้อแดง ออกมากล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ว่ากำลังปลุกกระแสคลั่งชาติให้คนไทย ตนขอย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยฉวยโอกาสปลุกความคลั่งชาติ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจิตสำนึกของคนไทยทุกคน อย่างไรก็ตามถ้าคนไทยวันนี้ มีความรู้สึกคลั่งชาติ ก็ดีกว่าคนไทย จำนวนหนึ่งที่อยากจะขายชาติ และที่กล่าวอ้างว่า ทำไมในอดีตประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชานลาว ตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นที่ปรึกษารัฐบาลลาว คนไทย กลับไม่รู้สึกเหมือนกับกรณีที่กัมพูชา แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ตรงนี้เป็นเพราะนายวีรพงษ์ ไม่ใช่บุคคลที่มีปัญหาทางการเมือง ไม่ใช่นักโทษหนีคดี แต่กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าการจะเอานักโทษหนีคดีไปเป็นที่ปรึกษา โดยไม่ยอมส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ตามสนธิสัญญา นั้นเป็นสิ่งที่คนไทยยอมไม่ได้

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมาระบุนั้น ตนคิดว่ามี 4 ประเด็นที่น่าสนใจ คือ 1.กล่าวหาว่าการดำเนินการขกองรับบาลครั้งนี้ ทำให้ ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศเสื่อมทรามลง ตนอยากถามว่าใครกันแน่ที่ทำให้ 2 ประเทศ เสื่อมทรามลง 2.ที่ระบุว่าตนเองทำไปโดยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีวาระซ้อนเร้นแอบแฝงนั้น ก็อยากถามว่าจริงหรือไม่ที่ไม่มีวาระซ้อนเร้น 3.ที่นายนพดล ระบุว่านายอภิสิทธิ์กำลังนำปัญหา ในประเทศ ไปกดดัน เพื่อนบ้าน ก็อยากถามว่าใครกันแน่ที่เอาการเมือง นอกประเทศ มากดดัน ในประเทศ 4.ที่บอกว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าตนเองเป็นที่ปรึกษาให้รัฐบาลกัมพูชา เป็นการหาโอกาส ด้านการค้าและการลงทุนให้นักธุรกิจไทยสามารถแข่งขันได้ ก็อยากถามว่านักธุรกิจไทยคนไหนที่ไปทำสัมปทาน เกาะกง 99 ปี และจะทำธุรกิจ บนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ก็รัฐบาลกัมพูชา หรือนักธุรกิจไทยที่ได้สัมปทานโทรคมนาคมกับกัมพูชา ใช่หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น