“เด็จพี่” ร่วมออกโรงช่วยกู้ภาพนายใหญ่ โบ้ย “มาร์ค” จุดชวนเหตุขัดแย้งไทย-เขมร หลังตั้ง “กษิต” เป็น รมว.ต่างประเทศ แถมมีสารพัดโฆษกพ่นพิษทำให้ปัญหาลุกลาม ฉวยโอกาสจี้ปลดเจ้ากระทรวงบัวแก้วหนามตำใจ “นช.แม้ว”
วันนี้ (7 พ.ย.)ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรคได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาปากท้องของของประชาชน เพื่อนำไปศึกษาจัดทำเป็นนโยบายหาเสียง ในระหว่างนั้น นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดถึงปัญหาความขัดแย้งของกัมพูชาเกิดจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และการที่รัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา โดยนายพร้อมพงศ์ตอบบ่ายเบี่ยงไปว่า ปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชาทั้งหมดเริ่มตั้งแต่การแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ ดำรงตำแหน่งเป็น รมว.ต่างประเทศ รวมถึงการตั้งสารพัดโฆษกขึ้นมาใช้ปากสร้างมลพิษรายวันทำให้ความขัดแย้งภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซ้ำยังลุกลามไปประเทศเพื่อนบ้าน
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวต่ออีกว่า นายอภิสิทธิ์ควรที่จะกลับมาทบทวนตำแหน่งที่เป็นตัวเพิ่มชนวนความขัดแย้งทั้งหลาย และอยากให้แก้ปัญหาด้วยการปลดนายกษิต รมว.การต่างประเทศออกจากตำแหน่ง และปรับเปลี่ยนบรรดาสารพัดโฆษกที่ใช้ปากพ่นมลพิษตอนนี้ นอกจากนี้รัฐบาลควรปรับเปลี่ยนนโยบายด้านต่างประเทศ หันไปคิดการค้าการลงทุนดีกว่าไปเน้นการตอบโต้
อย่างไรก็ตาม การที่นายพร้อมพงศ์กล่าวหาว่าการแต่งตั้งนายกษิตทำให้เกิดปัญหากับกัมพูชาและให้ปลดนายกษิตนั้น ถือเป็นการฉวยโอกาสขับไล่นายกษิต เนื่องจากนายกษิตมีบทบาทสำคัญในการไล่ล่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมารับโทษในประเทศไทย
นอกจากนี้ การให้สัมภาษณ์ของนายพร้อมพงศ์ ได้ละเลยข้อเท็จจริงที่ว่า นายกษิตได้รับแต่งตั้งเป็น รมว.ต่างประเทศตั้งแต่ปลายปี 2551 แต่ขณะนั้นยังไม่มีปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาปะทุขึ้นมาแต่อย่างใด มีเพียงเรื่องการขึ้นทะเบียบปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ขณะที่ความขัดแย้งถึงขั้นเรียกทูตของประเทศตัวเองกลับนั้น เริ่มจากการที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปกัมพูชาและกลับมาให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะให้ที่พักพิงแก่ พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมจะแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาและจะไม่ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้รัฐบาลไทย แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันก็ตาม โดยอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกตัดสินโทษด้วยแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมไทย หลังจากนั้นนายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ได้มาให้สัมภาษณ์ยืนยันถึงเรื่องดังกล่าวระหว่างมาร่วมประชุมอาเซียนซัมมิตที่หัวหิน ซึ่งเป็นการผิดมารยาททางการทูตในฐานะแขกของประเทศไทย และล่าสุดรัฐบาลกัมพูชาได้แถลงอย่างเป็นทางการถึงการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาและยืนยันว่าจะไม่ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้ไทย ทำให้รัฐบาลไทยต้องตอบโต้ด้วยการเรียกทูตกลับ
สุดท้า นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวด้วยว่า พล.อ.ชวลิต มีกำหนดการเยือนประเทศมาเลเซียปลายเดือนนี้ จากนั้นจะเดินทางไปเยือนประเทศพม่า
