“ทวิตแม้ว” บำบัดจิต! อ้างลับสมอง ให้คำปรึกษา “ฮุนเซน”

“นช.แม้ว” ทวิตเตอร์บำบัดจิตรายวัน ขออนุญาตคนไทยไปนั่งที่ปรึกษา “ฮุนเซน” อ้างลับสมองเพราะไม่มีโอกาสรับใช้คนไทย ครวญถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลประชดให้ถอดเชื้อชาติ ด้านขี้ข้า “นพดล” รับลูก ชี้ที่ปรึกษาจะใช้วิธีโฟนอิน ยันไม่มีคิวเยือนกัมพูชา อัดรัฐบาลอคติจ้องบิดเบือนแนวคิดตั้งนครปัตตานี

วันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ถึงกรณีที่ประเทศกัมพูชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา และเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านเศรษฐกิจส่วนตัวของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีใจความว่า “ผมขออนุญาตพี่น้องคนไทย ไปให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจกับรัฐบาลกัมพูชาตามที่โปรดเกล้าจาก king สีหมุนีไปพลาง ก่อนที่จะมีโอกาสได้มารับใช้พี่น้องใหม่ ตอนนี้ผมก็ได้ให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลอื่นอยู่แล้วครับ ก็ถือว่าเป็นการลับสมองไว้ ถ้าไม่ใช้ไม่ติดตามข้อมูลและความรู้ใหม่ๆ ก็จะขึ้นสนิมหมดครับ อยากทำงานให้คนไทยก็ไม่ได้ แม้กระทั่งพาสปอร์ตเขายังไม่ให้ถือ ยศก็จะถอดเครื่องราชก็จะเอาคืน ถ้ายึดเชื้อชาติและสัญชาติได้ก็คงจะทำ โทษฐานทำงานมากไป เพื่อนบ้านไม่ได้เป็นศัตรูครับ อย่างไรก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนบ้านติดกันไปชั่วกาลนานเอามาเป็นมิตรดีกว่า เขาจนกว่าเรามาก”

ด้าน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ได้คุยกับอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งท่านระบุว่ารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีที่จะให้คำปรึกษาในเรื่องที่ท่านมีประสบการณ์ เช่น เศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาความยากจน และไม่ใช่แค่ประเทศกัมพูชาเท่านั้นที่แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษา ก่อนหน้านี้ก็มีหลายประเทศที่แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาด้วย เช่น นิการากัว และยังมีอีกหลายประเทศที่จะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาอีกด้วย สำหรับตำแหน่งที่ปรึกษาดังกล่าวนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปประเทศกัมพูชา เพียงแค่ให้คำปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์หรือทางอินเทอร์เน็ตก็ได้ อีกทั้งในช่วงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่มีกำหนดการเดินทางไปประเทศกัมพูชา ดังนั้น รัฐบาลไม่ต้องกังวลหรือหวั่นไหว เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองและไม่เกี่ยวกับการลี้ภัยใดๆ ทั้งสิ้น การทำหน้าที่ตรงนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะขณะนี้ทั้ง 2 ประเทศที่เปรียบเสมือนรถยนต์ก็วิ่งคู่กันไปได้ดีอยู่ เพียงแต่รัฐบาลชุดนี้ที่เปรียบเหมือนคนขับนั้นขับได้ไม่ค่อยดี เนื่องจากไม่ค่อยให้เกียรติ ชอบไปตำหนิเขา และแต่งตั้งบุคคลที่ไม่ดีมาทำหน้าที่จึงทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมทรามลง

นายนพดลกล่าวถึงแนวคิดในการจัดตั้งนครปัตตานีของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยว่า รูปแบบน่าจะคล้ายกับพัทยา และ กทม.ที่เป็นการกระจายอำนาจให้ประชาชนแต่ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน พล.อ.ชวลิต มีเจตนาดีและต้องการที่จะเสนอทางเลือก ซึ่งเรื่องนี้สามารถอภิปรายถกเถียงกันได้ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร ควรทำหรือไม่ แต่วันนี้กลับถูกบิดเบือนไปมากจากรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากมองความคิดสร้างสรรค์ของผู้อื่นไปในแง่ร้ายและอคติตลอดเวลา ความคิดเหล่านี้จึงทำให้บ้านเมืองเดินไปไม่ได้ ความปรองดองสมานฉันท์ไม่เกิด อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะส่วนตัวท่านก็เห็นด้วยกับการกระจายอำนาจให้กับประชาชนอยู่แล้ว สังเกตได้จากเมื่อครั้งที่เป็นรัฐบาลก็ทำโครงการหลายอย่างที่ให้ประชาชนไปบริหารจัดการกันเอง เช่น กองทุนหมู่บ้าน เอสเอ็มแอล เพราะเชื่อว่าการบริหารท้องถิ่นนั้น ให้ประชาชนทำเองดีกว่าที่จะให้ข้าราชการเข้าไปกำหนด