เลขาฯ รมว.กต.ออกโรงโต้เขมร ชี้ ยกเลิกเอ็มโอยูเป็นสิทธิของไทย ระบุความสัมพันไม่เหมือนเดิม หลังกัมพูชาตั้ง “แม้ว” เป็นที่ปรึกษา ศก. พร้อมไล่ให้ไปทบทวนบทบาทตัวเองใหม่ เชื่อประเทศอาเซียนเข้าใจไทย นัดประชุมปรับมาตรการ-แก้ไขปัญหา 8 พ.ย.นี้
จากกรณีที่ประเทศกัมพูชาได้ออกมาโต้แย้งว่าประเทศไทยไม่มีสิทธิยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างไทย-กัมพูชา ว่าด้วยการอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อน ฉบับวันที่ 18 มิถุนายน 2544 ซึ่งทำในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันนี้ (7 พ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.การต่างการประเทศ ได้ออกมาตอบโต้ถึงกรณีนี้ว่าเป็นสิทธิ์ที่ทางกัมพูชาจะเข้าใจอย่างนั้นแต่ในฐานะคู่เจรจา ประเทศไทยก็มีสิทธิ์เช่นกัน เพราะขณะนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพราะความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่เหมือนก่อนหน้านั้นแล้ว
ดังนั้น ประเทศไทยจึงมีเหตุผลในการยกเลิกเพราะการตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ถือว่ามีผลต่อการเจรจาตามกรอบเอ็มโอยู เนื่องจากบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นบันทึกที่เกิดขึ้นโดยการริเริ่มและจัดทำขึ้นโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ย่อมรู้ความลับของไทยเป็นอย่างไร ดังนั้นบันทึกดังกล่าว ถึงไม่ควรดำเนินการต่อ และหากออกเป็นมติครม.แล้ว ก็ถือว่ามีผล
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงมาตรการให้การช่วยเหลือประเทศกัมพูชานั้น ทุกเรื่องต้องดูสถานการณ์ ถึงจะมีการทบทวนประเด็นสำคัญอยุ่ที่บรรยากาศในขณะนี้ว่าทางกัมพูชา จะมีท่าทีออกมาอย่างไร ซึ่งเราก็หวังว่าทางกัมพูชา จะช่วยคำนึงบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ดี เพราะจะเป็นประโยชน์กับประชาชน 2 ฝ่าย
“ประเทศไทยได้ให้ความเป็นมิตรมาโดยตลอด และไทยเอง ก็หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการกระทบของพี่น้องทั้ง 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่ประเทศกลุ่มอาเซียนอย่างสิงคโปร์แสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้ ตนเชื่อว่าทุกประเทศเข้าใจไทยดี เพราะประเทศไทยไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน และดำเนินการตามหลักสากล รวมถึงทำตามกรอบข้อตกลงมาโดยตลอด ซึ่งไทยเองอาจจะเป็นประเทศที่ถูกมองด้วยซ้ำว่าดำเนินการนอกกรอบมาโดยตลอด” เลขานุการ รมว.การต่างการประเทศ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามถึงข้อยุติของเรื่องดังกล่าวอยู่ที่กัมพูชาทบทวนการแต่งตั้งหรือไม่ นายชวนนท์กล่าวว่า คำตอบเรื่องนี้อยู่ที่กัมพูชา รู้ดีว่าทางออกคืออะไร เพราะเรื่องนี้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ยังมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศที่จะโกรธแค้นกัน ทั้งนี้คนไทยในกัมพูชา ไทยได้สั่งให้สถานทูตดูแลแล้ว และมีการเตรียมพร้อมตลอดเพื่อความไม่ประมาท จนถึงขณะนี้ไม่มีรายงานความผิดปกติ และเชื่อว่าประชาชนกัมพูชาเข้าใจไทยดีว่าไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน ซึ่งวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย.กระทรวงการต่างประเทศจะมีการประชุมเพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเวลา 14.00 น.