“แม้ว”กดปุ่มเกมใหม่ !?

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 ต้องบอกว่าเละเป็นโจ๊กสำหรับข้อเสนอ “นครรัฐปัตตานี” หรือ “นครปัตตานี” ของ“จิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เพราะมีแต่เสียงด่า เขวี้ยงก้อนหินเข้าใส่รอบทิศ ไม่มีใครหินดีเห็นงามแม้แต่คนเดียว อย่าว่าแต่อื่นไกลเลยแค่พวก ส.ส.พรรคเพื่อไทยด้วยกันเองยังยกเท้าหนีกันพัลวัน สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าคนที่เสนอมันไม่มีเครดิต ไม่มีใครเชื่อถือ ถูกมองว่าเป็นคนแก่ที่เพ้อเจ้อ พูดไปเรื่อยเปื่อย

00 นอกจากนี้ สิ่งที่ทำลายน้ำหนักจนแทบไม่เหลือหลอก็คือ เป็นข้อเสนอในนามพรรคเพื่อไทย ที่มีต้นตอมาจาก ทักษิณ ชินวัตร คนที่ใช้นโยบายอุ้มฆ่า เหยียดหยาม “โจรกระจอก” หรือพฤติกรรมสังหารหมู่ที่ “ตากใบ” และ“กรือเซะ” ที่ยังไม่มีใครลืม และคนที่พล่ามก็เคยร่วมก๊วนกับคนที่ก่อความรุนแรงจนลุกเป็นไฟเวลานี้ แล้วยังไปเสนอหน้าโม้จนน้ำลายแตกฟองอีก ไม่โดน“ถีบ” ออกมาก็บุญแล้ว

00 เมื่อมุกนี้แป๊ก “ทักษิณ ชินวัตร” ก็กดปุ่มเล่นเกมใหม่ ฉุกละหุกแบบนี้หาใครไม่เจอ เอาวะ “ฮุนเซน” นี่แหละยังใช้ได้ ประจวบเหมาะกับชายแดน เขมร-เวียดนาม กำลังมีปัญหาถูก“เหงียน” โกรธจัดเรื่อง “สมรังสี” ฝ่ายค้านคู่แค้นเก่านำชาวบ้านไปถอน“หมุด” หลักเขตที่ว่ากันว่าผู้นำกัมพูชายอมให้ปักล้ำเข้ามาในบ้านตัวเอง กำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เริ่มถูกฝ่ายค้านยกเรื่องชาตินิยมมาเล่นงานแบบกรรมตามสนองบ้างแล้ว ดังนั้นมองได้ว่าวิธีที่ยังใช้ได้เสมอคือต้อง “กลบเกลื่อน” หาเหตุทะเลาะกับไทยอีกรอบ

00 แต่คราวนี้อาจไม่หมูเหมือนเดิม เพราะครั้งที่ผ่านมา ฮุนเซน เคยยำยีศักดิ์ศรีกระบวนการยุติธรรมไทยในเรื่องที่จะให้ “นักโทษคดีคอร์รัปชัน” อย่าง ทักษิณ ไปพำพักในกัมพูชา ทำให้คนไทยโมโหแทบปรี๊ดแตกมาแล้ว ล่าสุดมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ แถมในแถลงการณ์ ยังเหิมเกรมถึงขนาดพูดในทำนองให้ใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานสำหรับ “โค่นล้ม” รัฐบาลไทยจนสำเร็จอีกด้วย ก็ต้องรอดูท่าที นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกระทรวงต่างประเทศจะว่าอย่างไร เพราะเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าจะปล่อยให้เงียบๆ หยวนๆ แบบเก่าไม่ได้แล้ว

00 เชื่อว่าคนไทยคงไม่ยอมให้ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านมาย่ำยีศักดิ์ศรีเป็นอันขาด และยังอยากจะรู้ว่ากำหนดการที่รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” จะเดินทางไปเคลียร์กับ ฮุนเซน ที่กรุงพนมเปญ ตามที่สื่อกัมพูชารายงานนั้นจริงหรือไม่ และไปทำไม

00 ปัญหาที่ตลาดคลองเตยที่ยังเกิดความรุนแรงไม่หยุด และมีทีท่าบานปลายออกไปเรื่อยๆ และนี่คือภาพสะท้อนการบริหารที่ไม่เอาไหนของเจ้ากระทรวงคมนาคมอย่าง “โสภณ ซารัมย์” เป็นอย่างดี ในฐานะที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าของพื้นที่ในตลาดดังกล่าว และมีการให้เอกชนประมูลไปด้วยวิธีซิกแซกอะไรก็แล้วแต่ เพราะทำให้ชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าจำนวนไม่น้อยไม่พอใจ แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อยากฟันธงว่าใครถูกผิด แต่ในฐานะต้นสังกัดเมื่อเกิดเหตุลุกลาม ในฐานะผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานก็ต้องรีบลงไปดับไฟ แต่นี่ยังวางเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อน อาจเป็นเพราะผลประโยชน์มันมีน้อย หรือว่าเขาจ่ายกันไปเรียบร้อยแล้ว สู้ไปทำเรื่องรถไฟฟ้า หรือที่ดินรถไฟ “เขากระโดง” มันชัวร์กว่า และใหญ่กว่าเต็มคำดี จริงไหมเพ่ !!