xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง : “ประสงค์” เย้ย “จิ๋ว” ฝันเฟื่อง หวังกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ประสงค์” เผย “จิ๋ว” ยืมมือ “นช.แม้ว” ไต่ลำดับบันไดสามขั้น หวังแสวงหาอำนาจ-ล้มคดีบาปหนา 7 ต.ค. พร้อมปูดกระแส ตั้งนครรัฐปัตตานี ก่อชนวนกำจัด “มาร์ค” แนะ นายกฯ เปิดอกตั้งโต๊ะรับฟังความคิดพี่น้องไทยมุสลิม เชื่อไฟใต้คลี่คลายด้วยวิธีนี้ เตือน ปชป. อย่ามัวให้พรรคร่วมจูงจมูก ไม่เช่นนั้นพรรคอาจสูญพันธุ์



คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิปทั้งหมด


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง” 

 
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน โดยมี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย และ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการ ต่อสายตรงถึง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังมีนายเทอดภูมิ ใจดี อดีตผู้นำแรงงานและนักการเมืองอาวุโส มาร่วมวิเคราะห์ถึงมูลเหตุที่ทำให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ขุดประเด็น ให้จังหวัดปัตตานี เป็นนครรัฐปัตตานี ด้วย

น.ต.ประสงค์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คร่ำครวญเรื่องตั้งนครรัฐปัตตานี ตนฟังแล้วรำคาญมาก คำว่า รัฐปัตตานี เป็นชื่อดังเดิมที่ใช้เรียก ตั้งแต่เมื่อครั้งประเทศไทย ยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศสยาม เพราะคนในพื่นที่ส่วนใหญ่ มีเชื้อสายมาลายู ทำให้คำเรียกต่างๆ เป็นคำที่เกี่ยวกับภาษาในท้องถิ่นของเขา อย่างไรก็ตามในตอนต้นที่ พล.อ.ชวลิต เรียกรัฐปัตตานี ต่อมาก็บอกว่า นครปัตตานี ความจริงแล้วความหมายของ พล.อ.ชวลิต ก็คือ รัฐปัตตานี นั้นเอง เพราะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 3 ขั้นตอนที่เคยประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หลากสีหรือถอยสามก้าว ตรงนี้ พล.อ.ชวลิต กำลังเรียนแบบข้อเรียกร้อง 7 ข้อ ของนายฮัจยีสุหลง โต๊ะมีนา แต่พล.อ.ชวลิต พูดไม่หมดทั้ง 7 ข้อ

“คำว่า รัฐปัตตานี สมัยที่ดินแดนของไทย กินพื้นที่เข้าไปถึงแหลมมลายู ไม่ใช่แค่จังหวัดปัตตานีเท่านั้น แต่มันกินพื้นที่ของจังหวัด ปัตตานี ระยา นราธิวาส สงขลา และจังหวัดสตูล ด้วย ด้วยเหตุนี้ตนค่อนข้างมั่นใจว่า พล.อ.ชวลิต ขาดความรู้ความเข้าใจจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามหาว เสนอแนวคิดให้ตั้ง นครปัตตานี เพราะตามประวัติศาสตร์ นายฮัจยีสุหลง ผู้เสนอแนวคิดเดียวกันนี้มาก่อนหน้า ได้ถูกจับกุมตัวฐานเป็นกบฎ กับขังคุกราว 4 ปีเศษ” น.ต.ประสงค์ กล่าว

น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาไฟใต้ต้องเข้าถึงหรือให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในสมัยที่พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นตนทำหน้าที่เป็นลาขา ได้จัดให้ประชาชนทั้ง 5จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผู้แทน เข้ามาเปิดอกพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่า ต้องการอะไร อยากให้รัฐบาลช่วยเหลืออะไร ซึ่งถือได้ว่าประสบความสำเร็จ ที่ผ่านมาเหตุการณ์ได้สงบเรียบร้อยดี แต่มาเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้งในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นถือไว้ว่าเป็นตัวต้นเหตุ ก่อให้เกิดความรุนแรง ที่ไปกระทำการกดขี่ประชาชนในพื้นที่ไว้ต่างๆนาๆ รวมถึงการยกเลิก ศอ.บต.

น.ต.ประสงค์ กล่าวต่อว่า คำว่า รัฐปัตตานี หรือนครปัตตานี หาก พล.อ.ชวลิต ไม่เข้าใจ ตนแนะนำให้ไปศึกษา ข้อมูลให้ระเอียดก่อนนำมาพูด น.ส.อัญชะลี กล่าวตัดบทว่า พูดอย่างนี้เหมือนเป็นการใส่ร้าย พล.อ.ชวลิต เพราะอย่างน้อยนายมุก สุไลมานโฆษกพรรคมาตุภูมิ ก็ออกมาพูดสนับสนุนว่า คนอย่าง พล.อ.ชวลิต ไม่ใช่คนปัญญาอ่อน จนแยกผิดถูกไม่ออก น.ต.ประสงค์กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่า พล.อ.ชวลิต จะได้ศึกษาข้อมูลมาก่อน เพราะถ้าทำการบ้านมาก่อน คงไม่พูดจาเลอะเทอะอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า พล.อ.ชวลิต เป็นคนฉลาด แต่ฉลาดเฉพาะตอนแต่งเครื่องแบบทหาร พอถอดเครื่องแบบออกมาเล่นการเมือง ตนก็ไม่อยากพูดให้ร้าย เอาเป็นว่าไม่เหมือน คนที่เคยรู้จักเคยทำงานร่วมกันมาก่อน

น.ส.อัญชะลี กล่าวทักท้วงเรียกร้องแทน พล.อ.ชวลิต อีกครั้งว่า หากไม่ฉลาดทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เช่นไปหาสมเด็จฯ ฮุนเซน และเรื่องลงใต้ ที่ตั้งแต่มีพรรคเพื่อไทยมา ไม่มีใครทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ประทับใจได้มากกว่านี้ น.ต.ประสงค์ กล่าวยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และพล.อ.ชวลิต ต่างก็เป็นคนเก่ง แต่ติดที่ไร้คุณธรรม พร้อมกับพูดติดตลก ว่า หรืออาจเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งยามาให้กิน แต่ พล.อ.ชวลิต ดันลืมเขย่าขวด ทำให้พูดจาไม่รู้เรื่อง

น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ พล.อ.ชวลิต ทำเป็นการทำเพื่อตัวเอง ต้องการให้มีอำนาจ มาลบล้างความผิดในคดี 7 ต.ค.โดยมองว่าไม่มีอะไรที่จะสร้างความสั่นสะเทือนได้เท่ากับไป ยืมมือต่างชาติ อย่างกรณีไปกัมพูชากลับมา ก็มีข่าวฮือฮา ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่คราวนี้ไปประเทศมาเลเซีย เผอิญเขาไม่เล่นด้วย จึงได้นำเรื่องตั้งรัฐปัตตานี มาเป็นประเด็น ด้วยการยั่วยุ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน (พูโล) ทำให้คนเหล่านี้ฮึกเหิมขึ้น จนอาจนำไปสู่ความรุนแรง เพราะพล.อ.ชวลิต รู้ดีว่าหากรัฐบาล ยังมีอำนาจอยู่ ก็ไม่สามารถนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ ทั้งนี้ใครจะมองอย่างไรก็แล้วแต่ สำหรับตนมองว่า พล.อ.ชวลิต กำลังยืมมือพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งเงิน กำลังคน เอามาใช้เพื่อสนองประโยชน์ตนเอง ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เชื่อโดยสนิทใจคิดว่า พล.อ.ชวลิต ไปทำงานให้ ปูทางให้กลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง ทั้งนี้ตนอยากเตือน พล.อ.ชวลิต ในฐานะคนเคยทำงานร่วมกันมา หากฝันจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ก็มีสิทธิฝันได้ แต่จะไม่ง่ายอย่างที่คิด

น.ต.ประสงค์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ชวลิต และ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามทำทุกอย่างให้รัฐบาล อภิสิทธิ์ ไปให้พ้นทาง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีพรรคพวก เงิน หากมีการยุบสภา แล้วเลือกตั้งเร็วเท่าใด ก็มีโอกาสที่จะได้ ส.ส.เข้ามาในสภาจำนวนมาก ส่วนทางด้านพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้ ประชาชนก็เริ่มอึดกับคนบางคนในพรรค ทั้งที่คนดีมีเยอะ แต่บังเอิญโชคร้ายได้คนบางคนมาร่วมงาน ทำให้เกิดภาพลบต่อสายตาประชาชน ดังนั้น คำถามต่อไป แล้วจะทำอย่างไรให้มีการยุบสภา ก็คือ ก่อความวุ่นวาย ทำให้นายกฯโกรธมากๆ อยู่ไม่ได้ จนตัดสินใจลาออก ซึ่งก็นำไปสู่การยุบสภา อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า คนอย่าง พล.อ.ชวลิต และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้คิดแค่นี้ อะไรที่สามารถทำให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ โดยเร็วที่สุดก็จะทำ เล่นทั้งในระบบและนอกระบบ

“การยั่วยุให้ยุบสภาจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชน ที่สำคัญรัฐบาล ต้องใช้สื่อโทรทัศน์ วิทยุ ให้เป็นประโยชน์ นำความจริงออกไปเผยแพร่ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง อย่างสื่อ ASTVตรงนี้ตนไม่ได้เห็นว่ารู้จักกัน แล้วจะชม บอกตรงๆว่า มีส่วนช่วยในการให้ประชาชนรับรู้ข้อเท็จจริงอย่างมาก นอกจากนี้ ตัวผู้นำ ต้องมีความกล้าหาญ เด็ดขาดมากกว่านี้ อย่าให้วงล้อมชักจูงไปในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” น.ต.ประสงค์ กล่าว

นายชัชวาลย์กล่าวว่า หากจะมอง พล.อ.ชวลิต ต้องแบ่งออกเป็นช่วงๆ ช่วงสร้างความดีก็มี อย่างในกรณีผลักดันนโยบาย 66/23 ที่ทำให้คนที่มีแนวคิดต่างทางการเมืองหลายคน กลับมาสมานฉันท์ ด้วยการปราบปราม พรรคคอมมิวนิสต์ จนแตกกระเจิงหนีเข้าป่าไป ปัจจุบันคนเหล่านี้ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ มีเหลือพวกที่ต่อต้านจริงๆ น้อยมาก อย่างไรก็ตามวันนี้ฝ่ายที่เข้าป่าไป เขาบอกให้ตน ช่วยพูดแทนว่า พวกที่เป็นคอมมิวนิส ที่จะล้มสถาบันมีไม่ถึง 20 % ซึ่งส่วนใหญ่จงรักภักดิ์ดี ขอยืนอยู่ข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แต่ส่วนที่เสนอให้ รัฐปัตตานี ไม่ใช่นครรัฐปัตตานี ตรงนี้กำลังทำสิ่งที่ไม่ชัดเจน สร้างความสับสนให้ประชาชน ซึ่งจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี ทั้งนี้ หากย้อนมองตอนเป็นนายกรัฐมนตรี ได้พูดอยู่เสมอว่า ต้องให้ภาคใต้มีความยุติธรรม ไม่มีการฆ่ากัน ก็ยังทำไม่สำเร็จ และเมื่อเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ได้พูดถึงเรื่องสันติ แต่กลับปล่อยให้เกิดเหตุการณ์กรณี เครือแซะ ตากใบ ล่าสุดก็คดี 7 ต.ค. แล้วมาวันนี้มีฐานะอะไร จะมาสางปัญหาไฟใต้

นายชัชวาลย์กล่าวต่อว่า พล.อ.ชวลิต ยิ่งเดินยิ่งหลงทาง บอกหวังดีต่อประเทศ ที่ผ่านมาไปพบฮุนเซน ก็ไม่ต่างจากการชักศึกเข้าบ้าน แล้วตอนนี้จะเดินสาย ไปมาเลเซีย สิงคโปร เพื่ออะไร สิ่งที่ทำไม่ได้เกิดผลดีต่อประเทศเลย ทำอย่างนี้ทำให้ตน เชื่อว่า หวังดีต่อตัวเองเสียมากกว่า ที่หวังเอาเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ มาสู้การเลือกตั้ง เพื่อล้มรัฐบาล มาถึงขั้นนี้ ตนขอฝากให้ข้อคิดสังนิด การแย่งชิงอำนาจภายใต้ความบอบช้ำของชาติ สถาบัน ตรงนี้ประชาชนรับไม่ได้ ภาพความดีที่เคยสะสมมา จะพลิกกลับกลายเป็นคนที่ประชาชนเกลียดมากที่สุด

นายเทอดภูมิกล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยสร้างความดีจนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นขงเบ้ง ตนก็ยอมรับ แต่ตอนนี้มันเป็น ขงเบ๊ ไปแล้ว เข้ามาเล่นการเมืองด้วยเหตุผลสองประการ คือ 1.ผลประโยชน์ 2.ความแค้น ตอนมีอำนาจเคยทำอะไรสำเร็จบ้าง เป็นนายกฯไม่ถึงปีก็ลาออกแล้ว เป็นรองนายกฯ เป็นรอง ผบ.ทบ.ก็ลาออก อย่างไรก็ตาม มีคนกล่าวว่าคนในกองทัพที่เก่ง ฉลาด มีอยู่สองคน หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.ชวลิต แต่ดันไปรับใช้ในสิ่งที่ผิด ดังนี้เมื่อรู้ตัวแล้วแทนที่จะหยุด กลับเดินหน้าต่อไป ตนเคยเชื่อว่า พล.อ.ชวลิต เข้ามาเล่นการเมือง จะใช้ความฉลาด เข้ามาช่วยชาติ ที่ไหนได้กลับใช้ความแค้นส่วนตัว มาทำลายชาติ ทั้งนี้ตนเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใครที่คิดร้ายต่อแผ่นดิน จะต้องได้รับกรรม ดูตัวอย่างได้จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ตรงนี้ พล.อ.ชวลิต น่าจะคิดได้ หากคิดผิดตอนนี้ยังกลับตัวกลับใจได้ อย่าให้บ้านเมืองบอบช้ำไปมากว่านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น