xs
xsm
sm
md
lg

สหภาพขนส่งโลก หนุน สร.รฟท.-จี้รับกลับ พนง.ทันที

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สหภาพแรงงานขนส่งนานาชาติ พร้อมสหภาพแรงงานรถไฟหลายประเทศ หนุน สร.รฟท.บี้ผู้บริหารปรับปรุงระบบความปลอดภัยรถไฟไทย พร้อมเรียกร้องนายกฯ ลงแก้ปัญหารถไฟด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันให้รับพนักงานที่ถูกไล่ออกกลับเข้าทำงานโดยด่วน ประณามผู้บริหารใช้อำนาจกระทำต่อสมาชิกสหภาพรถไฟ เรียกร้องให้หยุดคุกคามพนักงานโดยทันที

สหภาพแรงงานขนส่งนานาชาติประกาศท่าทีสนับสนุนการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) โดยเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา นายเดวิด คอครอฟท์ เลขาธิการใหญ่ สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ส่งอีเมลถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง สร.รฟท.และการรถไฟแห่งประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

จดหมายของนายเดวิดระบุว่า เราทราบมาว่า กรรมการสหภาพแรงงานฯ ในสาขาหาดใหญ่จำนวน 6คน ได้ถูกฝ่ายบริหารของการถไฟแห่งประเทศไทยไล่ออกจากงาน เนื่องจากการประท้วงที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ในขณะที่เราเขียนหนังสือฉบับนี้ถึงท่านนั้น เรายังได้รับทราบข้อมูลว่าผู้นำระดับสูง ซึ่งรวมถึงประธาน รองประธาน และเลขานุการของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยก็จะถูกไล่ออกในเร็วๆ นี้ และมีอีก 18 คน ที่อาจจะถูกไล่ออกตามมาอีกด้วย

สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) ไม่สามารถยอมรับทัศนคติและการกระทำของฝ่ายบริหาร ไม่ว่าในประเทศใดก็ตามที่ตอบโต้การประท้วงที่ชอบด้วยกฎหมายแบบนี้ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานที่สำคัญ ตามที่ได้รับการคุ้มครองในอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เรารู้สึกเห็นใจและเข้าใจในเหตุผลของสหภาพแรงงานในการประท้วงครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เราตกใจมากเมื่อทราบว่าการขาดแคลนพนักงานของการรถไฟฯ ได้ทำให้พนักงานขับรถและช่างเครื่องจำนวนมากต้องทำงานติดต่อกันมากกว่า 30 วันโดยไม่มีวันพักผ่อน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าวิธีปฏิบัติเช่นนี้เป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุทางรถไฟที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งประชาคมโลก และสังคมนานาประเทศจะต้องตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงที่เลวร้ายเช่นนี้

ทั้งนี้ เรามีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าปัญหาความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นระหว่างสหภาพแรงงานและฝ่ายบริหารในการรถไฟฯ นั้น จะสามารถคลี่คลายลงไปได้ด้วยการหันหน้ามาพูดคุยและเจรจากัน ไม่ใช่การเผชิญหน้ากัน และถ้าท่านต้องการทาง ITF มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความช่วยเหลือหรือช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยใช้ความชำนาญ ความเชี่ยวชาญทั้งหมดที่เรามีอยู่

“สุดท้ายนี้ ITF ด้วยความสมานฉันท์กับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) สมาชิกของเรา ขอเรียกร้องให้ท่านรับพนักงานทั้งหมดที่ถูกไล่ออกให้กลับเข้าไปทำงานตามเดิมในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยยุตินโยบายที่จะคุกคามและปฏิบัติต่อสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยอย่างไม่เป็นธรรม” จดหมายของเลขาธิการใหญ่ ITF ระบุ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา นายโคอิชิ วาตานาเบะ ประธานคณะกรรมการสหภาพแรงงานขนส่งแห่งประเทศญี่ปุ่น (KOUNROKYO/ITF-JC) ได้ยื่นหนังสือถึงนายพิชัย อิศรภักดี อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย กรณีข้อพิพาทเรื่อง ความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารในการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยตามที่ได้ตกลงไว้

ทั้งนี้ นายโคอิชิได้แสดงความเห็นใจและเข้าใจในเหตุผลของสหภาพแรงงานในการประท้วงที่ผานมา พร้อมเรียกร้องให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรับผิดชอบต่อมาตรการที่จะทำให้ขบวนรถไฟ และการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของกิจการรถไฟนั้นมีความปลอดภัย พนักงานรถไฟที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปตามตารางเวลาเดินรถที่กำหนด ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายที่ต้องการจะลดจำนวนพนักงานลง ถือเป็นนโยบายการบริหารงานที่ไม่สามารถยอมรับได้

พร้อมระบุว่า ผลจากนโยบายการลดจำนวนพนักงานนี้ ได้นำไปสู่ปัญหาความเหนื่อยล้าในการทำงานของพนักงานรถจักรที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา การที่ฝ่ายบริหารโทษพนักงานขับรถเพียงฝ่ายเดียว และการโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับพนักงานขับรถที่ต้องกลายเป็นผู้รับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารงานขององค์กรเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง

สหภาพแรงงานขนส่งแห่งประเทศญี่ปุ่น ยังเรียกร้องให้ ร.ฟ.ท.รับพนักงานทั้งหมดที่ถูกไล่ออกให้กลับเข้าไปทำงานตามเดิมในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยยุตินโยบายที่จะคุกคามและปฏิบัติต่อสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยอย่างไม่เป็นธรรม

ขณะที่ นายชีวา โกปาล มิชรา เลขาธิการใหญ่สหพันธ์คนงานรถไฟทั่วประเทศอินเดีย (AIRF) ได้ส่งอีเมล์ถึงนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา สนับสนุนข้อเรียกร้องของ สร.รฟท. เรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยของขบวนรถไฟ รวมทั้งได้ประณามการใช้โครงสร้างอำนาจการบริหารของรัฐที่กระทำต่อสมาชิกและกรรมการของ สร.รฟท. การใช้อำนาจตำรวจและศาลในการจำกัดการดำเนินงานของสหภาพแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในการที่จะเปิดเผยถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากวิธีการบริหารจัดการความปลอดภัยของ การโยนความผิดหรือการเอาแต่โทษพนักงานเพียงฝ่ายเดียวสำหรับความล้มเหลวเชิงโครงสร้างในด้านมาตรการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริหารงาน และเรียกร้องให้ทคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety First) ในการบริหารงานกิจการรถไฟ

นอกจากนี้ยังมีสหภาพแรงงานด้านการขนส่งจากประเทศต่างๆ ส่งจดหมายแสดงการสนับสนุน สร.รฟท.พร้อมเรียกร้องให้การรถไฟรับพนักงานที่ถูกไล่ออกให้กลับเข้าทำงานตามเดิม ได้แก่ นายวิลเฮม ฮาเบอร์เซ็ท ประธานสาขาการขนส่ง สหภาพแรงงานวีดา ประเทศออสเตรีย, เลขาธิการใหญ่ สหภาพแรงงานทางทะเลแห่งประเทศอินเดีย (FSUI) สำนักงานนครมุมไบ, เอ็ม แอล เบลานี เลขาธิการใหญ่ สหภาพแรงงานขนส่งและแรงงานท่าเรือกานดลา ประเทศอินเดีย, นายเอ็ดการ์ จอห์น พี. บีลายอน ประธานสหภาพแรงงานรถไฟแห่งประเทศฟิลิปปินส์


จดหมายจากนายเดวิด คอครอฟท์ เลขาธิการใหญ่ สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF)


คำแปล
นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
สำนักนายรัฐมนตรี
อีเมล์. webmaster@opm.go.th
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2552
เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ในนามของแรงงานภาคขนส่ง 4.5 ล้านคนใน 654 สหภาพแรงงาน 148 ประเทศทั่วโลกซึ่งเป็นสมาชิกของสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) เราได้เขียนหนังสือฉบับนี้ถึงท่านเพื่อเรียกร้องให้ท่านเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) และการรถไฟแห่งประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เราทราบมาว่ากรรมการสหภาพแรงงานฯ ในสาขาหาดใหญ่จำนวน 6 คน ได้ถูกฝ่ายบริหารของการถไฟแห่งประเทศไทยไล่ออกจากงาน เนื่องจากการประท้วงที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ในขณะที่เราเขียนหนังสือฉบับนี้ถึงท่านนั้น เรายังได้รับทราบข้อมูลว่าผู้นำระดับสูง ซึ่งรวมถึง ประธาน รองประธาน และเลขานุการของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยก็จะถูกไล่ออกในเร็วๆนี้ และมีอีก 18 คน ที่อาจจะถูกไล่ออกตามมาอีกด้วย

สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) ไม่สามารถยอมรับทัศนคติและการกระทำของฝ่ายบริหาร ไม่ว่าในประเทศใดก็ตามที่ตอบโต้การประท้วงที่ชอบด้วยกฎหมายแบบนี้ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานที่สำคัญ ตามที่ได้รับการคุ้มครองในอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เรารู้สึกเห็นใจและเข้าใจในเหตุผลของสหภาพแรงงานในการประท้วงครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เราตกใจมากเมื่อทราบว่าการขาดแคลนพนักงานของการรถไฟฯ ได้ทำให้พนักงานขับรถและช่างเครื่องจำนวนมากต้องทำงานติดต่อกันมากกว่า 30 วันโดยไม่มีวันพักผ่อน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าวิธีปฏิบัติเช่นนี้เป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุทางรถไฟที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งประชาคมโลก และสังคมนานาประเทศจะต้องตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงที่เลวร้ายเช่นนี้

ทั้งนี้ เรามีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าปัญหาความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นระหว่างสหภาพแรงงานและฝ่ายบริหารในการรถไฟฯนั้น จะสามารถคลี่คลายลงไปได้ด้วยการหันหน้ามาพูดคุยและเจรจากัน ไม่ใช่การเผชิญหน้ากัน และถ้าท่านต้องการทาง ITF มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความช่วยเหลือหรือช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยใช้ความชำนาญ ความเชี่ยวชาญทั้งหมดที่เรามีอยู่

สุดท้ายนี้ ITF ด้วยความสมานฉันท์กับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) สมาชิกของเรา ขอเรียกร้องให้ท่านรับพนักงานทั้งหมดที่ถูกไล่ออกให้กลับเข้าไปทำงานตามเดิมในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยยุตินโยบายที่จะคุกคามและปฏิบัติต่อสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยอย่างไม่เป็นธรรม

ขอแสดงความนับถือ

เดวิด คอครอฟท์
เลขาธิการใหญ่ สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF)






จดหมายจากโคอิชิ วาตานาเบะ ประธานคณะกรรมการสหภาพแรงงานขนส่งแห่งประเทศญี่ปุ่น (KOUNROKYO/ITF-JC)

คำแปล
ฯพณฯ อัครราชทูตพิชัย อิศรภักดี
สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศญี่ปุ่น
คามิ-โอซากิ. ชินากาว่า-กุ
กรุงโตเกียว 141-0021

2 พฤศจิกายน 2552

เรียน ฯพณฯ อัครราชทูตพิชัย อิศรภักดี

การสนับสนุนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย กรณีข้อพิพาทเรื่อง ความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารในการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยตามที่ได้ตกลงไว้

ในนามของสมาชิกจำนวน 426,300 คนซึ่งเป็นสมาชิกของ คณะกรรมการสหภาพแรงงานขนส่งแห่งประเทศญี่ปุ่น (KOUNROKYO/ITF-JC) เราได้เขียนหนังสือฉบับนี้ถึงท่านเพื่อเรียกร้องให้ท่านเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) และการรถไฟแห่งประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เราทราบมาว่ากรรมการสหภาพแรงงานฯ ในสาขาหาดใหญ่จำนวน 6 คน ได้ถูกฝ่ายบริหารของการถไฟแห่งประเทศไทยไล่ออกจากงาน เนื่องจากการประท้วงที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ในขณะที่เราเขียนหนังสือฉบับนี้ถึงท่านนั้น เรายังได้รับทราบข้อมูลว่าผู้นำระดับสูง ซึ่งรวมถึงประธาน รองประธาน และเลขานุการของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยก็จะถูกไล่ออกในเร็วๆนี้ และมีอีก 18 คน ที่อาจจะถูกไล่ออกตามมาอีกด้วย

เราไม่สามารถยอมรับทัศนคติและการกระทำของฝ่ายบริหาร ไม่ว่าในประเทศใดก็ตามที่ตอบโต้การประท้วงที่ชอบด้วยกฎหมายแบบนี้ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานที่สำคัญ ตามที่ได้รับการคุ้มครองในอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เรารู้สึกเห็นใจและเข้าใจในเหตุผลของสหภาพแรงงานในการประท้วงครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เราตกใจมากเมื่อทราบว่าการขาดแคลนพนักงานของการรถไฟฯ ได้ทำให้พนักงานขับรถและช่างเครื่องจำนวนมากต้องทำงานติดต่อกันมากกว่า 30 วันโดยไม่มีวันพักผ่อน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าวิธีปฏิบัติเช่นนี้เป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุทางรถไฟที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งสังคมนานาประเทศรวมทั้งคณะกรรมการสหภาพแรงงานขนส่งแห่งประเทศญี่ปุ่น(KOUNROKYO/ITF-JC) รู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงที่เลวร้ายเช่นนี้

ในฐานะที่เป็นนายจ้าง, การรถไฟแห่งประเทศไทย จะต้องรับผิดชอบต่อมาตรการที่จะทำให้ขบวนรถไฟ และการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของกิจการรถไฟนั้นมีความปลอดภัย พนักงานรถไฟที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปตามตารางเวลาเดินรถที่กำหนด ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายที่ต้องการจะลดจำนวนพนักงานลง ถือเป็นนโยบายการบริหารงานที่ไม่สามารถยอมรับได้ ผลจากนโยบายการลดจำนวนพนักงานนี้ ได้นำไปสู่ปัญหาความเหนื่อยล้าในการทำงานของพนักงานรถจักรที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา การที่ฝ่ายบริหารโทษพนักงานขับรถเพียงฝ่ายเดียว และการโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับพนักงานขับรถที่ต้องกลายเป็นผู้รับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารงานขององค์กรเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง

เรามีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าปัญหาความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นระหว่างสหภาพแรงงานและฝ่ายบริหารในการรถไฟฯ นั้น จะสามารถคลี่คลายลงไปได้ด้วยการหันหน้ามาพูดคุยและเจรจากัน ไม่ใช่การเผชิญหน้ากัน

คณะกรรมการสหภาพแรงงานขนส่งแห่งประเทศญี่ปุ่น (KOUNROKYO/ITF-JC) ด้วยความสมานฉันท์กับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.)ขอเรียกร้องให้ท่านรับพนักงานทั้งหมดที่ถูกไล่ออกให้กลับเข้าไปทำงานตามเดิมในทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยยุตินโยบายที่จะคุกคามและปฏิบัติต่อสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยอย่างไม่เป็นธรรม

ขอแสดงความนับถือ

โคอิชิ วาตานาเบะ
ประธาน
คณะกรรมการสหภาพแรงงานขนส่งแห่งประเทศญี่ปุ่น (KOUNROKYO/ITF-JC)



จดหมายจากนายชีวา โกปาล มิชรา เลขาธิการใหญ่สหพันธ์คนงานรถไฟทั่วประเทศอินเดีย (AIRF)


คำแปล
นายยุทธนา ทัพเจริญ
การรถไฟแห่งประเทศไทย
อีเมล์. info@railway.co.th
แฟกซ์ +66 22204159
30 ตุลาคม 2552
เรียน คุณยุทธนา

สหพันธ์คนงานรถไฟทั่วประเทศอินเดีย (AIRF) ในนามของสมาชิกจำนวน 1.5 ล้านคนของการขนส่งทางรถไฟทั่วประเทศอินเดีย ได้ส่งหนังสือฉบับนี้มายังท่านเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ในเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยของการทำขบวนรถไฟหน้าที่และความรับผิดชอบต่อการดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยของขบวนรถไฟ และการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของกิจการรถไฟนั้น ถือเป็นหน้าที่หลักโดยตรงของท่านในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหาร และเพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปตามตารางเวลาเดินรถที่กำหนด ประกอบกับนโยบายที่เจตนาจะลดจำนวนพนักงานลง ทำให้พนักงานรถไฟต้องทำงานอย่างหนักมากเกินกำลังนั้น ถือเป็นนโยบายการบริหารงานที่ไม่สามารถยอมรับได้

เราได้รับแจ้งจากทางสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) ว่าผลจากนโยบายการลดจำนวนพนักงานนี้ได้นำไปสู่ปัญหาความเหนื่อยล้าในการทำงานของพนักงานรถจักรที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเหนื่อยล้าในการทำงานอย่างหนักแล้ว ปัญหาความไม่สมบูรณ์และไม่ได้มาตรฐานของอุปกรณ์รถจักรรถพ่วง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟ ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก การที่ฝ่ายบริหารโทษพนักงานขับรถเพียงฝ่ายเดียว และการโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับพนักงานขับรถที่ต้องกลายเป็นผู้รับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารงานขององค์กรเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้เรายังทราบมาอีกว่าอุปกรณ์หลักที่สำคัญด้านความปลอดภัยหลายรายการบนรถไฟนั้นชำรุด ไม่อยู่ในสภาพที่สามารถใช้การได้ ดังนั้นทางฝ่ายบริหารก็ไม่ควรให้นำรถไฟในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ไม่มีความปลอดภัยเช่นนี้ออกไปให้บริการประชาชน

สถานการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารที่ละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่ได้ตกลงไว้กับสหภาพแรงงาน ในการที่จะปกป้องพนักงานและประชาชนผู้ใช้บริการจากอุบัติเหตุ และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

สุดท้ายเราขอประณามการใช้โครงสร้างอำนาจการบริหารของรัฐที่กระทำต่อสมาชิกและกรรมการของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.)การใช้อำนาจตำรวจและศาลในการจำกัดการดำเนินงานของสหภาพแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในการที่จะเปิดเผยถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากวิธีการบริหารจัดการความปลอดภัยของท่านนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ การโยนความผิดหรือการเอาแต่โทษพนักงานเพียงฝ่ายเดียวสำหรับความล้มเหลวเชิงโครงสร้างในด้านมาตรการต่างๆที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง เราขอเรียกร้องให้ท่านคำนึงถึง ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety First) ในการบริหารงานกิจการรถไฟ

ขอแสดงความนับถือ

ชีวา โกปาล มิชรา
เลขาธิการใหญ่สหพันธ์คนงานรถไฟทั่วประเทศอินเดีย (AIRF)

สำเนาถึง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมและสำนักรัฐมนตรี
คุณแม็ค อุราตะ เลขาธิการ ITF สาขาการขนส่งทางบก
คุณมาเฮนดรา ชาร์มา เลขาธิการ ITF ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค


จดหมายจากนายวิลเฮม ฮาเบอร์เซ็ท ประธานสาขาการขนส่ง สหภาพแรงงานวีด้า ประเทศออสเตรีย

คำแปล
กรุงเวียนนา 2 พฤศจิกายน 2552
ด้วยความสมานฉันท์และเป็นเอกภาพกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.)
เรียน ผู้ที่เกี่ยวข้อง

เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารในการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยตามที่ได้ตกลงไว้ เราส่งหนังสือฉบับนี้มายังท่าน เพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) ซึ่งเป็นสมาชิกของเรา ในเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยของการทำขบวนรถไฟ

ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารและนายจ้างในการดำเนินการใดๆ ให้ขบวนรถไฟ และการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของกิจการรถไฟนั้นมีความปลอดภัย พนักงานรถไฟที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปตามตารางเวลาเดินรถที่กำหนด ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายที่ต้องการจะลดจำนวนพนักงานลง ถือเป็นนโยบายการบริหารงานที่ไม่สามารถยอมรับได้

เราได้รับรายงานจากสหภาพฯ ว่าผลจากนโยบายการลดจำนวนพนักงานนี้ ได้นำไปสู่ปัญหาความเหนื่อยล้าในการทำงานของพนักงานรถจักรที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเหนื่อยล้าในการทำงานอย่างหนักแล้ว ปัญหาความไม่สมบูรณ์และไม่ได้มาตรฐานของอุปกรณ์รถจักรรถพ่วง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟ ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก การที่ฝ่ายบริหารโทษพนักงานขับรถเพียงฝ่ายเดียว และการโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับพนักงานขับรถที่ต้องกลายเป็นผู้รับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารงานขององค์กรเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้เรายังทราบมาอีกว่าอุปกรณ์หลักที่สำคัญด้านความปลอดภัยจำนวนหลายรายการบนรถไฟนั้นชำรุดไม่อยู่ในสภาพที่สามารถใช้การได้ ดังนั้นทางฝ่ายบริหารก็ไม่ควรให้นำรถไฟในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ไม่มีความปลอดภัยเช่นนี้ออกไปให้บริการประชาชน สถานการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารที่ละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่ได้ตกลงไว้กับสหภาพแรงงาน ในการที่จะปกป้องพนักงานและประชาชนผู้ใช้บริการจากอุบัติเหตุ และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น เราขอประณามการใช้โครงสร้างอำนาจการบริหารของรัฐที่กระทำต่อสมาชิกและกรรมการของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) การใช้อำนาจตำรวจและศาลในการจำกัดการดำเนินงานของสหภาพแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในการที่จะเปิดเผยถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากวิธีการบริหารจัดการความปลอดภัยของท่านนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เราขอสนับสนุนข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานที่เรียกร้องให้การรถไฟแห่งประเทศไทยในฐานะนายจ้างให้ปฏิบัติตามข้อตกลงด้านความปลอดภัยที่ได้ตกลงกันไว้ การโยนความผิดหรือการเอาแต่โทษพนักงานเพียงฝ่ายเดียวสำหรับความล้มเหลวเชิงโครงสร้างในด้านมาตรการต่างๆที่เกิดขึ้นจากการบริหารงาน เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง

เราขอเรียกร้องให้ท่านรับกรรมการสหภาพแรงงานที่ถูกเลิกจ้างทั้งหมดกลับเข้าทำงานตามเดิม และขอเรียกร้องให้ท่านกำหนดการบริหารกิจการรถไฟโดยคำนึงถึง ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety First) ตามที่ได้ลงนามข้อตกลงไว้กับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย

ขอแสดงความนับถือ

วิลเฮม ฮาเบอร์เซ็ท
ประธานสาขาการขนส่ง สหภาพแรงงานวีด้า ประเทศออสเตรีย

ส่งถึง การรถไฟแห่งประเทศไทย
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมและสำนักรัฐมนตรี



จดหมายจากนายเอ็ม แอล เบลานี เลขาธิการใหญ่ สหภาพแรงงานขนส่งและแรงงานท่าเรือกานดลา

คำแปล
นายยุทธนา ทัพเจริญ
การรถไฟแห่งประเทศไทย
อีเมล์. info@railway.co.th
แฟกซ์ +66 22204159

30 ตุลาคม 2552

เรียน คุณยุทธนา

ความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารในการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยตามที่ได้ตกลงไว้ในนามของสหภาพแรงงานขนส่งและแรงงานท่าเรือกานดลา (Kandla) แห่งประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสมาชิกของสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) ส่งหนังสือฉบับนี้มายังท่านเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ในเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยของการทำขบวนรถไฟ

หน้าที่และความรับผิดชอบต่อการดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยของขบวนรถไฟ และการบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆของกิจการรถไฟนั้น ถือเป็นหน้าที่หลักโดยตรงของท่านในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหาร และเพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปตามตารางเวลาเดินรถที่กำหนด ประกอบกับนโยบายที่เจตนาจะลดจำนวนพนักงานลง ทำให้พนักงานรถไฟต้องทำงานอย่างหนักมากเกินกำลังนั้น ถือเป็นนโยบายการบริหารงานที่ไม่สามารถยอมรับได้

เราได้รับแจ้งจากทาง สร.รฟท. ว่าผลจากนโยบายการลดจำนวนพนักงานนี้ ได้นำไปสู่ปัญหาความเหนื่อยล้าในการทำงานของพนักงานรถจักรที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเหนื่อยล้าในการทำงานอย่างหนักแล้ว ปัญหาความไม่สมบูรณ์และไม่ได้มาตรฐานของอุปกรณ์รถจักรรถพ่วง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟ ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก การที่ฝ่ายบริหารโทษพนักงานขับรถเพียงฝ่ายเดียว และการโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับพนักงานขับรถที่ต้องกลายเป็นผู้รับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารงานขององค์กรเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้เรายังทราบมาอีกว่าอุปกรณ์หลักที่สำคัญด้านความปลอดภัยหลายรายการบนรถไฟนั้นชำรุด ไม่อยู่ในสภาพที่สามารถใช้การได้ ดังนั้นทางฝ่ายบริหารก็ไม่ควรให้นำรถไฟในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ไม่มีความปลอดภัยเช่นนี้ออกไปให้บริการประชาชน

สถานการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารที่ละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่ได้ตกลงไว้กับสหภาพแรงงาน ในการที่จะปกป้องพนักงานและประชาชนผู้ใช้บริการจากอุบัติเหตุ และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

สหภาพแรงงานขนส่งและแรงงานท่าเรือกานดลา แห่งประเทศอินเดีย ขอประณามการใช้โครงสร้างอำนาจการบริหารของรัฐที่กระทำต่อสมาชิกและกรรมการของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) การใช้อำนาจตำรวจและศาลในการจำกัดการดำเนินงานของสหภาพแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในการที่จะเปิดเผยถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากวิธีการบริหารจัดการความปลอดภัยของท่านนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ การโยนความผิดหรือการเอาแต่โทษพนักงานเพียงฝ่ายเดียวสำหรับความล้มเหลวเชิงโครงสร้างในด้านมาตรการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริหารงาน เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง เราขอเรียกร้องให้ท่านคำนึงถึง ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety First) ในการบริหารงานกิจการรถไฟ

ขอแสดงความนับถือ

เอ็ม แอล เบลานี
เลขาธิการใหญ่ สหภาพแรงงานขนส่งและแรงงานท่าเรือกานดลา

สำเนาถึง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมและสำนักรัฐมนตรี



จดหมายจากสหภาพพนักงานการรถไฟบังกลาเทศ



กำลังโหลดความคิดเห็น