แทงเนียน - เวียดนามพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาครั้งใหญ่ การแข่งขันกีฬาเอเเชียนอินดอร์เกมส์ Asian Indoor Games ครั้งที่ 3 ที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 30 ต.ค. - 8 พ.ย. นี้ ซึ่งประเทศไทยส่งนักกีฬา ครูฝึกและเจ้าหน้าที่ไปร่วมด้วยกว่า 400 คน
แม้ว่าเวียดนามจะประสบกับความท้าทายในการหาผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาในช่วงที่มีภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำเช่นนี้ แต่ทางผู้จัดการแข่งขันกล่าวว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและพร้อมที่จะทำพิธีเปิดการแข่งขันขึ้นที่สนามกีฬา My Ding ในวันศุกร์นี้
"เรามีโอกาสที่จะได้ประชาสัมพันธ์ประเทศของเราและประชาชนของเรา" นายฮว่างวีงซยาง (Hoang Vinh Giang) เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการสภาโอลิมปิกแห่งเวียดนาม กล่าว
รัฐบาลคอมมิวนิสต์ได้ลงทุนไปกับการจัดการแข่งขันครั้งนี้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ โดยประมาณ 1 ใน 3 ของการลงทุนใช้ไปกับการก่อสร้างสนามกีฬาในร่มแห่งใหม่ และยังได้ปรับปรุงสนามกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ (Southest Asian Games 2003) รองรับการแข่ง
ขันกีฬาอีกหลายๆ ประเภท รวมถึงบรรดานักกีฬา โค้ช ผู้จัดการทีม กว่า 5,000 ชีวิตจาก 40 ประเทศ ที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย
ก่อนถึงวันปิดการแข่งขันกีฬาที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. มีกีฬาที่ใช้แข่งขันกว่า 20 รายการ ตั้งแต่กีฬาสากลไปจนถึงกีฬาพื้นบ้านในภูมิภาค ได้แก่ กรีฑาในร่ม, ว่ายน้ำระยะสั้น-ฟินสวิมมิ่ง, ลีลาศ, เปตอง, ศิลปะป้องกันตัวสตรี (มวยสากลสมัครเล่น และ วูซู), ชัตเติ้ลค็อก, ตะกร้อลอดบ่วง, กาบัดดี้, คูราช, อี-สปอร์ต, ยิงธนู, ปันจักสีลัต, หมากรุก(สากล-จีน), ฟุตซอล, บาสเกตบอล 3 คน, ศิลปะป้องกันตัวประเภทชาย, บิลเลียด-สนุ้กเกอร์, เชิดสิงโต-มังกร, โบว์ลิ่ง และ ยูยิตสู (สาธิต)
เนื่องจากการแข่งขันกีฬาที่หลากหลายนี้ทำให้การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์เป็นรายการแข่งขันกีฬาที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาหลายกลุ่มมีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันอย่างกว้างขวาง นายเหว่ยจื้อซ่ง (Wei Jizhong) ที่ปรึกษาด้านกีฬาและคณะกรรมการสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) ระบุ
การแข่งขันส่วนใหญ่จะจัดในกรุงฮานอยและบริเวณชานเมืองโดยรอบ ส่วนการแข่งขันบางประเภทจะจัดขึ้นที่นครโฮจิมินห์ ซึ่งนายซยางกล่าวว่า เตรียมการมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยส่วนที่ยากที่สุดเห็นจะเป็นการหาผู้สนับสนุนการแข่งขัน เนื่องจากหลายๆ บริษัทลังเลใจที่จะร่วมลงทุนในการโฆษณา
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ในตอนนี้มีหลายบริษัทเข้าร่วมสนับสนุนแล้ว และคณะกรรมการจัดการแข่งขันจำเป็นต้องจ่ายเงินคืนให้กับรัฐบาล 1 ล้านดอลลาร์ที่ได้จากการจัดงานประชาสัมพันธ์ทางการตลาด
"ในตอนนี้เราคิดว่าเราสามารถหาเงินได้มากกว่า 2 ล้านดอลลาร์" นายซยางกล่าว
ส่วนนายเหว่ย ประธานที่ปรึกษา OCA กล่าวว่า เขาไม่มีความกังวลด้านการเงินเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬารายการนี้ เพราะพวกเขามีผู้สนับสนุนที่ดีเช่นรัฐบาล ประเทศเจ้าภาพคาดว่าจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมชุดใหญ่ มากกว่า 500 คน โดยไทยส่งนักกีฬาและสต๊าฟโค้ชเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ประมาณ 420 คน ส่วนประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันจากแดนไกล เช่น อิหร่านส่งนักกีฬามาถึง 367 คน ในขณะที่อิรักส่งมา 130 คน แม้ประเทศจะมีสงครามอยู่ตลอดก็ตาม สำหรับประเทศเล็กๆ อย่างภูฏานส่งทีมนักกีฬามาทั้งหมด 6 คน
นายซยางรู้สึกพึงพอใจกับการที่มีหลายประเทศตอบรับและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ และเขาคาดหวังว่าประเทศเจ้าบ้านจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้เช่นกัน
"เราตั้งเป้าที่จะคว้าเหรียญทองทั้งหมด 15 - 20 เหรียญ" นายซยางกล่าว
ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์เกมส์เมื่อ 2 ปีก่อนที่จัดขึ้นที่มาเก๊า เวียดนามสามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ทั้งหมด 18 เหรียญ เป็นเหรียญทอง 2 เหรียญ
นายซยางทำนายว่าเวียดนามจะสามารถคว้าเหรียญทองได้ 6 เหรียญ จากกีฬาหวอหวี่นาม ( Vovinam) ที่เป็นกีฬาที่รวมเอาศิลปะการต่อสู้ท้องถิ่นกับมวยปล้ำเข้าด้วยกัน และกีฬาปันจักสีลัต วูซู และกีฬาการต่อสู้ประเภทอื่นๆ ซึ่งการตั้งเป้าคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ ไว้เช่นนี้จะช่วยกระตุ้นความสนใจของประชาชนในประเทศได้ดียิ่งขึ้น
"ถ้าผมมีเวลาและเงิน บางทีผมอาจจะไปนั่งชมการแข่งขัน" เจิ่นกวางเลิม (Tran Quang LamX คนงานก่อสร้างที่ปกติจะเสียเงินค่าตั๋วเข้าไปชมฟุตบอล กล่าว
นายเลิมได้ยินข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬานี้ แต่คนอื่นๆ ดูจะไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีการโฆษณาผ่านโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือป้ายประกาศตามที่ต่างๆ ก็ตาม
"มันไม่ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ ใช่ไหม" พ่อค้าขายล็อตเตอร์รี่ กล่าว "ผมไม่เคยได้ยินคนพูดถึงเรื่องนี้เลย"
อย่างไรก็ตามการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์เกมส์ในลักษณะนี้คงจะเป็นการแข่งขันครั้งสุดท้าย เพราะในอนาคตจะยุบรวมเข้ากับการแข่งขันกีฬาศิลปะป้องกันตัวเอเชีย ในชื่อ "เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์" โดยประเทศกาตาร์รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปี 2556.