“มาตุภูมิ” ตะเพิด “จิ๋ว” อย่าพล่ามตั้งรัฐปัตตานี้ จี้ถามเจ้าของพื้นที่

“อารีเพ็ญ” ชี้ “บิ๊กจิ๋ว” มีแนวคิดตั้งรัฐนครปัตตานี เป็นเรื่องอดีตที่ยังจับต้องไม่ได้ ตะเพิดควรไปถามเจ้าของพื้นที่ตัวจริง เห็นด้วยหรือไม่ ส่วนเรื่องนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่กระทำความผิดทางอาญาคงทำไม่ได้ เชื่อนายกฯไม่นำปัญหาชาติไปหารือกับต่างประเทศ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (4 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคมาตุภูมิ กล่าวถึงแนวคิดการตั้งรัฐนครปัตตานีของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยว่า แนวคิดดังกล่าว พล.อ.ชวลิต เคยเสนอตั้งแต่ปี 2547 สมัยเป็นรัฐบาล แต่ก็ได้ถูกปรับออกจากตำแหน่งไปก่อน และเมื่อได้เดินทางไปปัตตานีในครั้งนี้ก็ได้พูดถึงการตั้งรัฐนครปัตตานี เพื่อกำหนดรูปแบบการปกครองใน 3 จังหวัด และ 4 อำเภอที่มีปัญหา แต่ขณะนี้เป็นเพียงแต่ชื่อ ส่วนโครงสร้างเป็นอย่างไรนั้น ยังไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้น แนวคิดดังกล่าวของ พล.อ.ชวลิต คงเป็นแนวทางที่จะแก้ไขให้เกิดความสงบ ส่วน พล.อ.ชวลิตจะไปติดต่อกับใครนั้นก็ไม่ทราบ แต่ก็เชื่อว่าเป็นความคิดที่ดี ในการนำมาพิจารณา

ส่วนประเด็นการเสนอนิรโทษกรรม นายอารีเพ็ญกล่าวว่า เห็นว่าประเทศต่างๆรวมถึงประเทศไทย ก็เคยดำเนินการมาแล้ว แต่เมื่อนิรโทษกรรมแล้วปัญหาต่างๆ จะยุติหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่อง เพราะบางคนที่ดำเนินการก็มีอุดมการณ์ รวมกับความเชื่อมาแต่โบราณ ซึ่งเชื่อว่าการนิรโทษกรรมจะมีผลในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่คงไม่ยุติในทันทีทันใด แต่สำหรับการก่อเหตุที่ชัดเจนเป็นคดีอาญา ก็คิดว่าต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนในแง่ของอุดมการณ์เป็นเรื่องทางการเมือง ก็น่าจะสามารถนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ไม่ทราบว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คุยกับนายจิบ ราซิก นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียนั้นก็เป็นเรื่องของ นพ.แวมาฮาดี แวดาโอ๊ะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นผู้ออกมาพูด และส่วนตัวเชื่อว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรี จะยกระดับเอาปัญหาภายในประเทศไปคุยกับต่างประเทศ

“สมัยนายอานันท์ (ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี) ก็เคยคุยเรื่องการปกครองแบบเฉพาะ และมีการสรุปว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้น่าจะมีรูปแบบเฉพาะ ให้สอดคล้องกับประวัติศาสตร์และวิถีชีวิต แต่แนวคิดของ พล.อ.ชวลิต ยังไม่มีการจัดรูปแบบโครงสร้าง และขอบเขตอำนาจอย่างชัดเจน” นายอารีเพ็ญกล่าว

ส่วนกรณีที่ นพ.แวมาฮาดี ออกมาระบุถึงความขัดแย้งระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงนั้น นายอารีเพ็ญกล่าวว่า ตนยังไม่เห็น และยังไม่เข้าใจไปลึกถึงขนาดนั้น แต่นโยบายการเมืองนำการทหารนั้นก็มาจากรัฐบาล ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยก็ไม่ทราบอีกเช่นกัน และการตั้งรัฐนครปัตตานีของพรรคเพื่อไทยก็เป็นเพียงแต่ชื่อ ซึ่งทำให้ประชาชนสับสน แต่หากเป็นการจัดรูปแบบการปกครอง รัฐบาลชุดปัจจุบันก็ได้ปฏิเสธ

“หากอนาคตพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล ก็ให้ถามความเห็นจากสมาชิกพรรคว่า เห็นด้วยหรือไม่ เพราะเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยมีเจ้าของ ดังนั้น ต้องถามเจ้าของตัวจริงว่า เห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ต้องทำตามกระบวนการนี้ก่อน และเห็นว่ากลไกบุคลากรในพรรคเพื่อไทย เป็นสายเหยี่ยวเยอะ หากเปรียบเป็นทหารก็เหมือนพวกที่ชอบใช้ความรุนแรง จึงไม่แน่ใจว่าในพรรคเพื่อไทย มีเอกภาพหรือไม่ หรือถ้าให้ดี พรรคเพื่อไทยควรประกาศนโยบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน” นายอารีเพ็ญกล่าว

เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการรับลูกมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่ นายอารีเพ็ญกล่าวว่า เชื่อว่าไม่ใช่ เพราะตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาลก็ไม่เคยมีแนวคิดในเรื่องดังกล่าว