นายกฯยอมรับ ชวน “พล.ต.อ.ธานี” ช่วยงานด้านความมั่นคง เชื่อมือมีประสบการณ์สามารถให้คำปรึกษาได้ เผยจะพบกันอีกครั้ง หลังเจ้าตัวขอคิด 1 อาทิตย์ จะให้คำตอบ หลังเมื่อเช้า ดอดนัดเจอ “ธานี” ที่ร้านอาหารใกล้บ้านกว่า 20 นาที
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (1 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดึง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรอง ผบ.ตร.และหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ที่จริงชวนท่านตั้งแต่ก่อนเกษียณ ท่านขอคิดดูก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่า นายกฯได้พบกับ พล.ต.อ.ธานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ได้คุยกัน ท่านมาสอบถามว่ายังไง ตนก็บอกว่า โดยประสบการณ์ของท่านสามารถมาให้คำปรึกษาตนได้หลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานที่ผ่านเคยทำ แต่ตอนนี้ยังรอดูว่าท่านจะว่าอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำแหน่งที่ปรึกษาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตำแหน่งยังไม่ได้คุยกัน คุยกันในเรื่องงาน เมื่อถามว่างานที่จะให้ดูเรื่องพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะคดีต่างๆที่ยังไม่ได้ข้อสรุป นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ได้เจาะจงเฉพาะพื้นที่ แต่อันนี้รอฟังว่าท่านคิดอย่างไร เพราะท่านยังไม่ได้ตอบรับ เมื่อถามว่า หลักที่จะให้เข้ามาดูเกี่ยวกับเรื่องคดีต่างๆ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นงานความมั่นคง เพราะท่านเคยทำงานด้านนี้มา
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ธานี บอกหรือไม่ว่าจะให้คำตอบได้เมื่อไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประมาณอาทิตย์หนึ่ง เมื่อถามว่า จะต้องมีการพบกันอีกครั้งหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า คงมาพบกันอีกที
ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสร็จจากการออกรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์” ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต ในช่วงเช้าแล้ว ก็ได้เดินทางกลับบ้านพัก ย่านถนนสุขุมวิท ทันที โดยไม่ทราบว่าระหว่างนั้น พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อดีตรอง ผบ.ตร.มารอพบ แต่ก็ไม่ได้พบ ต่อมาเวลาประมาณ 10.15 น.พล.ต.อ.ธานี ก็ได้เดินทางไปพบ นายอภิสิทธิ์ ที่ร้านอาหาร(NOODERN) ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงบ้านพักของ นายอภิสิทธิ์ โดยมี นายศิริโชค โสภา เป็นผู้ทำหน้าที่ประสาน โดย นายอภิสิทธิ์ ได้ออกมาจากบ้านพักเพื่อมาพบ พล.ต.อ.ธานี โดยได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ธานี นานประมาณ 20 นาที โดยบุคคลทั้ง 2 ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น