xs
xsm
sm
md
lg

“ศิริโชค” ขยายผล ชี้ตอ “สนธิ” โยง โยกโผ ตร.เล็งแฉข้อมูลรับจ๊อบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศิริโชค โสภา
วอลเปเปอร์รัฐบาล เตรียมชงข้อมูลนาย ตร.ใกล้ชิด ผบ.ตร รับจ๊อบวิ่งเต้นโยกย้าย เข้า กมธ.ตำรวจ พร้อมส่งให้ “เทพเทือก” ตัดสินใจก่อนโผโยกย้ายคลอด ด้าน ปธ.กมธ.ตร.เด้งรับลั่นพร้อมตรวจสอบตามเนื้อผ้า

วันนี้ (12 ส.ค.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีโผโยกย้ายระดับนายตำรวจ หลังจากที่ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีนายตำรวจผู้ใกล้ชิดกับ ผบ.ตร.เป็นนายหน้าวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง ว่า ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมข้อมูลการซื้อขายและโยกย้ายตำรวจ ที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งจะต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่การตรวจสอบของคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพราะมันมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นกับนายตำรวจหลายคน โดยเฉพาะในภาค 7 ที่มีปัญหาการซื้อขายตำแหน่งมากเป็นพิเศษ ลองไปสอบถามตำรวจที่นั่นดูสิว่า การโยกย้ายหากไม่มีเงินเลิกคิดได้เลย เพียงแต่เขาไม่กล้าพูดเท่านั้น เพราะเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย เกรงว่า จะได้รับผลทบต่ออนาคตในอาชีพตำรวจ

นายศิริโชค ยืนยันว่า การยื่นข้อมูลให้มีการตรวจสอบครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยว เพราะตนได้รับการ้องเรียนมาเยอะ และตั้งใจนำเสนอให้รัฐบาลในการแก้ไขปัญหา เพราะต้องการทำอย่างไรให้คนที่ตั้งใจทำงานได้มีโอกาสในการก้าวหน้า และเป็นกำลังหลักให้ประชาชน ช่วงนี้เป็นจังหวะดีในเรื่องของตอ คดีลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และฤดูการโยกย้าย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อพนักการสอบสวนในคดีนี้ จึงทำให้โผระดับนายพันหยุดนิ่งลง และฝ่ายเสียประโยชน์ ออกมาปลุกปันเป็นการปล่อยข่าวจับแพะชนแกะ

ส่วนจะเอาข้อมูลทั้งหมดมอบให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงที่กำกับดูแสสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นายศิริโชค กล่าวว่า ตนตั้งใจจะมอบให้รัฐบาลอยู่แล้ว หาก นายสุเทพ ต้องการข้อมูลตนก็พร้อมที่จะมอบให้อยู่แล้ว เพื่อประกอบการตัดสินใจจัดโผโยกย้ายตำรวจระดับนายพันลงมา

ด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า มีบุคคลใกล้ชิด ผบ.ตร.เร่ขายตำแหน่งนายตำรวจระดับยศพันตำรวจในอัตรา 2-5 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้ตนเคยออกมาบอกแล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ทั้งคนในพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคการเมืองอื่น หรือข้าราชการและผู้ที่ได้รับผลกระทบ หากคิดว่ามีข้อมูลและมีหลักฐาน พยานใดๆ ก็ขอให้นำมาร้องเรียนได้ที่ตน หรือที่ห้องคณะกรรมาธิการตำรวจ เพราะการจะพูดจาหรือการตั้งข้อสังเกตใดๆ ต่อสังคมวงกว้างในทุกเรื่องย่อมมีผู้ที่ได้รับผลกระทบและตกเป็นผู้ถูกครหา หรือพูดง่ายๆ ใครก็พูดได้ประเภทได้ยินคนนั้นคนนี้พูดกันมาแล้วเอามาพูดต่อ มันก็ยิ่งเป็นเรื่อง ขยายกันไปอีก ดังนั้นการที่พูดเรื่องอะไรออกไปแล้วคนที่พูด ที่ออกมาเปิดเผยต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วยว่าพูดอะไรออกไป

“หากมั่นใจในข้อมูลและหลักฐานที่มี เอามายื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการตำรวจได้เลย รับรองว่าผมจะดำเนินการไปตามเนื้อผ้า ว่า ไปตามหลักฐานและเหตุผลตลอดจนพฤติการณ์ที่ปรากฏ เพราะเรื่องอย่างนี้ปิดกันไม่มืดถ้าเกิดขึ้นจริง แต่การพูดลอยๆ โดยไม่มีอะไรยืนยันต้องระวัง”
กำลังโหลดความคิดเห็น